คุณพ่อคุณแม่น่าจะเคยสังเกตเห็นหลายครั้งที่ลูกทำกิจกรรมบางอย่าง แล้วเปลี่ยนไปทำอีกอย่าง ทั้งที่ยังจัดการสิ่งที่ทำอยู่ไม่เรียบร้อย ไม่มีสมาธิทำอะไรให้สำเร็จลุล่วง และไม่สามารถจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆ ในชีวิตได้ ไม่รู้ว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลัง จนคุณพ่อคุณแม่ต้องคอยควบคุม และ สอนลูกจัดลำดับความสำคัญ ของสิ่งที่ต้องทำอยู่เสมอ
Lynn Meltzer ผู้เชี่ยวชาญและผู้อำนวยการสถาบันการเรียนรู้และพัฒนา กล่าวว่า หากพ่อแม่สอนให้ลูกรู้จักการบริหารจัดการเวลาตั้งแต่ยังเล็ก จะช่วยให้ลูกเข้าใจภาระหน้าที่ของตัวเองมากขึ้น ทำให้ลูกจัดระเบียบและกำหนดเป้าหมายของตัวเองได้ ซึ่งจะส่งผลให้ลูกมีแนวโน้มประสบผลสำเร็จในชีวิตต่อไป
แต่การจะบริหารจัดการเวลาที่มีจำกัดได้นั้น ลูกจำเป็นที่จะต้องมีทักษะการจัดลำดับความสำคัญของสิ่งที่ต้องทำเป็นพื้นฐาน เราจึงรวบรวม 4 เคล็ด (ไม่) ลับ ช่วยคุณพ่อคุณแม่ฝึกทักษะบริหารจัดการเวลาให้ลูกได้ด้วยการฝึกและ สอนลูกจัดลำดับความสำคัญ ให้เป็นตั้งแต่ยังเล็ก
1. ลิสต์กิจกรรมที่ ‘ต้องทำ’ ทุกวัน
เป็นเรื่องยากที่ลูกจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าแต่ละวัน มีอะไรที่เด็กคนหนึ่งควรทำหรือจำเป็นที่ต้องทำ ดังนั้นการที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยจัดการลิสต์รายการสิ่งที่ลูกต้องทำในแต่ละวันให้ ก็จะช่วยให้ลูกได้เตรียมการ และเตือนให้ลูกไม่หลงลืมหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นรายการของการบ้านที่ต้องส่ง กิจกรรมที่ต้องเตรียมของไปทำที่โรงเรียน หรือแม้แต่งานบ้านที่คุณพ่อคุณแม่มอบหมายให้
โดยแต่ละวัน คุณพ่อคุณแม่ลองให้ลูกช่วยอัปเดตสิ่งที่ต้องทำและได้รับมอบหมายมาจากโรงเรียน มีอะไรที่ลูกทำสำเร็จและยังไม่สำเร็จ และสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องการเพิ่มเติม เพื่อให้ลูกสามารถเห็นภาพรวมของรายการสิ่งที่ตัวเองต้องรับผิดชอบในแต่ละวัน รวมถึงวันต่อไปด้วย
2. กิจวัตรประจำวันก็จัดลำดับได้
เมื่อรวบรวมสิ่งที่ลูกต้องทำในแต่ละวันแล้ว ลองหัดให้ลูกเรียงลำดับความสำคัญว่าอะไรควรทำก่อนหรือหลัง เช่น เริ่มวันด้วยการอาบน้ำ แปรงฟัน ก่อนกินอาหารเช้า และเมื่อถึงเวลา หากลูกตื่นเช้ามาแล้วทำตัวโอ้เอ้ ไม่ยอมอาบน้ำ แปรงฟัน แต่นั่งเล่นเพื่อรอเวลาอาหารเช้า คุณพ่อคุณแม่ต้องใจแข็ง ไม่ปล่อยให้ลูกยกเลิกหรือข้ามกิจวัตรที่ต้องทำได้ตามอำเภอใจ แต่ควรช่วยย้ำให้ลูกทำกิจกรรมตามลำดับความสำคัญที่ตั้งใจไว้แต่แรก
3. พาลูกสร้างปฏิทินกิจกรรมล่วงหน้า
คุณพ่อคุณแม่ควรมีปฏิทินประจำตัวให้ลูกใช้บันทึกกิจกรรมที่ต้องทำล่วงหน้า โดยสอนให้ลูกเป็นคนเขียนและระบุรายละเอียดเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องทำ ผู้คนและสถานที่ เช่น คุณพ่อคุณแม่สัญญาว่าวันเสาร์จะพาออกไปซื้อของ ส่วนวันอาทิตย์จะพาสุนัขออกไปเดินเล่น ส่วนวันจันทร์มีการบ้านที่ต้องส่งคุณครู ลองให้ลูกเอารายละเอียดของกิจกรรมทั้งหมดที่รู้ล่วงหน้าไปจดลงปฏิทินเพื่อให้ลูกเรียนรู้ที่จะเตรียมตัวสำหรับกิจกรรมที่มีการนัดหมาย เช่น เมื่อลูกรู้ว่าวันจันทร์ต้องส่งการบ้าน แต่วันเสาร์และอาทิตย์มีกิจกรรมที่ต้องออกนอกบ้าน ดังนั้น ลูกจำเป็นต้องจัดการและหาเวลาทำการบ้านของตัวเองให้เรียบร้อยตั้งแต่เนิ่นๆ
4. ลูกจำเป็นต้องมีเวลาว่าง
วัยเด็กคือวัยแห่งการเล่นสนุก หากในแต่ละวันมีแต่กิจกรรมที่ ‘ต้องทำ’ มากเกินไปจนไม่มีเวลาว่าง สำหรับผ่อนคลายก็อาจทำให้ลูกรู้สึกเบื่อและมีแต่ละวันที่ไม่สนุกสมวัยได้
ดังนั้นนอกจากการช่วยรวบรวมสิ่งที่ต้องทำให้ลูกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรเพิ่มช่วงเวลาว่าง หรือเวลาแห่งการเล่นสนุกลงในบันทึกประจำวันของลูก เพื่อให้ลูกรู้ว่าหลังจากที่ลูกทำกิจวัตรที่สำคัญได้ตามที่ตั้งใจแล้ว เวลาแห่งความสนุกของลูกก็กำลังจะมาถึง เพื่อสอนให้ลูกรู้จักการจัดสรรเวลา เวลาไหนควรทำอะไรให้ลุล่วง เพื่อที่จะได้มีเวลาพักผ่อนได้อย่างที่ตั้งใจ และยังทำให้ลูกไม่รู้สึกเครียดหรือวิตกกังวลว่ามีสิ่งที่ต้องรับผิดชอบมากเกินไปอีกด้วย
COMMENTS ARE OFF THIS POST