READING

4 วิธีช่วยลูกบาลานซ์ ‘ความชอบ’ กับ ‘การเรียน’ อย่า...

4 วิธีช่วยลูกบาลานซ์ ‘ความชอบ’ กับ ‘การเรียน’ อย่างสมดุล

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่า ลูกของเราชอบใช้เวลาว่างไปกับกิจกรรมอะไรบ้าง เพราะสิ่งที่ลูกเลือกทำโดยไม่ได้ใครบอกหรือบังคับนั้นคือการแสดงออกถึงสิ่งที่เขาชอบ และสามารถนำมาพัฒนาเป็นงานอดิเรกได้เป็นอย่างดี

เด็กบางคนชอบวาดรูป บางคนชอบร้องเพลง บางคนชอบอ่านหนังสือ หรือบางคนก็ชอบที่จะทำอะไรหลากหลายอย่าง และอาจถึงขั้นหมกมุ่นอยู่กับความชอบนั้นๆ อยากที่จะทำสิ่งนั้นตลอดเวลา

ซึ่งพอลูกหมกมุ่นอยู่กับความชอบหรืองานอดิเรกของตัวเองมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดปัญหาเรื่องการแบ่งเวลาเพื่อทำสิ่งที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน เช่น เรียนหนังสือ หรือละเลยหน้าที่รับผิดชอบบางอย่างของตัวเองได้

และหากคุณพ่อคุณแม่ไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยสร้างความบาลานซ์หรือแบ่งเวลาให้เหมาะสม ก็อาจจะทำให้ลูกมีปัญหาตามมา เช่น ผลการเรียนแย่ลงอย่างต่อเนื่อง และกลายเป็นเด็กที่ขาดความใส่ใจในหน้าที่

ดังนั้นเราลองมาดูวิธีที่คุณพ่อคุณแม่จะช่วยลูกให้สามารถบาลานซ์ระหว่างงานอดิเรกกับหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองได้อย่างไรบ้าง

1. จัดตารางเวลาร่วมกัน

balanceschoolfun_web_1

ถ้าปกติคุณพ่อคุณแม่เป็นคนกำหนดหรือจัดตารางเวลาให้ลูกฝ่ายเดียวแล้วละก็ ลองเปลี่ยนเป็นชวนลูกมานั่งคุยและวางแผนการใช้เวลาร่วมกัน จะทำให้ลูกเต็มใจที่จะทำตามตารางเวลาที่ตัวเองมีส่วนร่วมมากขึ้น

โดยคุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีถามความคิดเห็นจากลูกและบอกวิธีที่คุณพ่อคุณแม่แนะนำ เช่น กลับมาจากโรงเรียนแล้วแล้วลูกอยากจะทำการบ้านก่อนวาดรูป หรืออยากจะวาดรูปก่อนสักครึ่งชั่วโมงแล้วค่อยทำการบ้าน แต่คุณแม่แนะนำว่าลูกควรทำการบ้านก่อน เพราะลูกจะมีเวลาวาดรูปมากขึ้นและไม่ต้องเป็นกังวลว่ายังไม่ได้ทำการบ้าน

2. กระตุ้นให้ลูกเป็นเด็กรักการเรียนรู้

balanceschoolfun_web_2

การกระตุ้นให้ลูกเป็นเด็กรักการเรียนรู้ สนุกสนานกับสิ่งรอบตัวอยู่เสมอ มีแนวโน้มที่เขาจะสร้างความสมดุลทั้งความชอบ และการเรียนได้ดี เพราะลูกจะรู้สึกตื่นเต้นและสนุกกับการทำกิจวัตรประจำวันได้ง่าย ช่วยให้ลูกไม่รู้สึกหมกมุ่นกับงานอดิเรกของตัวเองเพียงอย่างเดียว

3. เรียนให้เต็มที่ เรื่องความชอบก็เต็มที่

balanceschoolfun_web_3

ผู้ใหญ่อย่างเราเวลาทำงานจนเหนื่อย ก็อยากจะพักผ่อน และใช้เวลาไปกับสิ่งที่ทำให้รู้สึกสบายใจเป็นเรื่องธรรมดา

ดังนั้นเมื่อลูกใช้เวลาครึ่งค่อนวันไปกับการเรียนแล้วก็ควรให้เวลาลูกได้ทำสิ่งที่ชอบอย่างเต็มที่

การทำแบบนี้นอกจากจะทำให้ลูกสามารถบาลานซ์การเรียน และความชอบของตัวเองแล้ว ยังทำให้ลูกรู้สึกมีความสุขและมีแรงบันดาลใจในการทำหน้าที่ของตัวเองอีกด้วย

4. คิดถึงความสุขอยู่เสมอ

balanceschoolfun_web_4

หลังจากคุณพ่อคุณแม่ช่วยลูกจัดการเวลาให้สมดุลแล้ว ก็อย่าลืมคำนึงถึงความสุขของลูก เพราะการได้ทำในสิ่งที่ชอบ ทำสิ่งที่ชอบจะทำให้ลูกมีสุขภาพจิตที่ดี พัฒนาการดี ลดปัญหาความสัมพันธ์ในครอบครัว เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมที่จะให้ลูกได้ทำความชอบของตัวเองควบคู่ไปกับคอยดูแลและบาลานซ์การใช้เวลาของลูกให้ดีนะคะ

อ้างอิง
kidengage
ashford

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST