อย่างที่ทราบกันว่าหลายพื้นที่ในเขตกรุงเทพมหานคร กลายเป็นพื้นที่สีแดงที่มีค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นปริมาณที่สามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพประชากรในพื้นที่ โดยเฉพาะผู้สูงอายุ คนที่มีปัญหาสุขภาพหรือโรคเกี่ยวกับทางเดินหายใจ และเด็ก เป็นกลุ่มคนที่ควรได้รับปกป้องให้ได้รับฝุ่นมลภาวะน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
วิธีป้องกันตัวเองและลูกน้อยเบื้องต้นก็คือการสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 ลำพังตัวคุณพ่อคุณแม่ยังไม่เท่าไร แต่ลูกน้อยนี่สิกลับร้องไห้งอแงไม่ค่อยจะยอมใส่หน้ากากขึ้นมาซะอย่างนั้น
มาลองดูกันว่า เด็กๆ มีปัญหาอะไรกับหน้ากากอนามัยที่คุณอุตส่าห์ไปหาซื้อมาให้เขา และคุณพ่อคุณแม่พอจะช่วยแก้ไขอะไรได้บ้าง
1. ใส่แล้วหายใจไม่ออก
แน่นอนว่าด้วยความหนาแน่นของหน้ากากที่จะกรองฝุ่น PM 2.5 ได้นั้น ย่อมส่งผลให้เด็กๆ หายใจยากเป็นธรรมดา เพราะฉะนั้นหน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 แบบวาล์ว ก็เป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะมีวาล์วระบายอากาศให้ถ่ายเทระหว่างอากาศข้างนอกกับอากาศข้างในหน้ากาก จะช่วยทำให้ลูกหายใจสะดวกมากยิ่งขึ้น
2. ใส่หน้ากากแล้วเจ็บหู
สายรัดหน้ากากอาจจะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เจ้าตัวเล็กงอแงไม่ยอมใส่หน้ากาก ลองเปลี่ยนมาให้ลูกใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM 2.5 แบบ 3D ที่สายคล้องหูถูกออกแบบมาให้เป็นรูปทรงยืดหยุ่น กระชับกับหูของผู้สวมใส่ ทำให้ใส่ได้นานและไม่ทำให้ลูกเจ็บหูอีกด้วย
3. ไม่ชอบใส่เพราะหน้ากากเหม็น
เพราะกลิ่นแปลกๆ ที่ติดมากับหน้ากากทำให้เด็กๆ ไม่ยอมใส่ ลองเปลี่ยนมาให้เด็กใส่หน้ากากแบบผ้าที่มีแผ่นกรองฝุ่น PM 2.5 แทน โดยก่อนใช้ คุณพ่อคุณแม่เอาหน้ากากไปซักให้มีกลิ่นหอมเสียก่อน ก็จะช่วยให้เจ้าตัวเล็กยอมกลับมาใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นอีกครั้ง
COMMENTS ARE OFF THIS POST