ประเทศไทยโบกมือลาแดดจ้าและหน้าร้อน เพื่อเข้าสู่ฤดูฝนอย่างเต็มตัว แม้เวลาที่ฝนตกจะช่วยให้อากาศเย็นสบายมากขึ้น แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ชอบการซักผ้าและตากผ้ากลางแจ้ง คงมีนึกเสียดายแสงแดดที่ทำให้ผ้าแห้งไวและหอมกลิ่นแดดกันบ้าง
เพราะฤดูฝน นอกจากสายฝนที่โปรยปรายแทบจะตลอดเวลาแล้ว อากาศยังชื้น ฟ้ายังอึมครึม การซักผ้าและ ตากผ้าหน้าฝน จึงต้องย้ายมาทำในห้องหรือพื้นที่ร่ม ที่อากาศถ่ายเทไม่ดีพอ ส่งผลให้ผ้าแห้งช้าและเกิดกลิ่นอับได้ง่าย
ที่ประเทศญี่ปุ่นเองก็มีมีช่วงเวลาที่ฝนตกติดต่อกันหลายวัน ทำให้การ ตากผ้าหน้าฝน กลายเป็นปัญหาหนักใจแม่บ้านญี่ปุ่นเช่นกัน เราจึงลองศึกษาและรวบรวมเทคนิคการตากผ้าหน้าฝนของบรรดาแม่บ้านญี่ปุ่น ว่ามีวิธีจัดการกับการตากผ้าในช่วงเวลาที่ฝนตกติดต่อกันอย่างไรให้ผ้าแห้งไวและไม่เหม็นอับอีกด้วย
1. ตากผ้ากลับด้าน
ตะเข็บของเสื้อผ้าคือส่วนที่มักจะแห้งยากและแห้งช้ากว่าตำแหน่งอื่นๆ ดังนั้น การกลับผ้าเอาด้านในออกมาตาก จะช่วยทำให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยถนอมสีผ้า ช่วยให้รอยยับบนผ้าลดลง รวมถึงช่วยรักษารูปทรงของเสื้อผ้าได้
2. เว้นระยะห่าง 5 เซนติเมตร
การตากผ้าด้วยไม้แขวนเสื้อบนราวตากผ้า ควรเว้นระยะห่างระหว่างผ้าแต่ละชิ้นอย่างน้อย 5 เซนติเมตร ไม่ควรตากผ้าให้ชิดติดกันเกินไป เพราะจะทำให้อากาศไม่ถ่ายเท ผ้าก็จะแห้งช้า และอาจจะทำให้เกิดกลิ่นอับได้
3. ตากผ้าในแนวโค้ง
หากคุณพ่อคุณแม่ใช้ที่หนีบผ้า ควรวางตำแหน่งผ้าที่ยาวอยู่ริมสุด และให้ผ้าที่สั้นสุดอยู่ตรงกลางเหมือนลักษณะรูปโค้ง วิธีนี้จะทำให้อากาศถ่ายเทอย่างทั่วถึง ช่วยให้ผ้าแห้งไวและลดกลิ่นอับได้อีกด้วย
4. ตากผ้าบริเวณกลางห้อง
การตากผ้าชิดกำแพงมากเกินไปจะทำให้อากาศถ่ายเทไม่ทั่วถึง ดังนั้น ตำแหน่งที่เหมาะกับการตากผ้าที่สุดก็คือบริเวณกลางห้อง และควรตากผ้าให้สูงจากพื้นเล็กน้อย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้รอบด้านมากขึ้น ผ้าก็จะแห้งไวมากขึ้น
และไม่ควรตากผ้าในห้องนอน หรือห้องที่มีหมอน ผ้าห่ม หรือพรม เพราะจะทำให้ห้องมีความชื้นมากขึ้น นอกจากจะทำให้ผ้าแห้งช้าแล้ว ยังทำให้เกิดเชื้อราในห้องได้
5. ปูกระดาษหนังสือพิมพ์ใต้ราวตากผ้า
เทคนิคที่แม่บ้านชาวญี่ปุ่นนิยมทำกันมากก็คือนำกระดาษหนังสือพิมพ์มาวางที่บริเวณใต้ราวตากผ้า เพราะกระดาษหนังสือพิมพ์จะช่วยดูดซับความชื้น ทำให้ผ้าแห้งได้ไวขึ้นค่ะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST