READING

อยากมีลูกแล้วทำไงดี!: 6 ขั้นตอน เตรียมความพร้อมก่อ...

อยากมีลูกแล้วทำไงดี!: 6 ขั้นตอน เตรียมความพร้อมก่อนมีเบบี๋

การจะมีเบบี๋สักคนคงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ เพราะนอกจากความพร้อมด้านปัจจัยต่างๆ แล้ว คู่แต่งงานที่อยากมีลูกจะต้องเตรียมความพร้อมทางด้านร่างกายของว่าที่คุณพ่อคุณแม่ซึ่งถือเป็นความพร้อมขั้นพื้นฐานที่สำคัญและเป็นตัวกำหนดโอกาสในการตั้งครรภ์ ไปจนถึงความแข็งแรง และความสมบูรณ์ของร่างกายลูกที่กำลังจะเกิดขึ้นอีกด้วย

ดังนั้นการเตรียมตัวด้านสุขภาพของพ่อแม่จึงสำคัญมาก M.O.M จึงรวบรวม 6 ขั้นตอน เตรียมความพร้อมก่อนมีเบบี๋มาฝากคนที่กำลังเตรียมตัวจะเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่กันค่ะ

1. พบแพทย์เพื่อพูดคุยปรึกษา

Preparepregnant_web_1

เมื่อวางแผนหรือมีความตั้งใจที่จะมีลูกแล้ว การพบแพทย์เพื่อปรึกษาและตรวจสุขภาพว่าทั้งคู่มีความพร้อมหรือไม่เป็นสิ่งที่ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเป็นอย่างแรก

ในเบื้องต้นแพทย์จะซักประวัติสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการใช้ยา ประวัติการคุมกำเนิด รวมไปถึงการตรวจร่างกายทั้งคู่ เช่น ตรวจเลือดเพื่อหาภาวะธาลัสซีเมีย โรคต่อมไทรอยด์เป็นพิษ หรือตรวจโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ เนื่องจากโรคดังกล่าว มีความเสี่ยงที่จะถ่ายทอดไปสู่ลูกได้ ดังนั้นการตรวจและปรึกษาแพทย์ตั้งแต่เนิ่นๆ จะช่วยให้คุณทราบความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นกับลูก เพื่อให้ทางป้องกันและรับมือได้

ดังนั้นเพื่อให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างปลอดภัยและมีคุณภาพ สุขภาพร่างกายความพร้อมของคุณพ่อคุณแม่จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก

2. เรียนรู้วันตกไข่

Preparepregnant_web_2

การคำนวณเพื่อหาวันตกไข่ของผู้หญิง มีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ให้มากขึ้น ซึ่งร่างกายผู้หญิงนั้นจะมีการตกไข่นั้นจะมีเพียงเดือนละ 1 ครั้ง หากถึงวันแล้วไข่ไม่ได้รับการผสมจากเชื้ออสุจิ ก็จะกลายเป็นประจำเดือนในเวลาต่อมา

โดยวิธีการดูวันไหนเป็นวันตกไข่มีหลายวิธี ได้แก่ การนับวัน เราสามารถนับวันที่ตกไข่ได้ จากการบันทึกรอบประจำเดือนอย่างน้อยสองเดือนว่าประจำเดือนเริ่มมาในวันที่เท่าไร หลังจากนั้นให้นำระยะห่างระหว่างรอบประจำเดือนทั้งสอง มาลบด้วย 14 เช่น ถ้าระยะห่างระหว่างสองเดือนที่ผ่านมาคือ 28 วัน นำ 28-14 จะได้เป็น 14 ดังนั้นจะตกไข่ในวันที่ 14 ของเดือนถัดไป

หรือดูจากลักษณะมูกในปากมดลูก ด้วยการสังเกตช่วงที่มีมูกปริมาณเยอะและใส เมื่อจับแล้วหนืดเป็นเส้นยาวอาจเป็นไปได้ว่าอาจอยู่ในช่วงวันตกไข่ และสามารถตั้งครรภ์ได้ในช่วงเวลานี้

3. กินอาหารบำรุงก่อนตั้งครรภ์

Preparepregnant_web_3

เรื่องการกินอาหารถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่น้อยไปกว่าการเตรียมความพร้อมด้านอื่นๆ โดยคุณแม่ควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเน้นอาหารอย่างประเภทโปรตีน ธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และไอโอดีน เพราะเป็นสารอาหารที่ร่างกายคุณแม่ในช่วงตั้งครรภ์ต้องการเป็นอย่างมาก เช่น หากแม่ได้รับโปรตีนไม่เพียงพออาจทำให้ลูกในท้องไม่แข็งแรง ส่วนธาตุเหล็กก็ช่วยเสริมสร้างเม็ดเลือดแดงของแม่ ไอโอดีนช่วยการทำงานของต่อมไทรอยด์ให้สมดุล ป้องกันการพัฒนาการด้านสมองของเด็กผิดปกติ และโดยเฉพาะอย่างกรดโฟลิก สารอาหารสำคัญในการสร้างเซลล์สมองและเซลล์เม็ดเลือดแดงของเด็ก ที่แพทย์อาจแนะนำให้คุณแม่เริ่มกินตั้งแต่ก่อนการตั้งครรภ์ หากคุณแม่ได้รับกรดโฟลิกน้อยเกินไปขณะตั้งครรภ์ช่วง 1-2 เดือน อาจทำให้เด็กมีพัฒนาการที่ไม่ดี ไปจนถึงเกิดการแท้งเด็กเสียชีวิตในครรภ์ได้

4. ออกกำลังกายแบบพอดีๆ

Preparepregnant_web_4

ออกกำลังกายเพื่อให้สุขภาพแข็งแรงนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกายอยู่แล้วเป็นทุนเดิม โดยการออกกำลังกายควรเป็นไปอย่างพอดี ไม่หนักจนเกินไป เช่น วิ่ง เต้นแอโรบิก ปั่นจักรยาน โดยเฉพาะการเล่นโยคะเพราะนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังเป็นการช่วยฝึกกำหนดลมหายใจเข้าออก ทำให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย ลดความตึงเครียดลงได้อีกด้วย

5. ควบคุมน้ำหนัก

Preparepregnant_web_5

หลายคนอาจจะสงสัยการควบคุมน้ำหนักมันเกี่ยวอะไรกับการเตรียมความพร้อมมีเจ้าตัวน้อย บอกเลยว่าเกี่ยวสุดๆ  หากน้ำหนักของผู้เป็นแม่มากเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะเสี่ยงของโรคต่างๆ ได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันสูง ฯลฯ ซึ่งแน่นอนว่าความเสี่ยงเหล่านั้นจะถูกส่งต่อมาสู่ลูก ในขณะเดียวกันหากน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ ร่างกายอาจขาดสารอาหาร ทำให้สิ่งที่มีประโยชน์ส่งไปสู่ลูกได้ไม่ดีมากนัก

ไม่ว่าจะน้ำหนักมากเกิน หรือน้อยเกิน ก็ล้วนส่งผลทำให้อัตราการตั้งครรภ์มีโอกาสน้อยลงทั้งนั้น เนื่องจากร่างกายเกิดความไม่สมดุล จึงทำให้เจ้าเบบี๋ไม่ยอมมาได้

6. ทำจิตใจให้สบาย ไม่เครียดจนเกินไป

Preparepregnant_web_6

สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมด้วยความผ่อนคลายไม่ใช่ความเครียด หากการเตรียมตัวเพื่อเป็นคุณพ่อคุณแม่เต็มไปด้วยความเครียดมากเกินไป ก็อาจส่งผลให้ร่างกายแสดงอาการไม่พร้อมออกมาได้ เช่น ประจำเดือนมาไม่ปกติ ป่วยง่ายขึ้น เพราะสุขภาพของจิตใจนั้นสำคัญไม่แพ้ไปกว่าสุขภาพกายค่ะ

 

 

 

อ้างอิง
medthai
babykapook
sanook
theasianparent
phyathai

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

COMMENTS ARE OFF THIS POST