READING

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 ...

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 อย่างไรกันบ้าง (สิงคโปร์)

วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คุณพ่อคุณแม่แทบจะทั่วโลก ต่างต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกัน คือ ลูกออกไปโรงเรียนไม่ได้ ตัวเองก็ออกไปทำงานก็ไม่ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ น่าจะทำให้พ่อแม่ทั่วโลกมีความรู้สึกร่วมกันคือ เงินก็ต้องหา งานก็ต้องทำ โรคก็ต้องหวั่นใจ เรื่องลูกก็ต้องรับมือ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม

M.O.M จึงไปลองถามไถ่คุณแม่ชาวไทยในประเทศต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง หนักหน่วงแค่ไหน รับมือไหวหรือเปล่า และได้รับความช่วยเหลือดูแลจากประเทศนั้นๆ อย่างไร เด็กๆ ได้รับผลกระทบแค่ไหน และที่สำคัญก็คือ คุณแม่ยังไหวไหม บอกมา…

และไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก M.O.M ก็ขอส่งกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน มีเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่เข้ามา มีพลังมากมายในการดูแลเด็กๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้พวกเราทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้อย่างปลอดภัยทุกบ้านเลยค่ะ

สิงคโปร์

แม่ลูกแก้ว
น้องร็อคกี้, น้องลีโอ 4ขวบ

singapore_1

Q: สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

จากประกาศล่าสุด วันที่ 3 เมษา ประกาศปิดโรงเรียนและที่ทำงาน เป็นเวลา 30 วัน (ตั้งแต่ 8 เมษา-4 พฤษภา) ดังนั้นเด็กๆ ต้องอยู่บ้าน 30 วัน และพ่อก็ต้องเวิร์กฟรอมโฮม อีก 30 วันเช่นกัน ประกาศนี้หมายถึงการปิดทุกอย่าง ยกเว้นร้านอาหาร ซูเปอร์มาร์เก็ต คาเฟ่ และบริการที่จำเป็นอื่นๆ แต่ยังออกไปซื้อของใช้จำเป็น หรือไปซื้ออาหารตามร้านได้นะคะ แต่ต้อง take away เท่านั้น การเดินทางสาธารณะยังมีปกติค่ะ

พอประกาศปุ๊บ คนก็เริ่มไปซื้อของ คิวยาวเลย แต่ทางห้างเขามีจำกัดจำนวนอยู่แล้ว และของก็ไม่ค่อยขาดเท่าไหร่ อาจเป็นเพราะรัฐบอกว่าอาหารมีพอแน่นอนไม่ต้องตุน และยังไงถ้าขาดเราออกมาซื้อได้อยู่แล้ว ก็เลยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรค่ะ

ส่วนการซื้อของออนไลน์​ การส่งก็จะเป็นแบบ Contactless คือ คนส่งจะวางให้หน้าบ้านแล้วจากไปแบบไม่เห็นหน้ากัน

ตอนนี้รัฐเปลี่ยนจุดยืนเรื่องการใส่หน้ากากจากใส่เฉพาะคนป่วย เป็นให้คนไม่ป่วยก็ควรใส่เพื่อไม่ให้น้ำลายเรากระเด็นไปโดนใคร และแจกหน้ากากผ้าให้ทุกบ้าน

Q: รัฐช่วยเหลืออะไรบ้างไหม

ทางรัฐบาลสิงคโปร์ มีการช่วยเหลือทางการเงิน (Care Package) แต่ต้องเป็นคนสิงคโปร์ หรือ Permanent Resident ถึงจะได้รับความช่วยเหลือนี้ ความช่วยเหลือหลักๆ คือ ทุกคนจะได้รับเงินช่วยเหลือ 300, 600 และ 900 เหรียญสิงคโปร์ (ลดหลั่นตามรายได้ครัวเรือน)

นอกจากนี้คนสูงอายุหรือคนรายได้น้อย ก็จะมีเงิน Top Up หรือแจกคูปองไปซื้อของใช้ในซูเปอร์ฯ  แต่ครอบครัวเราไม่เข้าเกณฑ์จึงไม่ได้รับสิทธิ์เหล่านี้ แต่อย่างอื่นที่รัฐบาลแจก เช่น หน้ากากอนามัยและเจลล้างมือ อันนี้ไปรับได้นะคะ

singapore_2

Q: เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ปิดโรงเรียนก็จะมีมาตรการป้องกันเรื่อยๆ เช่น เด็กหรือครูใครไปต่างประเทศกลับมาให้อยู่บ้าน 14 วัน จนหลังๆ ถึงแม้ไม่ได้ไป แต่มีคนในบ้านกลับมาจากต่างประเทศ ก็ต้องอยู่บ้าน 14 วันเหมือนกัน

ส่วนการปิดโรงเรียน ก็จะมี worksheet material เล็กๆ น้อยๆ มาให้ทำที่บ้าน และครูจะนัดวิดีโอคอลวันละครั้ง แต่เราก็เตรียมพวกของเล่นเพื่อการเรียน เช่น คอมพ์ของเล่น หัดเขียน หัดนับเลข พร้อมหนังสือลากเส้น ระบายสี ไว้แล้ว

แต่ที่เป็นห่วงคือ ลูกอยู่บ้านทั้งวัน  พ่อก็ทำงานทั้งวัน ต้องหาที่ทางให้กัน คอนโดก็เล็กๆ จึงต้องคอยบอกให้ลูกเข้าใจว่าพ่ออยู่บ้านแต่เล่นด้วยไม่ได้นะ กับเรื่องที่ไม่ได้เล่นสนามเด็กเล่น หรือออกไปข้างนอก

Q: เด็กๆ ที่บ้านมีความเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง

ปกติเราออกจากบ้านทุกสัปดาห์ ซึ่งทุกวันหยุดเด็กๆ จะถามว่า Where are we going today, mommy? แต่สามสัปดาห์หลังนี่ คืออยู่บ้านทั้งวัน อาจมีไปขี่จักรยานบ้างนิดหน่อย ซึ่งเราก็บอกว่า เราไปที่โน่นที่นี่ไม่ได้แล้ว เพราะสถานที่ปิด เพราะมีคนป่วย เขาก็เข้าใจ

singapore_3

Q: ในช่วงที่อยู่บ้านกับลูกแบบนี้ ในแต่ละวัน คุณแม่กับเด็กๆ ทำอะไรกันบ้าง  

ปกติเราเป็นแม่บ้านเลย ดังนั้นเราดูลูกเองอยู่แล้ว แต่ไม่เคยอยู่ด้วยกันทุกคนนานขนาดนี้มาก่อน สิ่งที่ทำคือ พยายาม follow ตารางของโรงเรียน เช่น เวลาขนม เวลานอนกลางวัน ตอนเช้าอาจให้ทำ work sheet จากโรงเรียน (อันนี้คือสิ่งที่แม่คิด) งานบ้านเก็บไว้ทำตอนลูกนอน หรือตอนเล่นเพลินๆ ต้องบอกว่าเราก็ให้ลูกดูทีวีหรือยูทูบบ้างเหมือนกัน เพราะบางทีก็ไม่ไหว แม่ต้องตากผ้า ก็ขอเวลาสักนิด

เราก็คิดว่าการที่ได้อยู่กับลูกทั้งวัน อาจได้ทำสิ่งที่ตั้งใจจะทำ หรือได้พูดภาษาไทยกันมากขึ้น เพราะลูกเรานี่คือ ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักไปแล้ว (แม่เพลียใจมาก) ต้องดูว่าทำได้กันแค่ไหนนะคะ


Nidnok

‘นิดนก’ เป็นคุณแม่ของน้อง ณนญ / เป็นนักเขียนสาวเชิงรุก เจ้าของผลงานหนังสือ 'POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวย' และ 'TO BE CONTINUE- โปรดติดตามตอนแต่งไป'

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST