หนึ่งในเป้าหมายการเลี้ยงลูกของคุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็คือการทำให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต หลายครั้งคุณพ่อคุณแม่จึงให้ความสำคัญกับผลลัพธ์และเป้าหมายที่ตัวเองคาดหวัง เพราะหากลูกประสบความสำเร็จในแต่ละขั้นตอนของชีวิต ย่อมเท่ากับคุณพ่อคุณแม่ประสบความสำเร็จในการเลี้ยงลูกไปด้วย

แต่การเลี้ยงลูกที่ดี คุณพ่อคุณแม่ควรนึกถึงความสุขทั้งของลูกและของตัวเองไม่น้อยไปกว่าความต้องการให้ลูกประสบความสำเร็จ เพราะคนที่มีความสุข ย่อมมีแรงกายแรงใจที่จะใช้ชีวิตและผลักดันให้ตัวเองทำในสิ่งที่รักจนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด

M.O.M จึงเล็งเห็นความสำคัญของการเลี้ยงลูกให้มีความสุข เพื่อให้ลูกเป็นเด็กที่เติบโตตามธรรมชาติ เรียบง่าย และมีความสุขในการใช้ชีวิตของตัวเองต่อไป ด้วย 4 เทคนิคดีๆ ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมาปรับใช้ได้ไม่ยากเลยค่ะสามารถดำรงชีวิตบนโลกนี้ด้วยความสุขความสดใสอย่างแน่นอน

1. ปรับสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกให้เรียบง่าย

ทำสิ่งแวดล้อมรอบตัวลูกให้เรียบง่าย หมายถึงบ้าน ห้อง หรือพื้นที่ส่วนตัวของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรจัดการให้เป็นระเบียบเรียบร้อย สะอาด เก็บของให้เป็นที่เป็นทาง ไม่จำเป็นต้องมีของเล่นหรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกมากเกินไป เพราะจะทำให้ลูกไม่รู้จักเล่นอย่างจดจ่อ อยากเล่นและทำหลายอย่างพร้อมกัน ส่งผลต่อสมาธิและความสามารถในการโฟกัสสิ่งต่างๆ ของลูกได้

2. จัดสรรเวลา ให้ลูกมีเวลาว่างสม่ำเสมอ

คุณพ่อคุณแม่หลายคนมักมองว่าการปล่อยให้ลูกมีเวลาว่าง เป็นเรื่องเสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ กลัวว่าการอยู่เฉยๆ จะทำให้ลูกเสียโอกาสในการเรียนรู้ จึงพยายามยัดเยียดทั้งกิจกรรและการเรียนพิเศษต่างๆ ให้กับลูก

แต่ความเป็นจริงแล้ว การปล่อยให้ลูกมีเวลาว่าง หรือเวลาส่วนตัวของตัวเองอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นช่วงเวลาที่ลูกเรียนรู้ที่จะเปิดประตูบานใหม่เพื่อค้นหาสิ่งที่น่าสนใจและอยากทำได้ด้วยตัวเอง เช่น เวลาที่ลูกไม่มีอะไรทำ เขามักจะหยิบกระดาษและสีขึ้นมาสร้างผลงานศิลปะเละเทะของตัวเองเสมอ เมื่อคุณพ่อคุณแม่สังเกตเห็น ก็เป็นโอกาสที่ดีที่จะหาทางส่งเสริมให้ลูกได้ทำในสิ่งที่ชอบต่อไป (แต่ก็อย่าลืมเหลือเวลาให้ลูกได้ว่างได้พักผ่อนเหมือนเดิมนะคะ)

3. ลดหรือเลี่ยงการใช้เวลากับหน้าจอทุกชนิดเท่าที่จะทำได้

ต้องยอมรับว่า ปัจจุบันหน้าจอของอุปกรณ์เทคโนโลยีต่างๆ นั้นมีความจำเป็นสำหรับทุกครอบครัว และเมื่อไหร่ที่เราเริ่มใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเวลาของครอบครัวก็เหมือนถูกแยกออกจากกัน ต่างคนต่างมีธุระของตัวเองในหน้าจอนั้น ทำให้การใช้เวลาคุณภาพด้วยกันลดลง เกิดเป็นความห่างเหิน และทำให้ลูกรู้สึกอ้างว้างได้

ดังนั้น ช่วงเวลาที่อยู่กับลูก คุณพ่อคุณแม่ควรลดหรือเลี่ยงการใช้หน้าจอทุกชนิด เพราะยิ่งคุณพ่อคุณแม่มีเวลาคุณภาพให้ลูกมากเท่าไร ก็จะส่งผลดีต่อพัฒนาการและจิตใจของลูกมากขึ้น

4. พาลูกไปเข้าหาธรรมชาติ

การเข้าหาและใกล้ชิดธรรมชาติ เป็นหนึ่งในวิธีที่จะทำให้ลูกได้เรียนรู้อย่างเรียบง่ายและได้ผลดีกว่าการนั่งเรียนอยู่กับที่เสียอีก  เพราะไม่ว่าจะเป็นเสียงและความเย็นของน้ำตก เสียงคลื่นและความเค็มของน้ำทะเล กลิ่นไอของดิน สัมผัสของเม็ดทราย ความร้อนจากแดด และการมองตามนกที่บินอยู่บนท้องฟ้า สิ่งเหล่านี้สามารถกระตุ้นประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของลูกได้ครบถ้วน ถือเป็นการเรียนรู้ที่สนุกและใช้ประโยชน์จากธรรมชาติได้อย่างเต็มที่

เห็นไหมล่ะคะว่า การสร้างความสุขให้ลูก สามารถทำได้ตลอดเวลา และทำจากสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันก็ยังได้ เพียงคุณพ่อคุณแม่ใช้ความใส่ใจและให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก ก็ทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีความสุขเป็นพื้นฐานก่อนที่จะเรียนรู้และทำความรู้จักกับความสำเร็จในชีวิตต่อไป

อ้างอิง
verywellfamily
wikihow
babycenter