ในสถานการณ์ที่ต่างคนต่างต้องการแสดงความคิดเห็นของตัวเอง เป็นเรื่องง่ายที่จะมีการไม่ยอมรับฟังกันเกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนเผลอใช้อำนาจความเป็นพ่อแม่หรือความเป็นผู้ใหญ่ตัดสิทธิ์และริดรอนการแสดงความเห็นของลูกด้วยการออกคำสั่ง ‘ห้ามเถียง’
โดยไม่ทันคิดว่าหากคุณพ่อคุณแม่ลองปล่อยให้ลูกได้แสดงออก ได้อธิบายสิ่งที่คิด แม้บางครั้งจะดูคล้ายการปล่อยให้ลูกเป็นเด็กช่างเถียง เราอาจจะได้เรียนรู้และเข้าใจลูกมากขึ้นก็ได้
1. ได้ทำความรู้จักลูกมากขึ้นว่าเขามีความคิด ความเชื่อต่อสิ่งต่างๆ บนโลกนี้อย่างไร

การปล่อยให้ลูกเถียงโดยที่คุณพ่อคุณแม่ทำหน้าที่รับฟัง จะช่วยทำให้พ่อแม่รู้จักลูกในแง่มุมที่เป็นตัวเขาเองจริงๆ เพราะการเถียงก็เป็นรูปแบบการแสดงออกทางความคิดอย่างหนึ่ง หากผู้ใหญ่รับฟังและพบว่ามีสิ่งใดไม่ถูกต้อง ก็จะสามารถอธิบายหรือปรับความเข้าใจกับลูกได้เร็วขึ้น
2. ทำให้ลูกกล้าพูดในสิ่งที่แตกต่าง

พ่อแม่ที่ยอมรับฟังความคิดเห็นของลูก จะช่วยทำให้ลูกเป็นเด็กมีความมั่นใจและกล้าที่จะพูดหรือแสดงออกตามความคิดของตัวเอง ที่สำคัญคือคุณพ่อคุณแม่จะเป็นตัวอย่างที่ดีในการยอมรับฟังผู้อื่น และและมีโอกาสสอนลูกให้เข้าใจว่าการกล้าพูดในสิ่งที่แตกต่างอย่างเหมาะสมและมีเหตุผลเพียงพอควรทำอย่างไร
3. ทำให้ลูกไม่เป็นเด็กเก็บกด

การเถียงเปิดโอกาสให้เด็กระบายอารมณ์ ความอัดอั้น ความเครียดออกมา โดยที่ไม่ต้องกักเก็บความรู้สึกลบไว้ในใจ การสะสมความรู้สึกไว้ในใจ พอเจอความรู้สึกไม่ดีก็กดมันไว้ข้างใจ ไม่ยอมแสดงออกให้ใครเห็นซึ่งอาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กเก็บกดต่อไปในที่สุด
4. ลูกเรียนรู้ที่จะยอมรับความคิดเห็นที่แตกต่าง

หลังจากเถียงกันแล้วสงบสติอารมณ์ได้แล้ว นี่เป็นโอกาสทองที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกรู้จักว่าทุกคนมีเป็นความคิดเป็นของตัวเอง ตอนที่แม่เถียงกับลูกเมื่อกี้เพราะแม่มีความคิดเป็นของแม่เอง ส่วนลูกก็มีความคิดเป็นของตัวเองเหมือนกัน หากลูกกับแม่ยอมรับฟังความคิดเห็นของกันและกัน และพูดคุยกันด้วยเหตุผล ย่อมได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าการโต้เถียงกันด้วยอารมณ์แน่นอน
COMMENTS ARE OFF THIS POST