READING

4 พฤติกรรมที่มาจากความหวังดีของคุณพ่อคุณแม่ แต่ไม่...

4 พฤติกรรมที่มาจากความหวังดีของคุณพ่อคุณแม่ แต่ไม่ใช่เรื่องดีสำหรับลูก

ทุกพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่มีต่อลูก ย่อมออกมาจากความรักและความหวังดีที่มีให้ลูกน้อย

แต่คุณพ่อคุณแม่เคยสังเกตไหมคะว่า พฤติกรรมหรือการกระทำบางอย่างของคุณพ่อคุณแม่ ถึงจะเต็มไปด้วยความหวังดี แต่หากไม่ระวังหรือทำซ้ำกับลูกมากเกินไป แทนที่จะเป็นผลดี กลับเป็นการขัดขวางพัฒนาการหรือทำให้การเติบโตของลูกเป็นไปอย่างไม่มีคุณภาพได้

1. ตอบคำถามแทนลูก

ShouldNeverDo_web_1

เวลามีคนรู้จักหรือญาติผู้ใหญ่เข้ามาพูดคุยและถามคำถามลูกของเราด้วยความเอ็นดู เช่น ชื่ออะไรคะ อายุเท่าไหร่ เรียนอยู่ชั้นอะไร โดยปกติแล้วลูกก็มักจะไม่ค่อยกล้าพูดจากับคนที่ไม่คุ้นเคย บางทีก็อายม้วน บางทีก็เขินจนต้องยืนหลบหลังคุณพ่อคุณแม่ แล้วก็กลายเป็นคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องแก้เก้อ คอยตอบคำถามและพูดคุยแทนลูกเสียเอง

แต่ถ้าลูกคุ้นชินกับการให้คุณพ่อคุณแม่เป็นคนตอบคำถามแทนทุกครั้ง ลูกก็จะไม่ได้เรียนรู้วิธีการเข้าสังคม ทำให้ลูกเป็นคนไม่มั่นใจในตัวเอง และนับถือตัวเองลดลง ดังนั้นสิ่งที่ควรทำก็คือปล่อยให้ลูกได้เผชิญหน้ากับคนที่ไม่คุ้นเคย และให้กำลังใจลูกในการตอบคำถามด้วยตัวเองบ้าง

2. พยายามเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของลูก

ShouldNeverDo_web_2

พ่อแม่หลายคน คาดหวังว่าตัวเองจะได้รับตำแหน่งเพื่อนที่ดีที่สุดของลูก เพราะคิดว่ามันหมายถึงการที่ลูกรู้สึกสนิทใจและพร้อมที่จะเล่าทุกเรื่องให้ฟังได้ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การพยายามทำตัวเป็นเพื่อนที่ใกล้ชิดและคลุกคลีกับลูกตลอดเวลามากเกินไป อาจทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกสั่นคลอน เพราะโดยธรรมชาติแล้ว แม่ควรจะเป็นคนสั่งสอน ปกป้อง ดูแล แนะนำเรื่องถูกผิด การวางตัวเป็นแม่ตามธรรมชาติที่ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่น ปลอดภัย และวางใจในแบบที่ควรจะเป็นนั่นคือสิ่งที่ดีที่สุดแล้วค่ะ

3. คอยให้ความช่วยเหลือลูกเสมอ

ShouldNeverDo_web_3

คุณพ่อคุณแม่อาจเห็นว่าลูกนั้นยังเด็กเกินไปที่จะต้องช่วยเหลือหรือทำอะไรด้วยตัวเอง แต่การที่คุณพ่อคุณแม่คอยยื่นมือเข้าไปช่วยลูกทำทุกอย่าง แม้จะเป็นเรื่องเล็กๆ น้อยๆ อย่างผูกเชือกรองเท้าหรือเก็บของเล่นเข้าที่ จะส่งผลให้ลูกกลายเป็นคนไม่มีความกระตือรือร้น ไม่รู้จักพึ่งพาตัวเอง และรอคอยความช่วยเหลือจากคนอื่นเสมอ

4. พยายามปลูกฝังรสนิยมของตัวเองให้กับลูก

ShouldNeverDo_web_4

เด็กทุกคนล้วนมีความชอบในสิ่งต่างๆ เป็นของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นแนวเพลง สีของเสื้อผ้า ลักษณะของเสื้อผ้า นิทานเล่มโปรด ทั้งหมดล้วนเป็นรสนิยมที่มาจากความชอบส่วนตัวที่เกิดขึ้นโดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องพยายามสอน

สิ่งสำคัญที่สุดก็คือคุณพ่อคุณแม่ต้องเปิดใจให้กว้าง ไม่ห้าม บั่นทอน หรือพยายามเปลี่ยนความชอบของลูก เพราะการที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ให้ค่ากับรสนิยมของลูก แต่พยายามปลูกฝังให้ลูกมีรสนิยมในแบบที่ตัวเองต้องการ จะทำให้ลูกรู้สึกอึดอัดและเป็นคนไม่มีความมั่นใจได้

อ้างอิง
amenclinics
famisafe
edsys

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST