READING

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 ...

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 อย่างไรกันบ้าง (สเปน)

วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คุณพ่อคุณแม่แทบจะทั่วโลก ต่างต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกัน คือ ลูกออกไปโรงเรียนไม่ได้ ตัวเองก็ออกไปทำงานก็ไม่ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ น่าจะทำให้พ่อแม่ทั่วโลกมีความรู้สึกร่วมกันคือ เงินก็ต้องหา งานก็ต้องทำ โรคก็ต้องหวั่นใจ เรื่องลูกก็ต้องรับมือ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม

M.O.M จึงไปลองถามไถ่คุณแม่ชาวไทยในประเทศต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง หนักหน่วงแค่ไหน รับมือไหวหรือเปล่า และได้รับความช่วยเหลือดูแลจากประเทศนั้นๆ อย่างไร เด็กๆ ได้รับผลกระทบแค่ไหน และที่สำคัญก็คือ คุณแม่ยังไหวไหม บอกมา…

และไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก M.O.M ก็ขอส่งกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน มีเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่เข้ามา มีพลังมากมายในการดูแลเด็กๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้พวกเราทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้อย่างปลอดภัยทุกบ้านเลยค่ะ

สเปน

แม่กวาง
น้องธิฟา (6 ปี)

Q: สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

รัฐบาลสเปนออกคำสั่งกักตัวอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่วันที่ 15 มีนาคมแล้วค่ะ สถานศึกษา รวมทั้งธุรกิจต่างๆ ก็ต้องปิดชั่วคราวค่ะ สิ่งที่ยังสามารถเปิดได้มีแค่ร้านขายยาและซูเปอร์มาร์เก็ต หรือร้านขายของชำเท่านั้น ซึ่งเรายังสามารถหาซื้อข้าวของจำเป็นได้อยู่ แต่ก็ต้องปฏิบัติตัวตามระเบียบอย่างเคร่งครัด เช่น ต้องใส่ถุงมือก่อนเข้าไปซื้อของ หรือต้องยืนเว้นระยะห่างต้องต่อคิวชำระเงิน หรือถ้าออกจากบ้านโดยไม่มีเหตุอนุญาตตามที่กฎหมายกำหนดไว้ก็จะถูกปรับค่อนข้างสูง หรืออาจทั้งจำทั้งปรับค่ะ

  แน่นอน งานบางอย่างก็สามารถทำที่บ้านได้ เช่น ตัวกวางมีธุรกิจอคาเดมี่สอนภาษาอังกฤษ ก็สามารถสอนออนไลน์ได้อยู่

  แรกๆ คนสเปนยังไม่ค่อยตื่นตัวเพราะรู้สึกว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่พอมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจ ตอนนี้ก็ตื่นตัวและให้ความร่วมมือมากขึ้น

Q: รัฐช่วยเหลืออะไรบ้างไหม

ธุรกิจต่างๆ ที่ต้องปิดลงช่วงนี้ ทางภาครัฐให้เงินเยียวยาช่วยเหลือค่อนข้างมาก เพียงแต่อาจจะดำเนินการล่าช้าเพราะมีผู้เสียหายทางธุรกิจจากการกักตัวเป็นจำนวนมาก ส่วนในกรณีพนักงานประจำที่ต้องพักงาน นายจ้างก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินเดือนให้ แต่ภาครัฐจะเป็นผู้จ่ายให้แทน ซึ่งตรงนี้ทำให้สามารถแบ่งเบาความเสียหายทางการเงินได้พอสมควรค่ะ

นอกจากนี้ ถ้ามีการนัดพบแพทย์ล่วงหน้าไว้แล้ว ทางโรงพยาบาลก็จะโทร.หาเป็นรายบุคคล และส่งใบสั่งยาให้ทางออนไลน์ เพื่อจะได้ไม่ต้องออกไปที่โรงพยาบาลค่ะ

  ส่วนตามท้องถนนจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคอยควบคุมหากมีคนฝ่าฝืน ในชุมชนที่อยู่ห่างไกล ลำบากในการซื้อของจำเป็น เจ้าหน้าที่ก็มีบริการส่งให้ถึงบ้านด้วย

Q: เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

ลูกไปโรงเรียนวันสุดท้ายวันที่ 13 มีนาคม ซึ่งทางโรงเรียนได้ทราบล่วงหน้าแล้วว่าจะมีการกักตัวเกิดขึ้น จึงได้จัดตารางเรียนออนไลน์  และให้เด็กๆ เอาหนังสือเรียนกลับบ้าน ทุกเช้าทางโรงเรียนและครูแต่ละวิชาจะส่งอีเมลบทเรียนและแบบฝึกหัดมาให้ค่ะ

Q: เด็กๆ ที่บ้านมีความเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง

ลูกเข้าใจว่านอกบ้านมีเจ้าไวรัสตัวอันตรายทำให้ผู้คนป่วยหนักอยู่ ถ้าเราทุกคนอยู่บ้าน เจ้าไวรัสมองไปไม่เห็นใคร มันก็จะหายไปเอง

Q: ในช่วงที่อยู่บ้านกับลูกแบบนี้ ในแต่ละวัน คุณแม่กับเด็กๆ ทำอะไรกันบ้าง 

เราจะมีตารางเวลาอย่างชัดเจน ลูกตื่นเก้าโมงเช้า กินมื้อเช้าและเริ่มเรียนหนังสือตามบทเรียนที่ทางโรงเรียนส่งมาให้ ปกติแล้วจะเสร็จประมาณเที่ยง หลังจากนั้นจะออกกำลังกายด้วยกันจนถึงบ่ายสอง อาบน้ำ กินข้าว คุณแม่ทำความสะอาดเก็บกวาดบ้าน คุณลูกทำงานฝีมือหรือวาดรูป ประมาณ 16:30 ลูกนอนกลางวัน คุณแม่เริ่มสอนหนังสือออนไลน์ 2-3 ชั่วโมงต่อวัน ถ้าลูกตื่นก่อน ลูกก็เล่นของเล่นหรือดูการ์ตูน พอทำงานเสร็จ เวลาสองทุ่มของทุกวัน คนสเปนจะออกมาปรบมือให้กำลังใจเหล่าแพทย์ พยาบาลที่ทำงานหนักเพื่อพวกเรา จากนั้นก็กินมื้อเย็น และส่งลูกเข้านอนตอนสามทุ่มครึ่งค่ะ


Nidnok

‘นิดนก’ เป็นคุณแม่ของน้อง ณนญ / เป็นนักเขียนสาวเชิงรุก เจ้าของผลงานหนังสือ 'POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวย' และ 'TO BE CONTINUE- โปรดติดตามตอนแต่งไป'

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST