คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยได้ยิน ทฤษฎีการเลี้ยงลูกแบบผูกพัน (Attachment Parenting) ที่กำลังได้รับความนิยมในกลุ่มพ่อแม่ยุคใหม่ที่ต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับลูก เพื่อส่งเสริมพัฒนาการที่สมบูรณ์ของลูกในทุกมิติ
และทฤษฎีนี้ก็สอดคล้องกับการ เลี้ยงลูกแบบโคอาล่า (Koala Parenting) ซึ่งเป็นแนวทางการเลี้ยงดูที่เน้นความใกล้ชิดและการสร้างความผูกพันระหว่างพ่อแม่และลูกตั้งแต่แรกเกิด โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากพฤติกรรมการเลี้ยงลูกของโคอาล่าที่แม่จะคอยอุ้มลูกน้อยติดตัวตลอดเวลา
การ เลี้ยงลูกแบบโคอาล่า จึงเน้นความใกล้ชิดและการตอบสนองต่อความต้องการของลูกอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างความผูกพันที่แข็งแกร่งและส่งเสริมการพัฒนาการที่ดีทางอารมณ์และจิตใจของลูกได้
แต่ด้วยแนวคิดนี้ อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้พลังงานทั้งร่างกายและจิตใจมากกว่าปกติ ดังนั้น การรักษาสมดุลระหว่างความต้องการของตนเองและลูก เพื่อป้องกันความเหนื่อยล้าและความเครียดที่อาจเกิดขึ้นได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
หลักการเลี้ยงลูกแบบโคอาล่า คืออะไร เราชวนคุณพ่อคุณแม่มาทำความเข้าใจกันอีกครั้งค่ะ
1. การสร้างความผูกพัน (Bonding)

การเลี้ยงลูกแบบโคอาล่า เน้นการสร้างความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและมั่นคงระหว่างพ่อแม่และลูกตั้งแต่แรกเกิด โดยคุณพ่อคุณแม่จะใช้เวลาร่วมกับลูกในทุกกิจกรรม เช่น การให้นม อุ้มลูก หรือแม้แต่การมองตา การผูกพันเช่นนี้ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกมั่นคงและปลอดภัยในสภาพแวดล้อมของเขา
2. การให้นมแม่ (Breastfeeding)

การให้ลูกกินนมจากเต้านมคุณแม่ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเลี้ยงลูกแบบโคอาล่า เพราะไม่เพียงแต่ให้สารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของลูกเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างแม่และลูกได้ โดยในระหว่างที่ให้นม คุณแม่สามารถใช้เวลาในการมองตา สัมผัสลูก หรือพูดคุยอย่างอ่อนโยนแต่สำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถให้นมลูกด้วยการเข้าเต้าได้ อาจหาวิธีสร้างความใกล้ชิดอื่น เช่น การป้อนนมด้วยขวดในลักษณะที่อบอุ่นและใกล้ชิด
3. การอุ้มลูกติดตัว (Baby-wearing)

การอุ้มลูกไว้ใกล้ตัวด้วยผ้าหรืออุปกรณ์อุ้ม เช่น เป้อุ้มเด็ก จะทำให้ลูกจะรู้สึกปลอดภัยเพราะได้ยินเสียงหัวใจและกลิ่นที่คุ้นเคยจากตัวคุณพ่อแม่ เพราะนอกจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาระบบประสาทและลดการร้องไห้ได้แล้ว ยังช่วยทำให้คุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจกรรมอื่นๆ ได้ในขณะที่ดูแลลูกน้อยอย่างใกล้ชิด
4. การนอนใกล้ลูก (Bedding close to the baby)

การนอนใกล้ลูกช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ตอบสนองต่อความต้องการของลูกได้เร็วขึ้น เช่น เมื่อลูกร้องไห้หรือหิวนม โดยควรให้ลูกนอนในเปลที่อยู่ในห้องเดียวกับพ่อแม่ในช่วง 6-12 เดือนแรก แต่คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการนำลูกมานอนบนเตียงเดียวกันกับพ่อแม่ หากไม่มีการจัดการความปลอดภัยอย่างเหมาะสม
5. การตอบสนองต่อการร้องไห้ของลูก (Belief in the language value of the baby’s cry)

การร้องไห้เป็นวิธีการสื่อสารหลักของทารก พ่อแม่แบบโคอาล่าจะตอบสนองต่อการร้องไห้ของลูกเสมอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกว่าความต้องการของเขาได้รับการดูแลด้วยการสังเกตและเรียนรู้ประเภทของการร้องไห้ เช่น ร้องเพราะหิว ง่วงนอน หรือไม่สบายตัว
จากนั้นก็จะรีบตอบสนองด้วยความรวดเร็วและอ่อนโยน เช่น การอุ้มปลอบ พูดคุย หรือสัมผัสอย่างอบอุ่น และที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการปล่อยให้ลูกร้องไห้จนหยุดไปเอง เพราะอาจทำให้ลูกรู้สึกว่าไม่ได้รับการดูแลนั่นเอง
COMMENTS ARE OFF THIS POST