รัฐสวัสดิการ คือการจัดระบบสวัสดิการสังคมทั่วด้านให้แก่ทุกคนในสังคมอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้น รัฐสวัสดิการของแต่ละประเทศ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมให้ประชาชนในประเทศนั้นๆ มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น
และรัฐสวัสดิการที่ดีนั้นจะต้องถึงพร้อมและครอบคลุมไปถึงประชากรเด็ก ที่เกิดและเติบโตขึ้นเพื่อเป็นประชาชนและพลเมืองที่สำคัญของประเทศต่อไป คงไม่ผิดนักที่จะบอกว่า คุณภาพชีวิตของเด็กในประเทศ ก็พอจะเป็นเครื่องชี้วัดคุณภาพชีวิตของประชากรในประเทศนั้นได้
วันนี้เราลองสำรวจรัฐสวัสดิการของเด็กๆ ใน 4 ประเทศ มาฝากคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังสนใจว่าประเทศอื่นเขาทำอะไรให้เด็กๆ กันบ้าง
ประเทศญี่ปุ่น
• เด็กที่ประเทศญี่ปุ่นจะได้รับเงินช่วยเหลือค่าเลี้ยงดู ตั้งแต่อายุ 0-15 ปี เดือนละ 5,000-15,000 เยน (ประมาณ 1,429-4,287 บาท) ขึ้นอยู่กับช่วงอายุและรายได้ของหัวหน้าครอบครัว
• เด็กทุพพลภาพอายุต่ำกว่า 20 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 33,570- 50,400 เยน (ประมาณ 9,596-14,407 บาท) ขณะที่เด็กอายุ 20 ปีขึ้นไปจะมีสิทธิได้รับเงินอุดหนุนจากสวัสดิการผู้พิการแห่งชาติต่อไป
• เด็กๆ จะได้วัคซีนพื้นฐานฟรีทั้งหมด โดยสามารถเดินทางไปติดต่อรับตั๋ววัคซีนฟรีที่สำนักงานเขตใกล้บ้าน
• เด็กญี่ปุ่นจะได้รับค่ารักษาพยาบาลตั้งแต่เกิดไปจนจบชั้นประถม โดยสวัสดิการก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละเขต และแต่ละจังหวัด
• เด็กๆ จะเรียนฟรีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หากเรียนในโรงเรียนรัฐตามที่เขตกำหนด ตั้งแต่ประถมศึกษาปีที่ 1 ไปจนถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3
ประเทศเกาหลีใต้
• เด็กเล็ก 0-5 ขวบ จะได้รับการสนับสนุนค่าใช้จ่าย โดยไม่คำนึงถึงรายได้ครอบครัว สำหรับเด็ก 0-2 ขวบ จะได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 258,000-454,000 วอน ต่อคน (ประมาณ 7,144-12,571 บาท)
• เด็กอายุ 3-5 ขวบ จะได้รับเงินช่วยเหลือเดือนละ 220,000 วอน ต่อคน (ประมาณ 6,091 บาท)
• และเด็กทุพพลภาพวัยก่อนเข้าเรียนอายุไม่เกิน 12 ปี จะได้รับเงินช่วยเหลือ เดือนละ 462,000 วอน (ประมาณ 12,793 บาท)
• เด็กเกาหลีใต้จะได้รับเงินอุดหนุนการศึกษา โดยมอบให้ตั้งแต่อายุ 3-5 ขวบ หากเข้าโรงเรียนอนุบาลระดับชาติ สาธารณะ หรือเอกชน 60,000-200,000 วอน (ประมาณ 1,661-5,538 บาท)
• หากเลี้ยงเด็กที่บ้าน ไม่ได้ไปสถานรับเลี้ยง จะได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงอยู่ที่ เดือนละ 100,000-200,000 วอน ต่อคน (ประมาณ 2,769-5,538 บาท)
ประเทศสิงคโปร์
• รัฐบาลจะจ่ายเงินช่วยเหลือการตั้งครรภ์และเลี้ยงดูบุตร ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 9-12 ไม่เกิน 10,000 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 233,369 บาท) สำหรับบุตรคนที่ 1-2 และสำหรับบุตรคนที่ 3-4 จะได้รับเงินช่วยเหลือไม่เกิน 30,000 ดอลลาร์ต่อการคลอดบุตรหนึ่งคน (ประมาณ 700,108 บาท)
• เงินอุดหนุนค่าธรรมเนียมฝากลูกในสถานเลี้ยงเด็ก ตั้งแต่ 2 เดือน-7 ปี ซึ่งสามารถใช้สิทธิ์ได้ตั้งแต่ลูกคนที่ 1-4 โดยจำนวนเงินอุดหนุนจะได้รับแตกต่างกันไปในแต่ละอายุของเด็ก และระยะเวลาที่ใช้บริการสถานเลี้ยงเด็ก
• รัฐบาลอุดหนุนค่าเล่าเรียนในโรงเรียนรัฐ เพื่อลดค่าเล่าเรียนให้ถูกลง อีกทั้งช่วยเหลือเงินในด้านการศึกษาหากครอบครัวมีรายได้น้อยกว่า 1,500 หรือ 1,800 ดอลลาร์สิงคโปร์ต่อเดือน (ประมาณ 35,005-42,006 บาท)
ประเทศสวีเดน
• เด็กและเยาวชนที่อายุไม่เกิน 21 ปี จะได้รับการนัดหมายให้ตรวจสุขภาพ ฉีดวัคซีน ทันตกรรม และตรวจวัดสายตา โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
• รัฐบาลสวีเดนให้พ่อแม่สามารถลาหยุดเพื่อเลี้ยงลูกได้ถึง 480 วัน ต่อลูก 1 คน โดยสามารถใช้สิทธินี้จนกระทั่งลูกอายุ 8 ขวบ
• ให้เงินอุดหนุนเมื่อเด็กป่วย โดยจะจ่ายเงินให้พ่อแม่เด็กลาอยู่บ้านเพื่อดูแลลูกจนหายดี
• พ่อแม่ได้รับเงินช่วยเหลือเลี้ยงดูจนลูกอายุ 16 ปี จำนวน 1,050 โครนสวีเดนต่อเดือน (ประมาณ 3,874 บาท) หากมีบุตรคนที่ 2 ขึ้นไปก็จะได้รับเงินช่วยเหลือเพิ่มขึ้นอีก
COMMENTS ARE OFF THIS POST