นอกจากเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของลูก จะทำให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นใจและมีความสุข การหัวเราะยังมีประโยชน์ต่อร่างกายทารก เพราะเมื่อลูกหัวเราะ ปอดและหัวใจของทารกจะส่งออกซิเจนไปเลี้ยงสมองได้ดีขึ้น ร่างกายหลังฮอร์โมนเอนโดรฟิน เด็กที่หัวเราะและยิ้มง่าย ก็จะเป็นเด็กที่สดใสร่าเริง และมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีต่อไป
โดยทั่วไปทารกจะเริ่มส่งเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากได้ตั้งแต่อายุประมาณ 4 เดือน และจะเริ่มเข้าใจเหตุผลที่แท้จริงของการหัวเราะมากขึ้น เช่น รู้สึกตลกขบขัน รู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ตั้งใจเล่นด้วย หรือตั้งใจแสดงความรู้สึกให้คนอื่นเข้าใจได้ตั้งแต่อายุ 5 เดือน
เมื่อรู้ว่าการหัวเราะ มีส่วนสำคัญต่อการมีพัฒนาการของลูก คุณพ่อคุณแม่ก็ย่อมอยากช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้ลูกน้อยได้ยิ้มและหัวเราะเอิ๊กอ๊ากให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่จะทำอย่างไร วันนี้เรามีวิธีที่จะทำให้เบบี๋ชอบอกชอบใจและส่งเสียงหัวเราะออกมาให้คุณพ่อคุณแม่ชื่นใจได้มาฝากค่ะ
1. เป่าท้องให้มีเสียง

Blowing raspberries หรือการเป่าท้อง เป่าแขนให้มีเสียงลมออกมา โดยคุณพ่อคุณแม่อาจทำเสียงตลกๆ ร่วมไปกับการเป่าไปด้วย การเล่นแบบนี้จะทำให้เจ้าตัวน้อยรู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนที่ผิวหนังและชอบใจกับเสียงที่ได้ยิน แล้วเขาจะต้องหัวเราะออกมาได้อย่างแน่นอน
2. แตะจมูกกันหน่อย

เด็กทารกมักจะสนใจและชอบจ้องมองใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่มาก ลองทำแบบนี้ดูสิคะ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ ลูก ให้จมูกของคุณพ่อหรือคุณแม่สัมผัสกับจมูกของลูกเบาๆ การได้มองหน้ากันใกล้ๆ และสัมผัสเบาๆ ที่จมูกลูกจะรู้สึกดีจนต้องยิ้มหรือหัวเราะออกมาเลยล่ะค่ะ
3. ทำหน้าตาตลก

เด็กๆ มักจะอารมณ์ดีเมื่อเห็นคุณพ่อคุณแม่ทำอะไรตลกๆ ดังนั้นเวลาเล่นกันลูก คุณพ่อคุณแม่ลองทำหน้าตาตลกๆ เช่น แลบลิ้น ชูสองนิ้วขึ้นมาทำเป็นหูกระต่าย ให้ลูกดู หรือจะเพิ่มด้วยการใส่บทบาทสมมติเมื่อเล่นกับลูกด้วยก็ยิ่งดีเลยค่ะ
4. ไล่จับ

เด็กในวัยเริ่มคลานจะรู้สึกสนุกมากเมื่อคุณพ่อคุณแม่เล่นคลานเป็นเพื่อน ถ้าอยากเล่นกับลูกวัยนี้ คุณพ่อคุณแม่ลองคลานและไล่จับตัวลูก ใช้น้ำเสียงตื่นเต้นเพื่อให้ลูกรู้สึกตื่นเต้นและคลานหนี ระหว่างนี้นอกจากลูกจะต้องหัวเราะเอิ๊กอ๊ากแล้ว การเล่นคลานหนีและไล่จับกัน จะช่วยให้ลูกพัฒนากล้ามเนื้อและออกกำลังกายได้
5. เตียงกระเด้ง

วางเจ้าตัวน้อยลงบนเตียงของคุณพ่อคุณแม่ ก่อนเขย่าเสียง หรือทุ่มน้ำหนักตัวของพ่อแม่ลงบนเตียง เพื่อให้ที่นอนขยับหรือกระเด้งขึ้นลง บอกเลยว่าลูกจะหัวเราะและรู้สึกสนุกสนานมากค่ะ
6. เล่นจ๊ะเอ๋

การเล่นจ๊ะเอ๋ หรือ peek a boo กับเด็กอายุต่ำกว่าสองขวบ นอกจากจะทำให้ลูกหัวเราะชอบใจแล้ว ยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการ ทำให้ลูกได้ฝึกการจดจำจากการสังเกตว่าคุณพ่อคุณแม่ชอบโผล่หน้าออกมาทางไหน ช่วยกระชับความสัมพันธ์ เพราะลูกจะรู้สึกตื่นเต้นและดีใจทุกครั้งที่เห็นหน้าคุณพ่อคุณแม่
นอกจากวิธีเล่นเหล่านี้ ยังมีอีกหลายวิธีที่จะทำให้ลูกน้อยของเราอารมณ์ดีและหัวเราะออกมาได้ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์หรือตัวช่วยให้ยุ่งยาก เพราะสิ่งสำคัญและง่ายที่สุดก็คือร่างกายและรอยยิ้มของคุณพ่อคุณแม่นี่แหละค่ะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST