มีคุณพ่อคุณแม่บ้านไหนกำลังเผชิญกับลูกที่อารมณ์ไม่ดีบ่อยๆ บ้างไหมคะ? บางทีก็นั่งหน้ามุ่ยไม่พอใจ ใครพูดคุยอะไรด้วยก็ทำท่าฟึดฟัดใส่ คุณพ่อคุณแม่เห็นแบบนี้บ่อยๆ เข้าก็ทำเอาเครียดไม่น้อย

1. ให้เวลากับลูกมากขึ้น

การให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูกอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยให้ลูกรู้สึกมั่นคงและเป็นเด็กที่มีอารมณ์คงที่ ดังนั้น หากลูกเริ่มแสดงท่าทีอารมณ์เสีย หงุดหงิดง่ายให้เห็นบ่อยๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณพ่อคุณแม่เริ่มให้เวลาเขาน้อยลง ไม่มีเวลาอยู่ด้วยกัน ทำให้ลูกไม่รู้สึกมั่นคงทางจิตใจ เพราะฉะนั้นลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเองเพื่อลูกของเรากันดูนะคะ

2. ลองให้ลูกได้เขียนไดอารี่

การสอนให้ลูกเขียนบันทึกไม่ว่าจะเป็นรูปแบบตัวหนังสือหรือภาพวาด ก็มีผลให้ลูกเป็นเด็กที่ใจเย็นมากขึ้น เพราะการเขียนไดอารี่ ทำให้ลูกได้ทบทวนและมองเห็นอารมณ์ของตัวได้ดีขึ้น เมื่อลูกสามารถเข้าใจความรู้สึกตัวเอง ก็จะสามารถหาทางรับมือ โดยไม่ต้องแสดงอารมณ์ที่ไม่ดีออกมาโดยไม่จำเป็น

3. สร้างพื้นที่บ้านให้น่าอยู่

สิ่งหนึ่งที่สำคัญอย่างมากคือการทำให้พื้นที่ในบ้านให้เป็นพื้นที่ที่ลูกรู้สึกปลอดภัยและอบอุ่น เมื่อลูกมีปัญหาหรืออารมณ์เสียมาจากอะไรก็ตาม เมื่อได้กลับเข้ามาอยู่ในบ้าน สมาชิกในบ้านก็พร้อมที่จะรับฟังและปลอบใจลูกได้เสมอ

ซึ่งการทำให้บ้านน่าอยู่ หมายถึงการที่ทุกคนในบ้านจะต้องหลีกเลี่ยงการทะเลาะหรือมีปากเสียงกัน และไม่สร้างบรรยากาศที่น่าอึดอัดหรือชวนให้หงุดหงิดใจมากขึ้น

4. พูดคุยกับลูกโดยไม่ต่อว่า

หากลูกแสดงอาการหน้ามุ่ย อารมณ์ไม่ดีให้เห็น คุณพ่อคุณแม่ลองพูดคุยและอยู่เคียงข้างลูก และเมื่อลูกเล่าเรื่องอะไรให้ฟัง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ถูกหรือผิดก็ขอให้คุณพ่อคุณแม่คอยรับฟัง ไม่ตัดสินหรือต่อว่าลูกเร็วเกินไป เพราะนอกจากจะไม่ทำให้ลูกสงบลงแล้ว ยังทำให้อารมณ์ของลูกขุ่นมัวมากขึ้นไปอีก

5. ไม่ใช้อารมณ์ตอบกลับลูก

เมื่อลูกแสดงอารมณ์หงุดหงิด บางครั้งคุณพ่อคุณแม่เห็นแล้วก็พลอยรู้สึกหงุดหงิดตามไปด้วย และเมื่อลูกอารมณ์ไม่ดีต้องมาปะทะกับคุณพ่อคุณแม่ที่อารมณ์ไม่ดีเหมือนกัน ย่อมทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีกได้

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงไม่ควรแสดงอารมณ์หรือพฤติกรรมรุนแรงเพื่อตอบโต้อารมณ์บูดบึ้งของลูกน้อย แต่ท่าทีที่สงบและเยือกเย็นของคุณพ่อคุณแม่ต่างหากที่จะช่วยให้อารมณ์ของลูกน้อยผ่อนคลายลงได้

อ้างอิง
parentherald
momjunction