มีงานวิจัยที่ได้รับการยอมรับมากมายบอกว่า ช่วงวัยสามปีแรกของเด็ก การอ่านหนังสือจะช่วยทำให้สมองพัฒนามากขึ้นถึง 70 เปอร์เซ็นต์ และยังช่วยเสริมสร้างจินตนาการ ซึ่งเป็นพัฒนาการที่สำคัญต่อการเติบโตอีกด้วย 

1. สอดแทรกการอ่านเข้ากับกิจวัตรประจำวัน

การปลูกฝังให้ลูกรักการอ่าน อาจไม่จำเป็นต้องใช้หนังสือเป็นอุปกรณ์อย่างเดียวเท่านั้น แต่วิธีที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนสามารถทำได้ตลอดเวลาก็คือการสอดแทรกให้ลูกเห็นว่าการอ่านจะอยู่ในชีวิตประจำวันของเราเสมอ เช่น การชี้ชวนให้ลูกอ่านป้าย อ่านฉลากสินค้า หรือแม้แต่เมนูอาหารที่มีภาพประกอบสวยงาม ก็ทำให้ลูกสนใจการอ่านมากขึ้นได้

2. สร้างบรรยากาศแห่งการอ่าน

บรรยากาศเป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกรู้สึกอยากอ่านหนังสือ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะจัดให้มีมุมหนังสือภายในบ้าน มีหนังสือหลากหลายแบบให้ลูกเลือกอ่านด้วยตัวเอง หรือมีคุณพ่อคุณแม่คอยอ่านให้ฟัง และควรวางอยู่ในตำแหน่งที่ลูกเห็นและหยิบเองได้ มีเบาะ เก้าอี้ หรือโซฟาสำหรับให้ลูกนั่งใช้พื่้นที่ส่วนนั้นได้อย่างสงบและเป็นส่วนตัว

3. ชวนลูกไปเลือกซื้อหนังสือเล่มโปรดด้วยตัวเอง

อีกกลยุทธ์ที่สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างลูกกับการอ่านก็คือ อย่าลืมชวนลูกเข้าร้านหนังสือหรือห้องสมุดให้บ่อยครั้งเท่าที่จะทำได้ หากเป็นร้านหนังสือ คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกหนังสือที่ชอบด้วยตัวเอง จะช่วยสร้างแรงจูงใจในการอ่านให้ลูกมากยิ่งขึ้น

4. ให้ลูกได้อ่านผ่านการเล่น

คุณพ่อคุณแม่สามารถประยุกต์การอ่านให้เข้ากับเกมการเล่นอื่นๆ ของลูกได้ เช่น ชวนลูกเล่นเกมทายคำ บอกคำศัพท์จากภาพ หรือเกมจับคู่คำกับภาพที่เห็น เพื่อเพิ่มทักษะการทำความรู้จักกับคำศัพท์และชื่อเรียกต่างๆ เมื่อลูกรู้จักคำศัพท์มากขึ้น ลูกก็จะมีทักษะการอ่านหนังสือมากขึ้น และทำให้รู้สึกสนุกกับการอ่านมากขึ้นตามไปด้วย

และที่สำคัญ อย่าลืมว่าคุณพ่อคุณแม่คือคนสำคัญ ที่มีอิทธิพลต่อการอ่านหนังสือของลูก นอกจากเทคนิคการสอนทุกรูปแบบแล้ว การทำตัวเป็นแบบอย่างของคนที่รักการอ่านให้ลูกได้ซึมซับและเรียนรู้พฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ มีส่วนสำคัญที่จะช่วยให้ลูกเติบโตเป็นคนที่รักการอ่านต่อไปค่ะ

อ้างอิง
ahaparenting
raisesmartkid