READING

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 ...

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 อย่างไรกันบ้าง (มาเลเซีย)

วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คุณพ่อคุณแม่แทบจะทั่วโลก ต่างต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกัน คือ ลูกออกไปโรงเรียนไม่ได้ ตัวเองก็ออกไปทำงานก็ไม่ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ น่าจะทำให้พ่อแม่ทั่วโลกมีความรู้สึกร่วมกันคือ เงินก็ต้องหา งานก็ต้องทำ โรคก็ต้องหวั่นใจ เรื่องลูกก็ต้องรับมือ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม

M.O.M จึงไปลองถามไถ่คุณแม่ชาวไทยในประเทศต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง หนักหน่วงแค่ไหน รับมือไหวหรือเปล่า และได้รับความช่วยเหลือดูแลจากประเทศนั้นๆ อย่างไร เด็กๆ ได้รับผลกระทบแค่ไหน และที่สำคัญก็คือ คุณแม่ยังไหวไหม บอกมา…

และไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก M.O.M ก็ขอส่งกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน มีเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่เข้ามา มีพลังมากมายในการดูแลเด็กๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้พวกเราทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้อย่างปลอดภัยทุกบ้านเลยค่ะ

ปีนัง, มาเลเซีย

แม่จัสมิน

น้องนารา (3 ขวบ)

Q: สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

ตอนนี้ที่ปีนังก็จะเหมือนกับมาเลเซียทั้งประเทศค่ะ คือห้ามออกจากบ้านเว้นเหตุจำเป็น ซึ่งเหตุจำเป็นก็เช่น ไปจ่ายกับข้าว ไปซื้อยา ไปโรงพยาบาล แต่ออกได้แค่ครอบครัวละหนึ่งคน เด็กห้ามออก ตำรวจมีตั้งด่านตรวจตามถนน  สนามบินปิด ยกเว้นรับคนมาเลเซียกลับประเทศ ห้างปิดหมดยกเว้นซูเปอร์มาร์เก็ตกับร้านขายยา ร้านอาหารส่วนใหญ่ปิด แต่บางร้านก็เปิดให้สั่งกลับบ้านหรือมีเดลิเวรี่ หลายร้านถ้าไม่ใส่หน้ากากอนามัยห้ามเข้า และโรงเรียนก็ปิด

หรืออย่างร้านขายยาที่สามีไปมาเขาจะจดออร์เดอร์หน้าร้านแล้วให้พนักงานไปจัดยามาส่งให้  ข้าวของยังซื้อได้ ไม่เห็นใครตุนของอย่างบ้าคลั่ง ตอนนี้จะเป็นอย่างนี้ไปจนถึง 14 เมษายน แต่เดาว่าน่าจะยืดออกไปอีกค่ะ

Q: รัฐช่วยเหลืออะไรบ้างไหม

ไม่ได้มีการช่วยเหลืออะไรเป็นพิเศษ แต่จะได้รับ SMS จากรัฐบาลมาเรื่อยๆ ว่ามีอะไรปิดบริการ มีอัปเดตเรื่อง Movement Control Order (มาตรการควบคุมการเดินทางของประชาชน) หรือใครที่เพิ่งบินเข้าประเทศมาจากไฟลท์ไหน แต่จะเป็นภาษา Bahasa ทั้งหมด เราที่เป็นชาวต่างชาติ อ่านไม่เข้าใจ ก็ต้องอาศัย Google Translate เอา

Q: เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

โรงเรียนลูกปิด โรงเรียนพ่อแม่ก็ปิด (พ่อแม่เป็นครูในโรงเรียนอินเตอร์ทั้งคู่ค่ะ) โรงเรียนลูกเป็น local nursery ก็จะมีจัด learning pack ให้เข้าไปรับ ครูจัดพวกชีตลากเส้นประ จัดชุดตัดแปะ ระบายสีต่างๆ มีแบ่งสีใส่ตลับเล็กๆ แล้วก็ส่งวิดีโอตัวอย่างการทำกิจกรรมมาให้

ส่วนบทบาทความเป็นครูของพ่อแม่ ก็ต้องสอนนักเรียนออนไลน์ค่ะ ใช้ Google Classroom สลับกับสอนสดทาง Zoom เรามีเด็กสามขวบอยู่บ้านก็ยากนิดนึง สอนสดตลอดไม่ได้

Q: เด็กๆ ที่บ้านมีความเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง

ลูกก็เข้าใจนะคะว่าออกนอกบ้านไม่ได้เพราะไวรัส ออกเสียงคำว่า Coronavirus ชัดแจ๋วเชียว มีการถามด้วยว่าไวรัสสีอะไร มีสีชมพูมั้ย แล้วไวรัสมีปากมั้ย (ฮา)

ตั้งแต่ก่อนโดนห้ามออกนอกบ้านก็มีให้ใส่หน้ากากอนามัยที่สนามบินกับบนเครื่องบิน อธิบายให้ฟังตรงๆ ว่าไวรัสเล็กมากจะเข้ามาทางจมูก ปาก กับติดมือได้ ให้ล้างมือไปร้อง Happy Birthday ไปสองรอบ ลูกก็ทำตามหมดค่ะ

Q: ในช่วงที่อยู่บ้านกับลูกแบบนี้ ในแต่ละวัน คุณแม่กับเด็กๆ ทำอะไรกันบ้าง  

การบาลานซ์ยากพอสมควร เพราะพ่อแม่ทำงานทั้งคู่ก็ต้องสลับกันดูลูก สลับกันทำงานค่ะ เวลาอยู่กับลูกก็จะเน้นทำกิจกรรมตามที่ลูกอยากทำเลย จะทำอาหาร เล่นเลโก้ ต่อบล็อก ระบายสีอะไรก็จัดมา สลับกับขอให้ทำ learning pack ที่ทางคุณครูจัดให้บ้าง

คิดว่าที่ยากที่สุดคือลูกไม่ได้ออกไปว่ายน้ำเล่นสนามเด็กเล่นปล่อยพลังเหมือนแต่ก่อน เพราะรัฐบาลสั่งปิดทั้งของสาธารณะและของคอนโด ก็อาศัยออกไปเล่น ball hockey หน้ายูนิตเอาค่ะ กับเปิดวิดีโอบัลเล่ต์เด็กเล็กแล้วทำตาม แล้วก็มีซื้อสระเป่าลมมาวางที่ระเบียงคอนโด ก็พอสนุกสนานกันไปได้ค่ะ


Nidnok

‘นิดนก’ เป็นคุณแม่ของน้อง ณนญ / เป็นนักเขียนสาวเชิงรุก เจ้าของผลงานหนังสือ 'POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวย' และ 'TO BE CONTINUE- โปรดติดตามตอนแต่งไป'

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST