หากพูดถึงคำว่า ‘พรสวรรค์’ คนส่วนใหญ่ก็มักจะนึกถึงทักษะหรือความสามารถพิเศษที่โดดเด่นและติดตัวมาตั้งแต่แรกเกิด แต่ความจริงแล้วพรสวรรค์ของคนเราจะถูกพบและแสดงออกมาได้ เมื่อได้ทำในสิ่งที่เปิดโอกาสให้เราได้แสดงศักยภาพและอัจฉริยภาพของตัวเองออกมาเต็มที่
Howard Gardner นักจิตวิทยาชาวอเมริกันชื่อดังแห่งมหาวิทยาลัย ฮาวาร์ด เจ้าของทฤษฎีปัญญา Theory of Multiple Intelligences กล่าวไว้ว่า คนเราจะมีอัจฉริยภาพหรือความฉลาดอย่างน้อย 9 ด้าน โดยที่แต่ละคนจะมีอัจฉริยภาพที่โดดเด่นแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมที่เติบโตขึ้นมา ดังนี้
1. ความฉลาดทางด้านภาษา
2. ความฉลาดทางด้านตรรกะ
3. ความฉลาดทางด้านดนตรี
4. ความฉลาดทางด้านมิติ
5. ความฉลาดทางด้านการเคลื่อนไหวร่างกาย
6. ความฉลาดในการเป็นผู้นำ
7. ความฉลาดภายในตน
8. ความฉลาดทางด้านธรรมชาติ
9. ความฉลาดในการคิดใคร่ครวญ
1. พาลูกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน
การเรียนรู้ในห้องเรียนเป็นเรื่องสำคัญ แต่หากคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยพาออกไปเรียนรู้สิ่งต่างๆ นอกห้องเรียน อาจเป็นการปิดกั้นโอกาสที่ลูกจะได้ค้นหาความถนัด ความชอบ และศักยภาพของตัวเองให้น้อยลง
ทั้งนี้ การเรียนรู้นอกห้องเรียน ยังไม่ใช่การให้ลูกเรียนเสริม เพื่อผลการเรียนที่ดีขึ้น แต่หมายถึงการพาลูกออกไปเที่ยวหรือทำกิจกรรมใหม่ๆ พบปะสังคมใหม่ๆ เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การปรับตัว และแสดงศักยภาพในสิ่งที่ตัวเองถนัดออกมา
2. ปล่อยให้ลูกได้เล่นอย่างอิสระ
คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ส่วนมากเข้าใจและเห็นความสำคัญของการเปิดโอกาสให้ลูกได้ค้นหาความถนัดหรือพรสวรรค์ของตัวเอง จึงพยายามส่งเสริมให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย อยากให้ลูกได้ทำอะไรหลายอย่าง จนกลายเป็นความเคร่งเครียดและกดดัน ทำให้ลูกไม่รู้สึกสนุกกับการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ และอาจไม่มีเวลามากพอให้ลูกได้พิสูจน์ตัวเองกับกิจกรรมนั้นๆ
ทางที่ดีคือถึงแม้จะต้องการให้ลูกได้ทำกิจกรรมที่หลากหลาย แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะยืดหยุ่น มีเวลาให้ลูกได้เล่นสนุกอย่างอิสระและเป็นธรรมชาติ เพราะการเล่นสำหรับเด็กๆ ถือเป็นการเรียนรู้และส่งเสริมให้ลูกได้ค้นพบความถนัดที่อาจพัฒนามาเป็นความสามารถพิเศษของตัวเองได้เช่นกัน
3. ไม่คาดหวังว่าลูกจะชอบเหมือนเรา
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเข้าใจและคาดหวังว่าลูกควรจะมีความชอบความถนัดหรือพรสวรรค์ด้านเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ หรือไม่ก็มักจะเอาตัวเองเป็นมาตรฐาน เช่น พ่อแม่เก่งด้านนี้ หรือพ่อแม่อยากทำสิ่งนี้ ก็เลยพยายามส่งเสริมให้ลูกทำสิ่งนั้นตามไปด้วย
แต่การทำอย่างนั้น อาจกลายเป็นการกดดันและฝืนใจให้ลูกต้องพยายามทำตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่มากกว่าที่จะได้ค้นพบความถนัดของตัวเองนะคะ
4. ให้ลูกได้ลองผิด ลองถูก
ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ลูกชอบหรือถนัด ก็ไม่ได้หมายความว่าลูกจะสามารถทำสิ่งนั้นได้ดีตั้งแต่ครั้งแรก ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรให้เวลาลูกได้ลองผิดลองถูก ไม่ตำหนิหรือต่อว่าให้ลูกหมดกำลังใจไปก่อน หรือรีบตัดสินว่าลูกคงไม่เหมาะกับสิ่งนั้นสิ่งนี้ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกไม่ได้ใช้เวลากับสิ่งนั้นอย่างแท้จริงแล้ว ลูกอาจติดนิสัยล้มเลิกอะไรง่ายๆ แล้วกลายเป็นคนที่ไม่สามารถค้นพบศักยภาพที่แท้จริงของตัวเองได้สักที
COMMENTS ARE OFF THIS POST