7 วิธี สร้างนิสัยใจดีให้ลูก

ชอบโทษคนอื่น

เมื่อลูกโตขึ้นถึงวัยหนึ่ง จากเด็กน้อยที่เคยอ่อนโยน บอบบาง ใจดี และไม่มีพิษภัยก็อาจจะเริ่มมีพฤติกรรมที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจนัก เช่น เล่นกับเพื่อนและสัตว์เลี้ยงด้วยความรุนแรง หยิกหรือตีให้คุณพ่อคุณแม่ได้รับบาดเจ็บ หงุดหงิดอารมณ์เสียง่าย ทำลายข้าวของ 

ความจริงแล้ว เมื่อเด็กโตถึงช่วงวัยหัดเดิน ตามพัฒนาการแล้ววัยนี้เด็กๆ กำลังอยู่ในช่วงอยากเรียนรู้และทดสอบข้อจำกัดของตัวเองและคุณพ่อคุณแม่ อยากรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้แค่ไหน หรือเมื่อทำแล้วคุณพ่อคุณแม่จะดุหรือไม่ ดังนั้น การสอนให้ลูกรู้ว่าพฤติกรรมไหนไม่ควรทำ หรือถ้าเผลอทำลงไปแล้วต้องแก้ไข ขอโทษ และสอนให้ลูกรู้ว่าพฤติกรรมที่ควรแสดงออกเป็นอย่างไร

และคุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจว่า พฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรงของเด็ก ไม่ได้เกิดจากพื้นฐานจิตใจที่ไม่ดี เพียงแต่ลูกยังไม่รู้ว่าทำอะไรได้หรือไม่ได้ ยังไม่สามารถควบคุมน้ำหนักมือและอารมณ์ของตัวเองได้ดีเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างนั้น หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกทำพฤติกรรมรุนแรงต่อไปโดยไม่สอนให้ลูกนึกถึงจิตใจคนอื่น ลูกอาจเคยชินและติดเป็นนิสัยได้

แล้วคุณพ่อคุณแม่จะสอนลูกให้ลดพฤติกรรมก้าวร้าวและสร้างนิสัยใจดีให้ลูกได้อย่างไร ลองมาเริ่มไปพร้อมกันค่ะ

1. มีเป้าหมายและข้อตกลงที่ชัดเจน

มีเป้าหมาย

ก่อนอื่น คุณพ่อคุณแม่ต้องมีเป้าหมายให้ชัดเจนว่าต้องการที่จะสอนและปลูกฝังให้ลูกไม่ทำร้ายคนอื่น ไม่ทำลายข้าวของ ไม่รังแกสัตว์ แต่ยังคงเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้โดยไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น แล้วสร้างข้อตกลงหรือบอกให้ลูกเข้าใจว่ากติกาของครอบครัวเราก็คือจะไม่ทำให้ใครเจ็บตัวและไม่ทำให้ข้าวของเสียหาย

2. เน้นย้ำข้อตกลงเสมอเมื่อมีโอกาส

เน้นย้ำข้อตกลงเสมอเมื่อมีโอกาส

ถึงแม้จะบอกหรือตกลงกันแล้ว แต่เด็กๆ ก็อาจจะเผลอหรือลืมตัวละเมิดข้อตกลงได้ บางครั้งไม่ได้ตั้งใจ แต่เมื่อโกรธก็ยั้งมือตัวเองไม่ทัน

วิธีที่จะช่วยให้ลูกปฏิบัติตัวตาม คือการเตือน เน้นย้ำ และบอกเหตุผลให้ลูกเข้าใจเสมอว่าทำไมถึงไม่ควรทำอย่างนั้น เช่น ถ้าลูกเผลอลงมือตีเพื่อน เพื่อนก็จะเจ็บและเสียใจ แล้วถ้าเพื่อนทำอย่างนั้นกับลูกบ้าง ลูกก็ต้องไม่พอใจเช่นกัน

3. แก้พฤติกรรมของลูกตอนที่ลูกลงมือทันที

แก้พฤติกรรม

ไม่ว่าลูกกำลังแสดงพฤติกรรมที่ไม่ดีกับใครอยู่ ถ้าคุณพ่อคุณแม่เห็นแล้วให้เข้าไปจัดการพฤติกรรมของลูกด้วยการจับมือให้ลูกหยุด และพูดกับลูกด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นทันที เพราะถ้าปล่อยให้ลูกทำไปก่อน แล้วค่อยมาสอนทีหลัง ลูกอาจจะลืมพฤติกรรมของตัวเองไปแล้ว และไม่เข้าใจว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องมาตำหนิย้อนหลังด้วย

4. สอนให้ลูกเรียนรู้เข้าใจในความรู้สึกของผู้อื่น

เข้าใจความรู้สึก

การสร้างนิสัยให้ลูกเป็นเด็ก ใจดี สิ่งสำคัญคือการสอนให้ลูกนึกถึงความรู้สึกของคนอื่น เช่น บอกว่าเวลาที่ลูกผลักหรือตีเพื่อน เพื่อนก็จะเจ็บและรู้สึกเสียใจ บางครั้งอาจทำให้เพื่อนไม่อยากเล่นกับลูกอีกเลยก็ได้

Kiley Hamlin ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยบริติชโคลัมเบีย ได้ศึกษาพฤติกรรมของเด็กและกล่าวว่า การทำให้เด็กเข้าใจผลลัพธ์ของสิ่งที่ทำกับคนอื่น ก็จะเป็นประโยชน์กับตัวเด็กอย่างมากเช่นกัน

5. สอนให้ลูกขอโทษและชดเชยกับสิ่งที่ทำลงไป

รับผิดชอบ

คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ลูกทำพฤติกรรมก้าวร้าวหรือทำร้ายคนอื่นผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ควรสอนให้ลูกขอโทษและรู้จักชดเชยในสิ่งที่ทำลงไป เพื่อให้เกิดการเรียนรู้จากการกระทำของตัวเอง เช่น ถ้าลูกทำของเพื่อนพังหรือเสียหาย ลูกต้องขอโทษ แสดงความเสียใจและความรับผิดชอบด้วยการนำของมาซ่อมให้ หรือสอนให้ลูกเก็บเงินเพื่อซื้อของชิ้นใหม่คืนให้เพื่อนด้วยตัวเองก็ยังไง

6. เลือกวิธีลงโทษอย่างเหมาะสม

ลงโทษ

เมื่อลูกทำผิดข้อตกลง การลงโทษก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ แต่บทลงโทษที่ว่านี้ควรจะสอดคล้องกับการกระทำของลูกด้วย เช่น พี่ชายผลักน้องชายล้ม เพราะต้องการแย่งจักรยานบทลงโทษของคุณพ่อคุณแม่ก็ควรอยู่ที่จักรยาน เช่น ห้ามใช้จักรยาน ถ้าไม่จำเป็นคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลงโทษในสิ่งที่ไม่เกี่ยวข้องกับสถานการณ์นั้นๆ เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกสับสนได้

7. บอกลูกเสมอว่าลูกเป็นเด็ก ใจดี

บอกลูกว่าเขาใจดี

คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรเอาพฤติกรรมที่ไม่ดีของลูกมาตัดสินว่าลูกเป็นคนอย่างไร เช่น เห็นลูกเล่นกับสัตว์เลี้ยงรุนแรง ไม่ควรตัดสินว่าลูกเป็นเด็กใจร้ายหรือไม่มีความเมตตา แต่ควรสร้างความมั่นใจให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่เชื่อมั่นในตัวเขา พ่อแม่รู้ว่าความจริงแล้วลูกไม่ได้ตั้งใจทำให้สัตว์เลี้ยงเจ็บ เพราะลูกเป็นคนใจดี แต่ลูกอาจไม่รู้ว่าจะต้องใช้น้ำหนักมือแบบไหน การแสดงออกว่าเชื่อมั่นและเข้าใจลูก จะทำให้ลูกไม่แสดงพฤติกรรมต่อต้านและอยากปรับตัวให้เป็นไปตามทัศนคติของคุณพ่อคุณแม่ แต่การตัดสินว่าลูกเป็นเด็กไม่ดีหรือชอบทำร้ายคนอื่น อาจเป็นการผลักดันให้ลูกทำพฤติกรรมเช่นนั้นต่อไป

อ้างอิง
parents
afineparent

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

COMMENTS ARE OFF THIS POST