ตอนลูกยังเล็ก ต้องการการดูแลใส่ใจจากคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา ในฐานะคนเลี้ยงดูที่ต้องทุ่มเทเวลา แรงกาย และแรงใจให้ลูกน้อยตลอดเวลา ย่อมต้องเคยมีความคิดอยากให้ลูกโตเร็วๆ และดูแลตัวเองได้

แต่เมื่อเวลาผ่านไป ลูกเติบโตขึ้น กลายเป็นวัยรุ่นที่มีความคิดและความต้องการที่แตกต่างไปจากเดิม สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องเผชิญก็คือต้องเตรียม รับมือลูกวัยรุ่น อย่างมีศิลปะและใช้ความเข้าใจเพื่อให้ลูกเติบโตได้ตามเส้นทางของตัวเอง

เพราะลูกวัยรุ่นคือช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ การ รับมือลูกวัยรุ่น อาจจะไม่ต้องใช้พลังงานทางร่างกายมากเท่าวัยเด็ก แต่การรับมือวัยแห่งการเปลี่ยนแปลง ก็ต้องใช้พลังใจและความเข้าใจไม่น้อย

1. ค่อยๆ ขยายช่องว่างระหว่างแม่และลูก

สำหรับลูกวัยอนุบาล โดยเฉพาะช่วงเตรียมขึ้นชั้นประถม เด็กวัยนี้จะพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น ดูแลตัวเองได้ดีขึ้น มีความคิดเป็นของตัวเองชัดขึ้น และกล้าที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง

ช่วงเวลานี้ คุณพ่อคุณแม่ควรลองเปิดโอกาสให้ลูกกล้าคิด กล้าทำ และกล้าตัดสินใจให้มากขึ้น เพื่อเตรียมขยายช่องว่างระหว่างคุณแม่และลูกทีละเล็กทีละน้อย เพื่อให้คุณแม่คุ้นเคยกับการมีระยะห่างกับลูกมากขึ้นเรื่อยๆ ตามแต่ละช่วงวัย

2. ปล่อยมือ และปล่อยวาง

Sarah Lorimer De Santi คุณแม่ลูกสามจากเว็บไซต์ the5worldexplorers.com ได้แชร์เรื่องราวของการเป็นคุณแม่ลูกวัยรุ่น ช่วงวัยที่เริ่มออกห่างจากคุณแม่อย่างเต็มรูปแบบ

เธอเล่าว่า การเลี้ยงลูกวัยรุ่น สิ่งหนึ่งที่ต้องเรียนรู้และทำให้ได้คือ การปล่อยวาง เพื่อให้มีที่ว่างสำหรับสิ่งใหม่ระหว่างตัวเองกับลูก และในระหว่างนั้นพ่อแม่จะต้องมีความกล้าที่จะปล่อยมือจากลูก และยอมรับว่าลูกโตพอที่จะพึ่งพาตัวเองได้มากขึ้น และไม่ต้องการได้รับความช่วยเหลือจากคุณแม่ทุกอย่างเช่นเดิม

นอกจากนั้น เธอยังเรียนรู้ว่า ไม่ใช่ลูกไม่ต้องการคุณพ่อคุณแม่ เขาแค่ต้องการเราในมุมอื่นที่แตกต่างออกไป เราเองก็เช่นกัน จากเดิมที่คิดว่า ลูกๆ ต้องพึ่งพาพ่อแม่ แต่ความเป็นจริง เมื่อลูกเติบโตขึ้นแล้ว พ่อแม่อย่างเราก็ควรเริ่มพึ่งพาลูกบ้าง เพราะลูกสามารถจัดการได้มากกว่าที่เราคิด

เธอย้ำว่า เมื่อลูกโตแล้ว เราจะต้องเดินบนเส้นทางชีวิตของตัวเองให้ได้อีกครั้ง อย่าลืมค้นหาจุดกึ่งกลางของการอยู่เคียงข้างลูก แทนการเข้าไปแทรกแซงเส้นทางชีวิตของลูก หายใจลึกๆ ค่อยๆ ปล่อยมือและปล่อยวาง ให้เวลาได้หมุนไปตามแบบที่ควรจะเป็น แค่คอยยิ้มและโบกมือให้กำลังใจทุกครั้ง เมื่อลูกหันหลังกลับมามองจะดีกว่า

3. กลับไปทำในสิ่งที่ตัวเอง(เคย)อยากทำ 

คุณพ่อคุณแม่หลายคน  อาจต้องละทิ้งหรือเว้นช่วงจากสิ่งที่ตัวเองรักหลังจากมีลูก เพื่อที่จะได้มีเวลาดูแลลูกอย่างเต็มที่ เมื่อลูกโตขึ้น ไม่ต้องการเวลาจากคุณพ่อคุณแม่มากอย่างที่เคย อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกเคว้งคว้าง เพราะไม่รู้จะยึดโยงความสุขของตัวเองไว้กับใครหรืออะไรได้อีก

Torie Henderson นักการศึกษาที่ให้ความรู้ด้านการเลี้ยงดูบุตรกับผู้ปกครอง(Parent Educator) จากเว็บไซต์ lifecoachingforparents.com แนะนำว่า ระหว่างการเป็นคุณพ่อคุณแม่ สิ่งสำคัญก็คือ เราต้องไม่ทิ้งความเป็นตัวเอง และเมื่อถึงเวลา คุณพ่อคุณแม่ต้องสามารถกลับมาทำตามความต้องการและตัวตนของตัวเองได้อาจเริ่มต้นด้วยการถามตัวเองอีกครั้งว่า ก่อนมีลูก อยากทำอะไร ชอบอะไร มีอะไรที่ตัวเองเคยทำค้างไว้แล้วยังสานต่อไม่เสร็จหรือเปล่า หรืออยากพัฒนาสิ่งใด เมื่อเรารู้สิ่งที่เราต้องการแล้ว ก็ค่อยๆ ลงมือทำทีละเล็กทีละน้อย เพื่อเตรียมตัวให้คุ้นชินกับช่วงเวลาที่ต้องห่างลูกนั่นเอง

4. ปล่อยให้ตัวเองเศร้าได้ ร้องไห้ได้ แต่ก็หยุดให้ได้

เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแม่รู้สึกว่า ลูกโตไวจนใจหาย เริ่มไม่ให้อุ้ม ไม่ให้จุ๊บ ไม่ให้เดินจับมือ และทำอะไรได้ด้วยตัวเอง ความเศร้าเล็กๆ อาจแวะมาทักทาย ความเหงาในบางวันที่ลูกไม่อยู่เพราะไปโรงเรียนเข้ามาแทนที หากรู้สึกเศร้าและเหงา ปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาได้ เพื่อระบายอารมณ์และความรู้สึกที่อ่อนไหว

หลังจากร้องไห้แล้ว บอกตัวเองใหม่ ลูกเติบโตเป็นสิ่งที่ดี และนี่คือช่วงเวลาที่เราจะต้องเริ่มปรับตัวใหม่อีกครั้ง

Kelle Hampton นักเขียน ช่างภาพ และคุณแม่ลูกสองจากเว็บไซต์ kellehampton.com แนะนำ เทคนิคง่ายๆ คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องเพิ่มพื้นที่ความทรงจำใหม่ๆ ด้วยการโละของเก่า จัดการข้าวของใช้สมัยลูกยังเล็กลงกล่องบริจาค ให้กับเด็กคนอื่นๆ ที่ต้องการใช้ต่อไป เพื่อเตรียมต้อนรับลูกในวัยที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง

ลูกวัยรุ่น: 4 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้การเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย!

อ้างอิง
lifecoachingforparents
kellehampton
the5worldexplorers