READING

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 ...

คุยกับคุณแม่ไทยในต่างประเทศ ที่ไหนรับมือ #COVID19 อย่างไรกันบ้าง (นิวเจอร์ซีย์, อเมริกา)

วิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้คุณพ่อคุณแม่แทบจะทั่วโลก ต่างต้องเผชิญสถานการณ์เดียวกัน คือ ลูกออกไปโรงเรียนไม่ได้ ตัวเองก็ออกไปทำงานก็ไม่ได้ เหตุการณ์ครั้งนี้ น่าจะทำให้พ่อแม่ทั่วโลกมีความรู้สึกร่วมกันคือ เงินก็ต้องหา งานก็ต้องทำ โรคก็ต้องหวั่นใจ เรื่องลูกก็ต้องรับมือ มีใครให้มากกว่านี้อีกไหม

M.O.M จึงไปลองถามไถ่คุณแม่ชาวไทยในประเทศต่างๆ ว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง หนักหน่วงแค่ไหน รับมือไหวหรือเปล่า และได้รับความช่วยเหลือดูแลจากประเทศนั้นๆ อย่างไร เด็กๆ ได้รับผลกระทบแค่ไหน และที่สำคัญก็คือ คุณแม่ยังไหวไหม บอกมา…

และไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก M.O.M ก็ขอส่งกำลังใจให้คุณพ่อคุณแม่ทุกบ้าน มีเรี่ยวแรงที่จะรับมือกับทุกปัญหาที่เข้ามา มีพลังมากมายในการดูแลเด็กๆ และรักษาสุขภาพให้แข็งแรง เพื่อให้พวกเราทุกคนผ่านพ้นช่วงเวลาที่ยากลำบากแบบนี้ไปได้อย่างปลอดภัยทุกบ้านเลยค่ะ

NewJersey_1

นิวเจอร์ซีย์, อเมริกา

แม่เกศ
น้องเจเด้น (8 ขวบ)

Q: สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

รัฐนิวเจอร์ซี่ประกาศภาวะฉุกเฉิน มาเกือบเดือนแล้ว และประกาศให้พลเมืองอยู่บ้าน เวิร์กฟรอมโฮมรวมถึงสั่งปิด ธุรกิจ ร้านค้า ห้างสรรพสินค้า และธุรกิจที่ไม่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต มาสามสัปดาห์แล้ว ร้านอาหารสามารถเปิดขายแบบซื้อกลับบ้านและเดลิเวรี่เท่านั้น

ซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านขายยาเปิดได้ แต่เจลแอลกอฮอลล์ล้างมือ กระดาษชำระ สารเคมีฆ่าเชื้อ และแผ่นเช็ดทำความสะอาดขาดตลาด และมีมาตรการจำกัดการกักตุนให้ซื้อเนื้อหรือไก่ได้ ครัวเรือนละไม่เกินสองแพ็ก

ผู้คนยังสามารถไปสวนสาธารณะได้ แต่ต้องรักษาระยะห่าง 6 ฟุต สนามเทนนิส และสนามเด็กเล่นเพิ่งถูกล็อกไม่ให้เข้าใช้ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

Q: รัฐช่วยเหลืออะไรบ้าง

ตอนนี้รัฐบาลกลางและสภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมาย CARE ACT และเปิดเว็บไซต์ให้คนที่ตกงานจากสถานการณ์นี้ ทำการสมัครเพื่อรับประโยชน์จากการถูกเลิกจ้าง และมี SBA Loan เป็นเงินกู้สำหรับธุรกิจขนาดเล็กที่ได้รับผลกระทบสมัครขอรับเงินกู้ หรือเงินสนับสนุน แล้วแต่กรณี

Q: เด็กๆ ได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง

โรงเรียนในนิวเจอร์ซีย์ปิดการเรียนการสอนมาตั้งแต่วันที่ 16 มี.ค. และทางโรงเรียนก็มีหลักสูตรการเรียนการสอนออนไลน์จากคุณครู ผ่านทาง Google Classroom และมีการจัดการประชุมผ่านทางวิดีโอ เพื่อให้เด็กๆ ได้เจอเพื่อนในห้องและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในแต่ละสัปดาห์และยังมีการแยกเป็นกลุ่มเล็กๆ เพื่อเรียนผ่านทางวิดีโอกับคุณครูด้วย

ส่วนพ่อแม่มีหน้าที่เช็กอินกับคุณครูเพื่อยืนยันว่าเด็กๆ ทำการบ้านในแต่ละวัน พี่คิดว่าทางโรงเรียนและคุณครูทำหน้าที่ได้ดีมาก และคิดว่าเราโชคดีที่ได้อยู่ในเมืองที่เรียกว่ามีโรงเรียนที่ดีมากเมืองหนึ่งในรัฐนิวเจอร์ซีย์ เพราะไม่แน่ใจว่า โรงเรียนในเมืองอื่นๆ จะเป็นอย่างไร

Q: เด็กๆ ที่บ้านมีความเข้าใจในสถานการณ์ตอนนี้อย่างไรบ้าง

ปกติที่บ้านเราจะไม่ดูข่าวต่อหน้าลูก เพราะมีความรู้สึกว่าเราต้องกรองข่าวก่อน ตอนนี้ลูกชายมีความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นพอสมควรและมีสุขภาพจิตใจที่ดี

“You can’t control the situation but You can control how you react to the situation.” การแสดงออกต่อสถานการณ์ของพ่อแม่มีความสำคัญมาก เพราะเด็กๆ จะสามารถรับรู้ได้ ถ้าเราแสดงอาการวิตกกังวลหรือหวาดกลัว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องระมัดระวังและควบคุมการแสดงออกต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราจะไม่แชร์ข่าวจำนวนผู้เสียชีวิตหรือจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันกับลูก แค่ต้องคอยย้ำเรื่องการรักษาสุขอนามัยทุกวัน การล้างมือที่ถูกวิธี การรักษาระยะห่างจากผู้อื่น (social distancing) เวลาไปสวนสาธารณะ

Q: ในช่วงที่อยู่บ้านกับลูกแบบนี้ ในแต่ละวันคุณแม่กับเด็กๆ ทำอะไรกันบ้าง  

ทุกเช้าวันจันทร์เราจะได้รับอีเมลจากทางโรงเรียนและคุณครูว่าแต่ละสัปดาห์ เด็กๆ ต้องทำอะไรบ้าง ปกติมีห้องออฟฟิศทำงานที่บ้านอยู่แล้วเพราะฉะนั้นก็จะค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวและแยกออกมาจากพื้นที่ส่วนรวมของบ้าน และลูกชายก็จะคุ้นเคยกับระบบนี้อยู่แล้วเพราะคุณแม่ทำงานที่ออฟฟิศที่บ้านเป็นส่วนใหญ่ และถ้าตอนไหนเรามี conference call กับลูกค้าเราก็จะบอกเขาล่วงหน้าว่าพยายามอย่าใช้เสียงดัง

ตอนนี้ลูกชายเรียนเกรดสาม เขาสามารถอ่าน instruction online จากคุณครูและสามารถทำเองได้ โดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์นี่แทบจะไม่ต้องช่วยเลย แต่ก็จะมีบ้างที่ลูกเรียกคุณแม่ไปปรึกษาเวลาคิดไม่ออก เช่น วิชาการเขียน (Opinion Writing Assignment) ให้แม่ช่วยดูว่าจะเขียนคำตอบอย่างไรให้สละสลวย เช็คแกรมมาร์ เช็คคำศัพท์ คุณแม่ก็จะช่วยดูแลตรงส่วนนี้ แต่ที่เหลือก็จะพยายามให้เขาเรียนรู้เองโดยส่วนใหญ่ เราเป็นแค่ editor ที่ตรวจสอบข้อบกพร่องหลังจากที่เขาทำเสร็จแล้ว

คุณแม่จะพยายามกำหนดเวลา และมีระบบการให้รางวัล ว่าถ้าทำงานที่ทางโรงเรียนสั่งมาให้เสร็จภายในเวลาบ่ายสามโมง ทุกๆ วันจะได้รับสติ๊กเกอร์ดาว 1 ดวง ถ้าสะสมครบ 10 ดวง สามารถเคลมรางวัลเป็นการเล่นวิดีโอเกมได้ แต่ในระหว่างที่เค้าทำงานก็ต้องมีการหยุดพักในระหว่างวันด้วย เช่นตอนพักเที่ยงหรือพักทานของว่าง

คุณแม่พยายามให้มีชั่วโมงออกกำลังกายที่ต้องทำร่วมกันพ่อแม่ลูกในแต่ละวันและถ้าวันไหนอากาศดีเราก็จะออกไปปั่นจักรยานจากบ้านไปที่สวนสาธารณะได้


Nidnok

‘นิดนก’ เป็นคุณแม่ของน้อง ณนญ / เป็นนักเขียนสาวเชิงรุก เจ้าของผลงานหนังสือ 'POWER BRIDE เจ้าสาวที่กลัวสวย' และ 'TO BE CONTINUE- โปรดติดตามตอนแต่งไป'

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST