ถึงแม้ว่าความสมบูรณ์แบบจะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนต้องการ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราทุกคนควรเตรียมใจยอมรับความผิดพลาด บกพร่อง และไม่สมบูรณ์แบบที่มีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ

การยึดติดกับความสมบูรณ์แบบ หรือที่หลายคนเรียกว่านิสัย perfectionist จะทำให้เรากลายเป็นคนที่มีระเบียบวินัยมากเกินไป จนกลายเป็นคนเข้มงวด ไม่ยืดหยุ่น ไม่สามารถปรับตัว และไม่สามารถยอมรับความผิดพลาดได้

เว็บไซต์ Medical News Today ได้กล่าวถึงผลงานศึกษาวิจัยของ Thomas Curran และคณะ จาก University of Bath ประเทศอังกฤษ ระบุว่าสิ่งที่ตามมาจากการเป็นคนยึดติดความสมบูรณ์แบบ ก็คือปัญหาด้านสุขภาพจิต ทั้งความกังวล ความกดดัน ความเครียด ที่ส่งผลให้ perfectionist ทั้งหลายมีโอกาสเกิดภาวะซึมเศร้า ทำร้ายตัวเอง หรือรุนแรงถึงขั้นฆ่าตัวตายได้มากกว่าคนทั่วไป

จากการเก็บข้อมูลจากนักศึกษามหาวิทยาลัยหลากหลายทางเชื้อชาติ ทั้งประเทศสหรัฐอเมริกา อังกฤษ แคนาดา มากกว่าสี่หมื่นคน ตั้งแต่ปี 1989 จนถึงปี 2016 พบว่า วัยรุ่นคือช่วงวัยที่มีอัตราการเป็น perfectionism มากถึง 33% จึงอาจเป็นไปได้ว่านิสัยยึดติดความสมบูรณ์แบบ ส่วนหนึ่งอาจถูกปลูกฝังมาจากการเลี้ยงดูในวัยเด็ก โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ตัว

ดังนั้นเรามาลองหาทางรับมือและป้องกันไม่ให้ลูกน้อยกลายเป็นเด็กที่ยึดติดความสมบูรณ์แบบมากเกินไป จนกลายเป็นนิสัยที่สร้างปัญหาต่อไปในอนาคตกันดีกว่าค่ะ

1. ปรับทัศนคติของตัวเองก่อน

ก่อนอื่น คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากการทำความเข้าใจและยอมรับในตัวลูก ไม่คาดหวังหรือกดดันให้ลูกเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบมากเกินไป ไม่ยัดเยียดให้ลูกทำตามความต้องการของคุณพ่อคุณแม่  แต่ควรส่งเสริมให้ลูกได้เรียนรู้รอบด้าน ได้ค้นหาความชอบ ความถนัด และศักยภาพของตัวเอง ถ้าคุณพ่อคุณแม่ไม่ปลูกฝังความสมบูรณ์แบบให้ลูก ลูกก็จะเป็นเด็กที่ผ่อนคลาย ไม่กดดัน และมีความสุขในแบบของตัวเองได้ง่ายขึ้น

2. ส่งเสริมลูกให้ถูกทาง

คุณพ่อคุณแม่ควรประเมินความสามารถของลูกตามความเป็นจริง ไม่เอาความคาดหวังของตัวเองเป็นที่ตั้ง เช่น หากลูกไม่ชอบเรียนหนังสือ ก็ไม่จำเป็นต้องกดดันด้วยการส่งลูกไปเรียนพิเศษ เพื่อที่จะได้เรียนเก่งเหมือนคนอื่น ลองเปลี่ยนเป็นส่งเสริมให้ลูกเรียนหนังสืออย่างมีความสุข ไม่บังคับหรือกดดัน และอาจช่วยหากิจกรรมอื่นที่ลูกอาจทำได้ดี เพื่อสร้างความมั่นใจให้ลูกในด้านอื่นทดแทน

3. ทำให้ลูกเข้าใจความไม่สมบูรณ์แบบ

หลังจากพ่อแม่ปรับในส่วนของตัวเองแล้ว ก็มาถึงการปรับเปลี่ยนความคิดของลูกกันบ้าง ด้วยการแสดงให้ลูกเห็นว่าแม้แต่พ่อแม่ก็ไม่ใช่คนที่สมบูรณ์แบบ และความไม่สมบูรณ์แบบเป็นธรรมชาติของชีวิต เพื่อให้ลูกรู้จักยอมรับความผิดพลาดของตัวเองและคนอื่น

4. ฝึกให้ลูกรู้จักการแพ้และชนะบ้าง

พ่อแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักทั้งการเป็น ‘ผู้ชนะ’ และ ‘ผู้แพ้’ อาจเริ่มจากการส่งเสริมให้ลูกฝึกเล่นกีฬา เล่นเกม และรู้จักการแข่งขันเล็กๆ น้อยๆ ให้ลูกเรียนรู้ความรู้สึกของการชนะและพ่ายแพ้ เมื่อชนะก็ต้องชื่นชมผู้แพ้ ลูกจะได้เข้าใจและไม่ยึดติดกับการเป็นผู้ชนะเท่านั้น และเมื่อแพ้ก็ควรยินดีกับผู้ชนะ และมีทัศนคติที่ดีต่อการมีความพยายามในครั้งต่อไป

5. สอนลูกเรื่องการตั้งเป้าหมาย

นอกจากการสอนเรื่องแพ้ชนะ คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักการมีเป้าหมาย โดยไม่ทิ้งรายละเอียดของขั้นตอนระหว่างทางที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น เช่น ต้องมีความพยายาม ความอดทน เรียนรู้จากข้อผิดพลาด และเข้าใจว่าแม้สุดท้ายลูกอาจทำไม่ได้ตามเป้าหมายที่ต้องการ แต่สิ่งที่ลูกเรียนรู้ระหว่างทางก็เป็นเรื่องที่น่าภูมิใจได้เช่นกัน

อ้างอิง
verywellfamily
dmh