ธรรมชาติของเด็กก็คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต้องเจอก็คือการเล่นซนสนุกสนาน สลับกับการร้องไห้งอแงเมื่อรู้สึกเจ็บป่วย ไม่สบาย และไม่ได้ดังใจ
แต่สิ่งที่พ่อแม่ทุกคนคุ้นเคย ไม่ได้หมายความว่าผู้ใหญ่ในสังคมทุกคนจะคุ้นเคยและเข้าใจเด็กๆ ได้ดี ดังนั้น สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่เห็นว่าเป็นธรรมชาติและความน่ารักของลูกน้อย ก็อาจจะกำลังสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับคนอื่น เหมือนประโยคที่คนทั่วไปชอบพูดกันว่าพ่อแม่ต้องไม่ลืมว่า #ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน
แต่เชื่อเถอะค่ะว่า ส่วนมากของผู้ใหญ่ที่รู้สึกเดือดร้อนรำคาญในพฤติกรรมซุกซนตามธรรมชาติของเด็ก ไม่ได้ต้องการที่จะปราบปรามหรือห้ามไม่ให้เด็กมีพัฒนาการตามธรรมชาติของตัวเอง เพียงแต่ต้องการให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยควบคุมหรือเตรียมความพร้อมที่จะรับมือกับพฤติกรรมของลูกที่อาจสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ การเตรียมความพร้อมให้ลูกมีทักษะและมารยาทที่ดีในการอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม เพราะสิ่งนี้จะช่วยให้ลูกของเราไม่มีพฤติกรรมที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญใจจนคนอื่นต้องเอาไปบอกว่า #ลูกคุณไม่ได้น่ารักสำหรับทุกคน อีกต่อไป
1. สอนให้ลูกไม่หยิบของของคนอื่นก่อนได้รับอนุญาต
เด็กเล็กและเด็กวัยอนุบาล เป็นช่วงวัยที่กำลังอยากรู้ อยากลอง อยากหยิบจับ และสัมผัสสิ่งรอบตัว จึงพร้อมที่จะหยิบฉวยสิ่งของที่ตัวเองสนใจเอาไว้ในมือเสมอ หากคุณพ่อคุณแม่คลาดสายตา อาจไม่ทันเห็นว่าลูกหยิบจับสิ่งของและทำให้ของของคนอื่นเสียหาย และยังมีโอกาสที่ลูกจะหยิบสิ่งของที่ทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเองได้อีกด้วย
คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนลูกว่าไม่ควรหยิบจับสิ่งของของคนอื่น รวมมถึงสิ่งของในพื้นที่สาธารณะ หรือถ้าลูกอยากลองหยิบจับของของคนอื่นก็ควรได้รับการอนุญาตก่อนเสมอ
2. สอนมารยาทพื้นฐานในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น
มารยาท ระเบียบวินัย และกฎกติกาเป็นเรื่องจำเป็นที่เด็กๆ ควรเรียนรู้ก่อนเข้าสังคม คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นที่ต้องสอนลูกให้เข้าใจตั้งแต่ยังเล็ก เช่น เวลาที่เด็กๆ เห็นพื้นที่โล่งกว้างอย่างห้างสรรพสินค้าหรือร้านอาหาร ลูกอาจรู้สึกอยากจะวิ่งเล่น หรืออยากลองลงไปนอนกลิ้งกับพื้นกว้างๆ
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือการสร้างข้อตกลงกันล่วงหน้าว่าอะไรที่ลูกทำได้และไม่ควรทำในสถานที่ต่างๆ เช่น บอกลูกว่า ‘เดี๋ยวเราจะเข้าไปในร้านอาหาร ลูกจะไม่วิ่งเล่นรบกวนคนอื่นใช่ไหมคะ’ และอาจเพิ่มการตกลงกันว่าถ้าลูกไม่ทำตามที่ตกลงกันไว้ บทลงโทษจะเป็นอย่างไร เช่น ถ้าลูกทำตัวไม่น่ารัก ก็จะไม่มีการซื้อขนมกลับบ้านนะคะ
3. สอนให้ลูกควบคุมอารมณ์ตนเอง
เวลาที่ลูกงอแงและมีพฤติกรรมไม่น่ารัก ก็พลอยทำให้คุณพ่อคุณแม่อารมณ์ไม่ดีตามไปด้วย แต่ถึงอย่างนั้น ก็ไม่ควรใช้อารมณ์ต่อว่าหรือลงโทษลูก โดยเฉพาะการใช้คำพูดรุนแรงกับลูกต่อหน้าคนอื่น เพราะจะทำให้ลูกรู้สึกอับอาย
สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือ ควบคุมอารมณ์ตัวเองพาลูกออกมาจากพื้นที่ และปล่อยให้ลูกได้สงบสติอารมณ์ของตัวเองด้วยการเพิกเฉย ไม่ตอบสนองต่อพฤติกรรมก้าวร้าวของลูก เพื่อให้ลูกใจเย็นลงด้วยตัวเอง และสะท้อนความรู้สึกของลูกเพื่อแสดงว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจ และบอกวิธีให้ลูกแสดงออกทางอารมณ์อย่างเหมาะสมในครั้งต่อไป
4. สอนให้ลูกรู้จักรักษาสิทธิของตนเอง
นอกจากการสอนให้เด็กๆ ไม่ทำให้ผู้อื่นเดือนร้อนแล้ว คุณพ่อคุณแม่ยังจำเป็นต้องสอนลูกให้รู้จักเคารพสิทธิของตัวเอง ไม่ให้ใครมาละเมิดสิทธิของตัวเองด้วย เช่น ไม่ให้ใครมาสัมผัสตัวลูก ถ้ามีคนทำอย่างนั้นให้รีบปฏิเสธหรือมาบอกคุณพ่อคุณแม่ทันที
— อ่านบทความ วิธีรับมือลูกร้องไห้ในที่สาธารณะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST