หากพูดถึงการเลี้ยงลูกให้มีระเบียบวินัย หลายคนคงจะนึกถึงประเทศญี่ปุ่นเป็นอันดับแรกๆ เนื่องจากว่าพ่อแม่ชาวญี่ปุ่นมักให้ความสำคัญกับการให้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้ตั้งแต่ยังเล็ก โดยการมอบหมายหน้าที่ให้กับลูก ซึ่งหนึ่งในภาระหน้าที่ที่พ่อแม่มักมอบให้ลูกนั่นก็คือ การให้ลูกช่วยเหลืองานบ้าน
เพราะการที่ให้ลูกทำงานบ้านนั้นสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการได้อย่างหลากหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านร่างกาย จิตใจ สมอง อารมณ์ และสติปัญญา และเมื่อพูดถึงการ ชวนลูกทำงานบ้าน ถึงแม้ว่าจะมีข้อดีมากมายขนาดไหน แต่อยู่ๆ จะให้ลูกลุกขึ้นมาทำงานบ้านนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่าย หลายครอบครัวจึงต้องพยายามหาแรงจูงใจเพื่ออยากให้ลูกทำงานบ้าน
วันนี้ M.O.M จึงได้รวบรวมเคล็ดลับดีๆ เพื่อให้การ ชวนลูกทำงานบ้าน เป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้น
1. มอบหมายงานบ้านที่เหมาะสมกับวัยของลูก
หัวใจของการมอบหมายหน้าที่รับผิดชอบให้ลูก คือการเลือกภารกิจที่เหมาะสมกับความสามารถในแต่ละช่วงวัยของลูก และ ไม่ควรมอบหมายงานที่เป็นอันตราย มีความเสี่ยง หรือยากเกินความสามารถของเด็กๆ
• ลูกวัยก่อนอนุบาล
เก็บของเล่นเข้ากล่อง, ทิ้งขยะลงถัง, พับผ้าขนาดเล็ก, เรียงช้อนหรือตะเกียบ เป็นต้น
• ลูกวัยอนุบาล
เช็ดโต๊ะ, พับผ้าที่พับง่ายๆ เช่นผ้าเช็ดหน้า, จัดวางรองเท้า, รดน้ำต้นไม้, ล้างผัก เป็นต้น
• ลูกวัยประถมศึกษา
แยกและทิ้งขยะ, ดูดฝุ่นทำความสะอาดบ้าน, ล้างห้องน้ำ, หุงข้าว, ทำกับข้าวง่ายๆ โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแลการใช้อุปกรณ์ของมีคม เป็นต้น
2. อธิบายพร้อมทำเป็นตัวอย่างให้ดู
หากคุณพ่อคุณแม่ต้องการสอนให้ลูกหัดทำงานบ้าน การอธิบายด้วยคำพูดเพียงอย่างเดียวอาจเป็นเรื่องยากที่ลูกจะจดจำและทำตามได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรลงมือทำเป็นตัวอย่างให้ลูกดู เช่น อธิบายว่าต้องกวาดบ้านอย่างไร ควรเริ่มจากตรงไหนก่อน และต้องกวาดไปทางไหน หลังจากนั้นลองปล่อยให้ลูกลองทำด้วยตัวเอง และอย่าลืมที่จะชมเชยและให้กำลังใจในความพยายามของลูกด้วยนะคะ
3. แม้จะใช้เวลานานแต่ก็ควรปล่อยให้ลูกทำจนสำเร็จ
อยากฝึกให้ลูกทำงานบ้าน คุณพ่อคุณแม่ต้องอดทนในความเก้ๆ กังๆ และใช้เวลานานกว่าที่ควรจะเป็น ที่สำคัญ คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่คาดหวังว่าลูกจะทำได้ดีร้อยเปอร์เซ็นต์ พยายามมองข้ามผลลัพธ์และดูที่ความตั้งใจ โดยไม่หงุดหงิดหรือต่อว่าที่ลูกทำได้ไม่ดีเท่าที่ควร และไม่เข้าไปขัดจังหวะ เพราะการเข้าไปช่วยเหลือจะกลายเป็นการขัดขวางการสร้างความภูมิใจของลูก รวมถึงทำให้ลูกไม่มีความพยายาม และคิดว่าถ้าทำไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็จะเป็นคนมาทำให้เสมอ
4. ไม่ซ้ำเติมเมื่อลูกทำผิดพลาด
คุณพ่อคุณแม่ต้องมอบหมายหน้าที่ให้ลูกด้วยความเข้าใจว่าลูกยังเด็กและไม่มีประสบการณ์มากพอ รวมถึงความแข็งแรงของร่างกาย กล้ามเนื้อ ความรอบคอบ ระมัดระวังอาจยังไม่มากพอ ทำให้บางครั้งลูกอาจทำผิดพลาด หรือเกิดอุบัติเหตุเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างช่วยทำงานบ้าน แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรดุ ทำโทษ หรือซ้ำเติมความผิดพลาดใส่ลูก ในทางกลับกันคุณพ่อคุณแม่ควรให้กำลังใจและเปิดโอกาสให้ลูกลองแก้ไขความผิดพลาดของตัวเองอีกครั้ง
5. อย่าลืมพูดขอบคุณเมื่อลูกช่วยงานบ้านสำเร็จ
เมื่อลูกช่วยงานบ้านตามที่ได้รับมอบหมายสำเร็จแล้ว คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมพูดคำขอบคุณ ชื่นชม รวมถึงหาคำพูดดีๆ เช่น ลูกช่วยแม่ได้เยอะเลย หรือเป็นเพราะลูกช่วยทำให้งานบ้านแม่เสร็จเร็วขึ้น ถ้าลูกไม่ช่วย แม่คงเหนื่อยมากกว่านี้ นอกจากจะทำให้ลูกภูมิใจในตัวเองแล้ว ยังสร้างความรู้สึกอยากช่วยคุณพ่อคุณแม่ทำงานบ้านด้วยความเต็มใจได้อีกด้วย
COMMENTS ARE OFF THIS POST