READING

5 เคล็ด (ไม่) ลับ ส่งเสริมให้ลูกเป็นนักสร้างสรรค์...

5 เคล็ด (ไม่) ลับ ส่งเสริมให้ลูกเป็นนักสร้างสรรค์

creative

ผู้ใหญ่หลายคนอาจเข้าใจว่า ความคิดสร้างสรรค์ เป็นเรื่องที่ฝึกฝนและส่งเสริมกันได้ยาก เพราะเด็กบางคนก็สามารถแสดงความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองออกมาได้อย่างไม่น่าเชื่อ จนคุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นเรื่องบังเอิญหรือพรสวรรค์ แต่นั่นเป็นเพราะเด็กๆ สามารถมีความคิดสร้างสรรค์ได้จากการเลี้ยงดูที่ดีของคุณพ่อคุณแม่นี่แหละค่ะ

เพราะความจริงแล้ว ความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างและส่งเสริมให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วงวัย 5 ปีแรกของเด็กซึ่งเป็นวัยแห่งการเรียนรู้และจินตนาการ จึงเป็นช่วงวัยที่เด็กๆ ควรได้รับการฝึกให้มีความคิดสร้างสรรค์ เพื่อเป็นทักษะติดตัวไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้ไม่รู้จบ

แล้วพ่อแม่อย่างเราจะสามารถทำอะไรเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ของลูกได้บ้างนี่คือ เคล็ดไม่ลับที่เราเอามาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ

1. ฝึกให้ลูกได้สร้างสรรค์จากสิ่งที่ใกล้ตัว

Creativity_web_1

การะฝึกให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์ คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องกดดันหรือพยายามส่งให้ลูกไปเรียนหาความรู้หรือทำกิจกรรมเพิ่มเติมเสมอไป เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ใกล้ๆ ตัวลูกสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของลูกได้ทั้งสิ้น เช่น การจัดข้าวของในบ้าน คุณพ่อคุณแม่อาจลองปรึกษาและให้ลูกช่วยคิดว่าเราจะเก็บของอย่างไรให้ดูมีระเบียบและหยิบใช้ง่าย เพียงเท่านี้ลูกก็จะได้ฝึกฝนและพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้

2. พูดคุยกับลูกด้วยคำถามปลายเปิด

Creativity_web_2

การพูดคุยกับลูกบ่อยๆ นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะด้านภาษาและการสื่อสาร การตั้งคำถามของคุณพ่อคุณแม่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของลูกได้

โดยคุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกคุยเรื่องง่ายๆ หรือเรื่องราวในชีวิตประจำวัน ด้วยการตั้งคำถามปลายเปิด เช่น ลูกว่ารู้จักของสิ่งนี้ไหม ลูกคิดว่าสิ่งนี้เอาไว้ทำอะไร หรือแม้แต่ถามว่าลูกคิดยังไงกับนิทานเรื่องนี้ ชอบหรือไม่ชอบเพราะอะไรบ้าง และถ้าเป็นลูก ลูกจะทำอย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้

เพราะการตั้งคำถามปลายเปิดจะช่วยให้เด็กๆ คิดคำตอบได้อย่างไม่มีข้อจำกัด ไม่กลัวว่าจะตอบถูกหรือผิด และคิดต่อยอดจากคำถามนั้นต่อไปได้ ถือเป็นการฝึกความคิดสร้างสรรค์ได้ดีและทำได้ตลอดเวลาเลยล่ะค่ะ

3. ชวนลูกทำกิจกรรมที่ชอบ

Creativity_web_3

กิจกรรมที่ลูกๆ ชอบก็มีส่วนช่วยให้ลูกพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมที่จริงจังหรือไม่ คุณพ่อคุณแม่ก็ควรสนับสนุนให้ลูกได้ทำ เพราะการได้ทำกิจกรรมที่ชอบจะทำให้ลูกได้สนุกกับการเรียนรู้มากขึ้น ลูกจะสังเกต และฝึกคิดวิเคราะห์สิ่งนั้นได้โดยไม่ต้องรอให้ใครมาบอก และยิ่งลูกได้ฝึกคิดมากเท่าไร ก็มีโอกาสที่จะเกิดความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเท่านั้นนะคะ

4. ไม่ควรพูดว่า ‘ไม่’ และ ‘อย่า’ กับลูกมากเกินไป

Creativity_web_4

คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปิดกั้นความคิดของลูกด้วยการใช้คำสั่งห้าม เช่น ‘อย่าถาม’ หรือ ‘อย่าทำนี้’ มากเกินไป และไม่ควรปฏิเสธที่จะตอบคำถามลูกเพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ลูกไม่จำเป็นต้องรู้ หรือยังไม่ถึงเวลา แต่ควรเตรียมวิธีอธิบายให้ลูกเข้าใจเรื่องนั้นๆ อย่างเหมาะสม และเฝ้าดูการเรียนรู้ของลูกอย่างใกล้ชิด แทนการสั่งห้ามไม่ให้ลูกทำนั่นทำนี่จะดีกว่าค่ะ

5. เล่นกับลูกอย่างสร้างสรรค์

Creativity_web_5

งานที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่ไม่แพ้การเลี้ยงดูลูก ก็คือหน้าที่เล่นกับลูกอย่างสร้างสรรค์และเหมาะสมกับช่วงวัยของลูกนี่แหละค่ะ เพราะการเล่นนอกจากจะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางร่างกาย พัฒนาการทางสมอง ความคิด และอารมณ์ให้ลูกได้เป็นอย่างดีแล้ว การชวนลูกเล่นอย่างสร้างสรรค์ เช่น เล่นบทบาทสมมติ เล่นตัวต่อ หรือเล่นประดิษฐ์สิ่งของ ยังเป็นการเล่นที่ช่วยฝึกให้ลูกมีความคิดสร้างสรรค์ได้มากอย่างไม่น่าเชื่อ

อ้างอิง
allprodad
chula
healthandtrend 

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST