READING

ลูกดื้อ : หรือเป็นเพราะพ่อแม่ก็เอาแต่ใจเหมือนกัน?!...

ลูกดื้อ : หรือเป็นเพราะพ่อแม่ก็เอาแต่ใจเหมือนกัน?!

ลูกดื้อ

เมื่อรู้สึกว่าลูกดื้อ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะเริ่มนึกถึงคำว่า พฤติกรรมดื้อต่อต้าน หรือสงสัยว่าลูกจะเป็นโรคดื้อต่อต้านหรือเปล่า

โรคดื้อต่อต้าน หรือ ODD (Oppositional Defiant Disorder) หมายถึง โรคที่ทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น อารมณ์รุนแรง ความอดทนต่ำ ระเบิดอารมณ์ทันทีที่รู้สึกไม่พอใจ พูดจาหยาบคาย หรือตั้งใจก่อกวนและคุกคามคนอื่น (อ่านบทความ: 5 สาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นเด็กดื้อต่อต้าน) และทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่า ลูกดื้อ

แต่ความจริงแล้ว เหตุผลที่ทำให้ ลูกดื้อ อาจไม่ได้เกิดจากอาการของโรคดื้อต่อต้านเท่านั้น แต่เป็นเพราะพฤติกรรมการเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่ ที่อยากให้ลูกได้ดังใจตัวเอง จนกลายเป็นบังคับ กดดัน หรือเจ้ากี้เจ้าการชีวิตลูกมากเกินไป ทำให้ลูกมีอาการอิดออด ไม่เชื่อฟัง และกลายเป็นพฤติกรรมต่อต้าน หรือดื้อกับคุณพ่อคุณแม่นั่นเอง

ดังนั้น ก่อนที่จะเริ่มตัดสินว่าลูกเป็นเด็กดื้อและไม่เชื่อฟังพ่อแม่ เราอยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองกลับมาทบทวนพฤติกรรมและความต้องการของตัวเองว่ากำลังเลี้ยงลูกด้วยความเอาแต่ใจหรือเปล่า เพราะนั่นอาจทำให้ฉุกคิดได้ว่า ความจริงแล้ว ลูกดื้อ หรือว่าเราเป็นพ่อแม่ที่เอาแต่ใจกันแน่

1. พ่อแม่คาดหวังมากเกินไป

overbearingparents_web_1

ความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่จะช่วยให้ลูกมีความพยายาม ส่งเสริมพัฒนาการ และรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง แต่การตั้งความหวังกับลูกมากเกินไปอาจทำให้เกิดผลในทางตรงข้าม

ตอนหนึ่งในหนังสือ Parenting an Only Child: The Joys and Challenges of Raising Your One and Only โดยนักจิตวิทยา Susan Newman กล่าวถึง กระบวนการคิดและอันตรายที่มาจากความคาดหวังในตัวลูกมากเกินไป จะทำให้ลูกรู้สึกล้มเหลวหากไม่สามารถทำตามความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจต้องเปลี่ยนความคาดหวังว่าอยากให้ลูกเป็นอะไรหรือทำอะไร เป็นการสังเกตว่าลูกชอบหรือถนัดอะไรเป็นพิเศษ และคอยสนับสนุนลูกในด้านนั้น แทนการบังคับหรือกดดันให้ลูกทำตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าเป็นอย่างนี้ ลูกก็จะไม่ต้องดื้อหรือต่อต้านคุณพ่อคุณแม่เลยล่ะค่ะ

2. รู้จักอารมณ์เรา เข้าใจอารมณ์ลูก

overbearingparents_web_2

บางครั้งคุณพ่อคุณแม่อาจลืมที่จะให้ความสำคัญกับปัญหาหรือความรู้สึกของลูก เพราะปัญหาของเด็กอาจเป็นเรื่องเล็กในสายตาผู้ใหญ่ และมัวแต่ให้ความสำคัญกับความรู้สึกของตัวเอง จึงทำให้ลูกต้องพยายามแสดงอารมณ์และความต้องการตัวเองออกมามากขึ้น ทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าลูกดื้อและมีพฤติกรรมไม่น่ารักได้

3. หมั่นสำรวจตัวเองอยู่เสมอ

overbearingparents_web_3

ปัญหาลูกดื้อทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวลใจ เพราะกลัวว่าลูกจะเป็นเด็กไม่น่ารัก จึงพยายามสร้างกฎระเบียบ เพื่อให้ลูกปฏิบัติตามมากขึ้น แต่ความจริงแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อพฤติกรรมของลูกไม่ใช่การมีกฎระเบียบจำนวนมาก แต่คือการใช้กฎระเบียบให้เป็น เช่น การจริงจังกับกฎ ไม่ใจอ่อน แต่ไม่เข้มงวดกับลูกมากเกินไป และคุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมที่จะรับฟังความคิดเห็นหรือเหตุผลของลูกทุกครั้ง ก่อนจะตัดสินว่าลูกเป็นเด็กดื้อนะคะ

4. การสอนลูกที่ดีที่สุด คือการเป็นตัวอย่างที่ดี

overbearingparents_web_4

ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะพยายามมีเทคนิควิธีการสอนหรือตั้งกฎระเบียบมาใช้กับลูกมากแค่ไหน แต่เทคนิคเหล่านี้จะไม่ได้ผลเลย ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ได้ทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก เช่น สอนให้ลูกพูดขอโทษเมื่อทำผิด แต่เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทำผิดกลับไม่เคยขอโทษลูก ก็อาจทำให้ลูกไม่ได้เรียนรู้การสอนทั้งหมดทั้งมวลของคุณพ่อคุณแม่ได้เท่าที่ควร

อ้างอิง
Hello Motherhood
Halal Parenting
เพจตามใจนักจิตวิทยา

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST