READING

5 วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นฮีโร่ ปกป้องโลกจากภาวะ Clima...

5 วิธีเลี้ยงลูกให้เป็นฮีโร่ ปกป้องโลกจากภาวะ Climate Change

เช้าวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ตื่นมาพร้อมอากาศดีๆ คุณพ่อคุณแม่หลายท่านวางแผนพาลูกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน แต่ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง ฝนก็ตกลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา จนทริปวันหยุดสุขสันต์เป็นอันต้องล่มกลางอากาศ

ปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน ภัยธรรมชาติที่ต่างก็รุนแรงและเพิ่มความถี่มากขึ้นเรื่อยๆ เป็นเพียงหนึ่งในผลกระทบจากภาวะ Climate Change หรือการที่โลกเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว ส่งผลต่อระบบนิเวศตามธรรมชาติ การใช้ชีวิตของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก

ตัวการสำคัญที่ทำให้เกิด Climate Change ก็คือก๊าซพิษต่างๆ เช่น ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเกิดจากการเผาไหม้ของถ่านหินและน้ำมัน ที่เป็นเชื้อเพลิงสำหรับการสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในการใช้ชีวิตของมนุษย์ รวมไปถึงการตัดไม้ทำลายป่าก็ยิ่งทำให้โลกไม่มีต้นไม้มากพอที่จะเป็นตัวช่วยลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีกต่อไป

มาลองดู 5 วิธีง่ายๆ ให้ลูกได้ฝึกวินัย เพิ่มทักษะและพัฒนาการทางสมอง แถมยังได้เป็นฮีโร่รักษ์โลกตัวน้อยที่จะช่วยปกป้องโลกของเราในอนาคตกันดีกว่า

1. สร้างนิสัยผู้พิทักษ์พลังงา

kbank_web_1

ลองอธิบายให้ลูกเข้าใจว่ากิจวัตรประจำวันของเรา ล้วนเกี่ยวข้องกับการใช้เชื้อเพลิงในการสร้างพลังงานมาอำนวยความสะดวกให้แก่พวกเราทั้งสิ้น หลังจากนั้นมอบหน้าที่ผู้พิทักษ์พลังงานให้ลูก ด้วยการตรวจตราบริเวณบ้าน ปิดไฟดวงที่ไม่ได้ใช้ในบ้าน เปิดเครื่องปรับอากาศเท่าที่จำเป็น และปิดทุกครั้งเมื่อไม่ใช้หรือไม่มีใครอยู่ในห้อง สอนให้ลูกปิดน้ำระหว่างแปรงฟัน วางแผนการใช้เครื่องซักผ้าประจำสัปดาห์ ควรฝึกให้ทำเป็นประจำจนติดเป็นนิสัย เพื่อให้เคยชินกับพฤติกรรมการใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า

2. พัฒนาทักษะการแยกขยะ

kbank_fb_2

ลองชวนเด็กๆ เล่นเกมแยกขยะทุกครั้งก่อนทิ้งลงถัง พร้อมกับอธิบายให้เด็กๆ เข้าใจว่าประเภทของขยะในถังแต่ละสีแตกต่างกันอย่างไร สามารถเอาไปทำอะไรต่อได้ ขยะในถังสีไหนต้องส่งไปทำลาย และถังสีไหนส่งไปแปรรูปหรือรีไซเคิลและนำกลับมาใช้ใหม่ (Reuse) เพื่อลดปริมาณการผลิตซ้ำ นอกจากจะช่วยให้ลูกได้เรียนรู้และเข้าใจความสำคัญของแยกขยะแล้ว ยังช่วยให้ลูกได้ฝึกพัฒนาสมองด้านการจดจำและแยกแยะอีกด้วย

3. ปลูกฝังให้ลูกรักและเห็นความสำคัญของธรรมชาติ

kbank_web_3

ชักชวนให้ลูกๆ เรียนรู้การเจริญเติบโตของต้นไม้เพื่อทำความเข้าใจระบบนิเวศใกล้ตัวอย่างง่ายๆ เพื่อเขาจะได้เข้าใจถึงความสำคัญของต้นไม้ที่ช่วยสร้างสมดุลทางธรรมชาติ เมื่อเรียนรู้แล้ว ก็เป็นจังหวะที่ดีที่จะชวนเด็กๆ ลงมือทำ เริ่มจากการปลูกต้นไม้ในบ้านเพื่อช่วยสร้างอาวุธให้กับเหล่าฮีโร่ให้การต่อสู้กับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่จะนำไปสู่ปัญหา Climate Change

4. ฝึกให้ลูกหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Climate Change อยู่เสมอ

kbank_web_4

ช่วงเวลาที่อยู่บ้านนานๆ แบบนี้ การค้นหาข้อมูลตามเว็บไซต์เพื่อเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็เป็นกิจกรรมแก้เบื่อและได้ความรู้ไปด้วย

เว็บไซต์ www.reanrooclimatechange.com เป็นเว็บไซต์ที่บอกกล่าวเล่าเรื่อง Climate Change ในแง่มุมต่างๆ ทั้งสาเหตุ ผลกระทบ และวิธีการรับมือ ถ่ายทอดออกมาได้อย่างเข้าใจง่ายและสนุกสนาน เหมาะกับการเรียนรู้ของเด็กๆ เพราะมีการใช้เพลงน่ารักๆ บอกเล่าเรื่องราวของ Climate Change ช่วยให้การจดจำไม่ใช่เรื่องยาก และน่าเบื่ออีกต่อไป

5. ติดตามซีรีส์เพลงเรียนรู้ Climate Change ผ่านช่องทาง Youtube

kbank_web_5

เพลย์ลิสต์ซีรีส์เพลงเรียนรู้ Climate Change (https://bit.ly/learncmc) รวบรวมเพลงรักษ์โลกสนุกๆ ด้วยทำนองที่แสนคุ้นเคย ที่นอกจากจะฟังเพลินแล้ว เด็กๆ ยังได้ความรู้เรื่อง Climate Change ด้วย

และถ้าได้ดูเพลงในซีรีส์นี้จบแล้ว แต่อารมณ์ไม่จบ ก็ขอเชิญชวนเด็กๆ อายุตั้งแต่ 5-12 ปี ออกสเตปร้องและเต้นโชว์ความน่ารักส่งเข้าประกวดในกิจกรรม ‘Dance for Change สเตปจิ๋วเปลี่ยนโลก’ ลุ้นเป็นหนึ่งในผู้โชคดีเข้าร่วม ‘Climate Change คิดส์แคมป์’ ที่เขาใหญ่ กับพี่อเล็กซ์ เรนเดล เพียงแค่โพสต์คลิปที่เต้นจากเพลงในซีรีส์เพลงเรียนรู้ Climate Change ลงบนหน้าเฟซบุ๊กของตัวเอง ตั้งค่าเป็นสาธารณะ (Public) แล้วเขียนเหตุผลที่อยากเข้าร่วม ‘Climate Change คิดส์แคมป์’ ติดแฮชแท็ก #ClimateChangeใกล้ตัวกว่าที่คิด

พร้อมแล้วอย่ารอช้า เด็กๆ เตรียมซ้อมสเตปให้ดี ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วมาร่วมสนุกไปด้วยกันเลย https://bit.ly/3eD2xv8


COMMENTS ARE OFF THIS POST