READING

5 เทคนิค เลี้ยงเบบี๋ ให้เป็นเด็กอารมณ์ดีและมีความส...

5 เทคนิค เลี้ยงเบบี๋ ให้เป็นเด็กอารมณ์ดีและมีความสุข

เด็กอารมณ์ดี

นอกจากจะคุณพ่อคุณแม่จะต้องเป็นห่วงและอยากให้ทารกเติบโตมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงแล้ว พ่อแม่ทุกคนก็ย่อมอยากเห็นลูกเป็นเด็กอารมณ์ดี จิตใจแจ่มใส ยิ้มง่าย และหัวเราะง่าย ไม่ใช่เด็กขี้หงุดหงิด โมโหร้าย และเกรี้ยวกราด

การจะทำให้ลูกเป็น เด็กอารมณ์ดี ต้องอาศัยปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง แต่สิ่งสำคัญก็คือการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ ที่มีผลต่อสภาพจิตใจของลูกเป็นอย่างมาก

วันนี้เราจึงได้นำเทคนิคดีๆ ที่จะเลี้ยงเบบี๋ให้ไม่เป็นเด็กฉุนเฉียว แต่เป็น เด็กอารมณ์ดี และมีความสุขมาฝากค่ะ

1. ตอบสนองเมื่อลูกร้องไห้

raisehappybaby_web_1

Harvey Karp—ศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์ จาก USC School of Medicine ได้กล่าวว่า สำหรับทารกแล้วอารมณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ราวกับคลื่นสึนามิเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นแล้วความสงบ ความรู้สึกพอใจ และความปลอดภัย จึงทำให้เด็กๆ มีความสุขอย่างมาก 

ดังนั้น เวลาลูกร้อง เพียงแค่คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูก เคลื่อนไหวช้าๆ เบาๆ ป้อนนม หรือนอนซบอยู่ใกล้ๆ กัน อารมณ์ของลูกก็จะดีขึ้น

2. ให้เบบี๋ได้นอนหลับพักผ่อนเยอะๆ

raisehappybaby_web_2

สำหรับทารก งานหลักของเขาก็คือการนอนหลับพักผ่อน เพื่อให้ร่างกายเจริญเติบโต และมีพัฒนาการที่ดีสมวัย

มีงานวิจัยเปรียบเทียบระหว่างทารกในประเทศสหรัฐอเมริกากับทารกในประเทศเนเธอร์แลนด์ โดย ศาสตราจารย์ Maria A.Gartstein จากมหาวิทยาลัย Washington State University พบว่าทารกในประเทศเนเธอร์แลนด์มักมีความสุขและกล่อมให้นอนหลับได้ง่ายกว่าในสหรัฐอเมริกา สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะพ่อแม่ชาวเนเธอร์แลนด์ให้ความสำคัญกับการนอนหลับของลูกมาก เช่น เมื่อพ่อแม่พาลูกกลับจากโรงพยาบาล ก็จะส่งการ์ดเชิญเพื่อนมาเยี่ยมในช่วงเวลาที่กำหนดเท่านั้น เพื่อที่จะไม่ขัดจังหวะการนอนของลูก

เพราะฉะนั้นแล้ว เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าทารกเริ่มขยี้ตา หรือตื่นนอนได้สักสามชั่วโมงแล้ว  สามารถเตรียมตัวให้ลูกเข้านอนอีกครั้ง ด้วยการปิดเสียงรบกวนทุกอย่างให้หมด แล้วกล่อมให้ลูกหลับไป ลูกก็จะตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่นและแจ่มใสอีกครั้ง

3. กอด หอมแก้ม จ้องตา กับลูกเสมอ

raisehappybaby_web_3

เด็กทุกคนต้องการความรักความเอาใจใส่จากคุณพ่อคุณแม่ แม้คุณพ่อคุณแม่จะมีภารกิจที่รัดตัวขนาดไหน ก็อย่าลืมที่จะใช้เวลาอยู่กับลูก เพราะลูกต้องการให้คุณพ่อคุณแม่อุ้ม กอด และมองจ้องตากันอยู่เสมอ

ทารกที่ได้รับความรักและความเอาใจใส่และสัมผัสที่อบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ จะเป็นเด็กที่มีความสุขและอารมณ์ดีได้ เพราะมีความรู้สึกมั่นคงและปลอดภัย จิตใจก็จะผ่อนคลายค่ะ

4. พาลูกออกไปเผชิญโลกภายนอกดูบ้าง

raisehappybaby_web_4

หากวันไหนที่เบบี๋อารมณ์บูดบึ้ง โวยวายสุดฤทธิ์ การพาลูกออกไปเดินเล่นนอกบ้าน ได้เจอกับแสงแดดอ่อนๆ มองใบไม้พลิ้วไหว หรือมองผู้คนที่เดินไปเดินมา จะช่วยให้ลูกเปลี่ยนความสนใจจากอารมณ์หงุดหงิดของตัวเองไปที่สภาพแวดล้อมใหม่ๆ

การออกไปเดินเล่นผ่อนคลายนอกบ้าน นอกจากจะมีผลดีต่อทารกแล้ว ยังมีผลดีต่อคุณแม่ด้วยเช่นกัน เพราะหลายครั้งที่คุณแม่ต้องงุ่นง่านแต่กับการเลี้ยงลูก ไม่มีเวลาได้พักผ่อน ทำให้เกิดความเครียดสะสมโดยไม่รู้ตัว เมื่อพ่อแม่เครียด ลูกก็จะรู้สึกถึงความขุ่นมัวไปด้วย เพราะฉะนั้น ในหนึ่งวัน ลองหาเวลาสั้นๆ พาลูกไปเดินเล่นบริเวณหน้าบ้าน ที่เงียบสงบไม่มีผู้คนพลุกพล่านเกินไปบ้าง ก็ช่วยให้ลูกอารมณ์ดีและมีความสุขได้ทุกวันค่ะ

5. เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่อารมณ์ดีให้ลูกเห็น

raisehappybaby_web_5

Dora Wang ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตเวชศาสตร์ จาก The University of New Mexico กล่าวว่า คุณพ่อคุณแม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ไปสู่ลูกผ่านทางพฤติกรรมและการเลี้ยงดูได้ โดยไม่จำเป็นต้องผ่านทางยีนหรือพันธุกรรมใดๆ ดังนั้นไม่ว่าอารมณ์คุณพ่อคุณแม่จะเป็นแบบไหน ลูกก็จะสามารถรับรู้และยังสามารถเลียนแบบอารมณ์ของพ่อแม่ได้อีกด้วย

เพราะฉะนั้น ถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถควบคุมอารมณ์ตัวเองได้ดีแม้ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด ก็ส่งผลให้ลูกเรียนรู้ที่จะใจเย็นตาม และควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดี ไม่หงุดหงิดหรืออารมณ์เสียง่าย

อ้างอิง
thebump
parents
babycenter

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST