หากคุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตเห็นว่าลูกมีลักษณะบางอย่างที่แตกต่างจากเด็กคนอื่น เช่น เด็กที่ตั้งคำถามกับทุกสิ่งรอบตัว รู้สึกถึงอารมณ์ของผู้อื่นได้ไว คิดและจำอะไรได้ดี หรือมีมุมมองที่ลึกซึ้งเกินกว่าวัยของตัวเอง
นั่นคือลักษณะของ Indigo Children ซึ่งหมายถึง แนวคิดที่เชื่อว่าเด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับจิตวิญญาณขั้นสูง พลังงานพิเศษ หรือภารกิจในการเปลี่ยนแปลงโลก แนวคิดนี้มาจากทฤษฎีทางจิตวิญญาณในยุค New Age โดยคำว่า Indigo หมายถึง สีน้ำเงินคราม ซึ่งเชื่อว่าเป็นสีของออร่ารอบตัวเด็กเหล่านี้ สะท้อนถึงจิตสำนึกที่ลึกซึ้งและเชื่อมโยงกับสิ่งที่สูงกว่าทางกายภาพ
เด็กอินดิโก้จึงเป็นแนวคิดที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในกลุ่มพ่อแม่ที่พยายามทำความเข้าใจลักษณะเด่นและความพิเศษของลูก เช่น การเป็นเด็กมีความเป็นตัวของตัวเองสูง ฉลาด ไม่ชอบทำตามกฎเกณฑ์แบบเดิมๆ และมักตั้งคำถามกับสิ่งที่ไม่ยุติธรรมในสังคม
จุดเริ่มต้นของแนวคิดของ indigo child

แนวคิดนี้เริ่มต้นในช่วงปลายทศวรรษ 1960 ถึงต้นทศวรรษ 1970 โดย Nancy Ann Tappe นักจิตสัมผัสชาวอเมริกันผู้เชื่อว่าตัวเองสามารถมองเห็นออร่าหรือสีแห่งพลังงานรอบตัวคน และเธอสังเกตว่าเด็กบางคนมีออร่าสีคราม (indigo) ซึ่งเป็นสัญญาณของการมีพลังจิตหรือความสามารถพิเศษทางจิตวิญญาณ และยังสัมพันธ์กับพลังงานใหม่ ความคิดสร้างสรรค์ และจิตสำนึกที่ลึกซึ้ง
ต่อมาในปี 1999 หนังสือ The Indigo Children: The New Kids Have Arrived โดย Jan Tober และ Lee Carroll ได้เผยแพร่แนวคิดนี้ โดยอธิบายว่าเด็กอินดิโก้มีลักษณะทางจิตวิทยาและพฤติกรรมที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป และต้องการการดูแลและการศึกษาในรูปแบบเฉพาะ
ลักษณะเด่นของเด็กอินดิโก้

• มีออร่าสีครามหรือม่วง: เชื่อมโยงกับพลังงานทางจิตวิญญาณ
• มีความรู้สึกว่าตนเองมีภารกิจพิเศษในโลก: รู้สึกว่าต้องทำบางสิ่งเพื่อเปลี่ยนแปลงโลก
• ไม่ชอบการควบคุมหรือกฎเกณฑ์ที่เข้มงวด: มีแนวโน้มที่จะต่อต้านอำนาจที่ไม่ยุติธรรม
• มีความสามารถทางจิตหรือสัมผัสพิเศษ: เช่น การรับรู้พลังงานหรือความรู้สึกของผู้อื่น
• มีความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการสูง: มักมีวิธีคิดที่แตกต่างและไม่ธรรมดา
อย่างไรก็ตาม ลักษณะเหล่านี้ยังไม่มีการยืนยันทางวิทยาศาสตร์ และบางคนเชื่อว่าอาจเป็นการตีความลักษณะของเด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (ADHD) หรือความผิดปกติทางพฤติกรรมอื่นๆ ในแง่บวกมากเกินไป
มุมมองทางวิทยาศาสตร์

แนวคิดเกี่ยวกับเด็กอินดิโก้เป็นแนวคิดในยุค New Age ที่เชื่อว่าเด็กบางคนมีลักษณะพิเศษทางจิตวิญญาณและมีภารกิจพิเศษในโลก อย่างไรก็ตามนักวิจารณ์หลายคนชี้ให้เห็นว่าแนวคิดเกี่ยวกับเด็กอินดิโก้อาจเป็นการตีความลักษณะทั่วไปของเด็กในแง่บวกโดยไม่มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์รองรับ ทำให้เกิดความกังวลว่า การระบุว่าเด็กที่มีลักษณะพิเศษเป็น ‘เด็กอินดิโก้’ นั้น อาจทำให้พ่อแม่ละเลยการวินิจฉัยและการรักษาทางการแพทย์ที่จำเป็น เช่น ภาวะสมาธิสั้นหรือปัญหาทางพฤติกรรมอื่นๆ ได้
มองเด็กอินดิโก้เป็นความหลากหลายอย่างหนึ่ง

สิ่งสำคัญของพ่อแม่ทุกคนก็คือการยอมรับว่าเด็กแต่ละคนมีเอกลักษณ์และความสามารถเฉพาะตัว บางคนอาจมีลักษณะที่ทำให้พวกเขาดูแตกต่างหรือ ‘พิเศษ’ ในสายตาผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นเพราะความไวต่อการรับรู้ สติปัญญาและความคิดสร้างสรรค์ที่มากกว่าเด็กในวัยเดียวกัน
ในฐานะพ่อแม่ จึงควรสร้างสภาพแวดล้อมที่ช่วยให้ลูกเติบโตได้เต็มตามศักยภาพ โดยเคารพในความแตกต่างและสนับสนุนการพัฒนารอบด้าน
แนวคิดเรื่อง ‘เด็กอินดิโก้’ จึงเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตระหนักถึงความหลากหลายของมนุษย์ที่ย่อมต้องการความรัก การสนับสนุน และการยอมรับในแบบที่ตัวเองเป็น รวมถึงการช่วยให้เด็กๆ ค้นพบและพัฒนาความสามารถพิเศษของตัวเองต่อไป
COMMENTS ARE OFF THIS POST