READING

เด็กสมัยนี้ : ทำไมไม่เหมือนสมัยก่อน แล้วพ่อแม่จะทำ...

เด็กสมัยนี้ : ทำไมไม่เหมือนสมัยก่อน แล้วพ่อแม่จะทำความเข้าใจเด็กรุ่นใหม่อย่างไรดี?

เด็กสมัยนี้

คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมว่า ตั้งแต่เติบโตเป็นผู้ใหญ่ และมีลูกเป็นของตัวเอง หลายครั้งที่เรามักจะเผลอใช้คำว่า เด็กสมัยนี้ เมื่อต้องอธิบายพฤติกรรมหรือพูดถึงตัวตนของลูก เช่น เด็กสมัยนี้เก่งเทคโนโลยี เด็กสมัยนี้สมาธิสั้น เด็กสมัยนี้ใจร้อน ฯลฯ

นั่นเป็นเพราะคุณพ่อคุณแม่เริ่มเห็นความแตกต่างระหว่างเด็กในอุดมคติหรือภาพจำวัยเด็กของตัวเอง กับเด็กหรือลูก ที่เกิดและเติบโตในยุคสมัยที่สภาพแวดล้อมทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป

จากงานวิจัยเรื่อง Kids these days ที่จัดทำโดย John Protzko และ Jonathan W. Schooler สองนักจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ซานตา บาร์บารา ที่เคยตีพิมพ์ในวารสารวิชาการ Science Advances ระบุว่า จากการสอบถามคนอเมริกันอายุ 33-51 ปี จำนวน 3,458 คน พวกเขามีทัศนคติไปในทางเดียวกันว่า วัยรุ่นอเมริกันสมัยนี้แย่กว่าสมัยของตัวเองมาก

นั่นหมายความว่า คำว่า เด็กสมัยนี้ ไม่ได้เป็นชุดความคิดที่ถูกนิยามขึ้นในสังคมไทยเท่านั้น แต่ความแตกต่างของยุคสมัยและช่วงวัย (Generation Gap) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับสังคมทั่วโลก

แล้วพ่อแม่อย่างเรา จะเริ่มหันมาทำความเข้าใจลูก ที่กำลังเป็นส่วนหนึ่งของเด็กสมัยนี้ได้อย่างไร เรามี 5 ลักษณะของเด็กรุ่นใหม่ มาเป็นแนวทางให้คุณพ่อคุณแม่ลองนำไปปรับและทำความเข้าใจกับเด็กสมัยนี้มากขึ้น

1. ชอบความอิสระและไม่ตีกรอบ

EvolutionParenting_web_1

โลกของเด็กสมัยนี้กว้างใหญ่เกินกว่าที่คุณพ่อคุณแม่จะจินตนาการได้ ดังนั้นลูกจึงไม่ชอบการถูกจำกัดหรือตีกรอบทางความคิด ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะยกความมีประสบการณ์ชีวิตที่มากกว่ามาเป็นเหตุผล แต่เด็กสมัยนี้ก็มักจะมั่นใจว่าข้อมูลที่ตัวเองค้นหาและเข้าถึงได้ มีประโยชน์และน่าเชื่อถือไม่น้อยไปกว่าคำพูดของคุณพ่อคุณแม่

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่า การตีกรอบ บังคับ หรือสร้างข้อจำกัดในการใช้ชีวิต อาจจะใช้กับลูกไม่ได้ผล แต่การให้อิสระ ปล่อยให้ลูกได้คิดและลองทำอะไรใหม่ๆ โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุน ให้คำแนะนำ และคอยให้ความช่วยเหลือต่างหากที่จะทำให้ลูกเติบโตอย่างมีคุณภาพในสังคมปัจจุบันได้

2. กล้าคิด กล้าถาม

EvolutionParenting_web_2

บางคำถามของลูกอาจจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ประหลาดใจและตกใจไปบ้าง แต่นั่นเป็นเพราะเด็กยุคนี้ สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และสื่อต่างๆ ได้ง่ายกว่าสมัยก่อน ทำให้เด็กมีความกล้าแสดงออก กล้าคิด กล้าพูด เมื่อสงสัยก็กล้าที่จะถามเพื่อหาคำตอบให้ได้เช่นกัน

สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือการเปิดใจและหาวิธีตอบคำถามลูก โดยคำนึงจากความเหมาะสมตามช่วงวัยและความสามารถในการทำความเข้าใจเรื่องต่างๆ ของลูกเป็นสำคัญ

3. การเรียนรู้ไม่ได้มีแค่ในห้องเรียน

EvolutionParenting_web_3

เด็กสมัยนี้เติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจว่า ความรู้ไม่ได้มีอยู่แค่ในหนังสือเรียน และการเรียนรู้ของลูกอาจเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้ ที่ไม่ใช่แค่ในห้องเรียน

ดังนั้น ในช่วงวัยแห่งการเรียนรู้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญและส่งเสริมให้ลูกลองทำกิจกรรมเพื่อค้นหาความถนัดและฝึกทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิต ไม่น้อยไปกว่าการใช้เวลานั่งอยู่ในห้องเรียนนะคะ

4. โลกแห่งความรวดเร็วทันใจ

EvolutionParenting_web_4

เด็กรุ่นใหม่มักจะใจร้อน และรออะไรนานๆ ไม่เป็น นั่นเป็นเพราะลูกเติบโตในยุคที่ทุกอย่างสะดวกสบาย และรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงข้อมูล การสื่อสารหรือการเดินทาง

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสอนให้ลูกรู้จักการอดทนรอคอยมากขึ้น แต่ถึงอย่างคุณพ่อคุณแม่เองก็จำเป็นต้องอัปเดตข้อมูลข่าวสารและการรับรู้ของตัวเอง ให้ทันความเป็นไปของลูกเสมอ

5. การปฏิเสธ ไม่ได้แปลว่าดื้อหรือต่อต้าน

EvolutionParenting_web_5

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เด็กรุ่นใหม่มีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่คงนึกแปลกใจ เมื่อรู้สึกว่าลูกมักจะปฏิเสธสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่นำเสนอ เช่น ไม่ชอบเสื้อสีนี้ ไม่อยากทำอย่างนั้น แต่นั่นเป็นสัญญาณที่ดีในการสร้างตัวตนของลูก ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเรียนรู้และเข้าใจ เพราะเมื่อลูกรู้สึกว่าคุณพ่อคุณแม่เคารพความคิดและตัวตนของเขา ลูกก็จะเห็นคุณค่าของตัวเองและเคารพคุณพ่อคุณแม่มากขึ้นเช่นกัน

อ้างอิง
science
Fampay
Kasetsart University Laboratory School
School of Change Makers
Urbancreature

PITTAYARAT CH.

พิทยารัตน์ ชูพล: เด็กผู้หญิงผู้รับบทบาทลูกสาวคนเล็ก ที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักเเละความใส่ใจจากคุณแม่ จนมีความใฝ่ฝันว่าสักวันหนึ่งจะมอบความรักอันยิ่งใหญ่แบบนี้ให้ใครสักคนบ้าง

COMMENTS ARE OFF THIS POST