READING

ไข้อีดำอีแดง (Scarlet fever) : โรคติดต่ออันตรายที่...

ไข้อีดำอีแดง (Scarlet fever) : โรคติดต่ออันตรายที่พ่อแม่ต้องรู้

ไข้อีดำอีแดง

หนึ่งในความกังวลใจของคุณพ่อคุณแม่ คือการดูแลสุขภาพ เฝ้าระวัง และป้องกันลูกจากอันตรายทั้งจากอุบัติเหตุและความเจ็บไข้ได้ป่วย โดยเฉพาะความเจ็บป่วยจากโรคติดต่อเวลาที่ลูกไปโรงเรียน เพราะเด็กๆ ต้องใกล้ชิดกัน ทำให้การติดเชื้อโรคสามารถแพร่กระจายได้ง่าย

สถานการณ์โรคติดต่อในเด็กล่าสุด นายแพทย์ภาญมาศ ญาณเวทย์สกุล อธิบดีกรมควมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยข้อมูลของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรคว่า ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม จนถึง 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568 พบผู้ป่วยด้วยโรค ไข้อีดำอีแดง หรือโรคไข้ดำแดง จำนวน 455 ราย ซึ่งค่ามัธยฐาน (ค่ากลาง) ของผู้ป่วยด้วยโรคนี้ 5 ปีย้อนหลัง อยู่ที่จำนวน 605 รายต่อปี จึงถือว่ามีผู้ป่วยมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยส่วนมากเกิดขึ้นกับเด็กอายุ 5-15 ปี

การระบาดของ ไข้อีดำอีแดง ทำให้ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา บางโรงเรียนต้องประกาศหยุดเรียน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาด

ทำความรู้จัก ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever)

ไข้อีดำอีแดง (Scarlet Fever) เป็นโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยมีสาเหตุมาจากแบคทีเรีย สเตรปโตคอคคัส กลุ่มเอ (Group A Streptococcus) เป็นเชื้อที่สามารถสร้างสารพิษ (Toxin) ที่เป็นตัวการทำให้เกิดผื่นแดงสากทั่วร่างกาย ลักษณะเด่นของโรคนี้คือมีผื่นและอาการคออักเสบร่วมกัน ซึ่งแตกต่างจากไข้หวัดทั่วไป

ในอดีต ไข้อีดำอีแดงเคยเป็นโรคที่น่ากลัว เพราะทำให้ผู้ป่วยมีอัตราการเสียชีวิตสูง แต่ปัจจุบันโรคนี้สามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ แต่หากป่วยด้วยโรคนี้แล้วปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รักษา หรือรักษาไม่ครบถ้วน อาจทำให้เกิดผลกระทบระยะยาวต่อหัวใจ ไต และระบบภูมิคุ้มกันของเด็กได้

การติดต่อ

• ละอองฝอยจากการไอหรือจามของผู้ป่วย

• การสัมผัสน้ำลาย น้ำมูก หรือของใช้ส่วนตัว เช่น แก้วน้ำ ช้อนส้อม แปรงสีฟัน

• การสัมผัสพื้นผิวที่มีเชื้อ แล้วนำมือมาสัมผัสปาก จมูก หรือดวงตา

อาการของไข้อีดำอีแดง

หลังจากได้รับเชื้อ 1-4 วัน อาการที่ควรสังเกต ก็คือ

 

อาการระยะแรก

• ไข้สูงและหนาวสั่น

• เจ็บคอมาก บางครั้งมีหนองที่ต่อมทอนซิล

• คลื่นไส้ อาเจียน และปวดท้อง (บางกรณีอาจทำให้เข้าใจผิดว่าเป็นโรคกระเพาะอาหารอักเสบ)

• ปวดหัว เพลีย เมื่อยล้า

 

อาการที่เกิดขึ้นภายหลัง (1-2 วันหลังเริ่มป่วย)

• มีผื่นแดงขึ้น เริ่มจากหน้าอก ลำคอ และค่อยๆ ลามไปทั่วตัว

• ลิ้นมีตุ่มสีแดงคล้ายสตรอว์เบอร์รี มักเกิดหลังมีไข้และคออักเสบ

• ผิวหนังลอก

 

ลักษณะเฉพาะของไข้อีดำอีแดง

• แก้มแดงแต่รอบปากซีด (circumoral pallor)

ภาวะแทรกซ้อนของไข้อีดำอีแดง

ภาวะแทรกซ้อนระยะสั้น

• หูชั้นกลางอักเสบ ทำให้มีอาการปวดหู หูอื้อ และอาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยินชั่วคราว

• ไซนัสอักเสบ มีน้ำมูกข้นสีเขียวหรือเหลืองและปวดบริเวณโพรงไซนัส

• ต่อมทอนซิลเป็นหนอง

• ปอดอักเสบ หายใจลำบาก

 

ภาระแทรกซ้อนระยะยาว

• ไข้รูมาติก (Rheumatic Fever)

• ไตอักเสบจากเชื้อสเตรป (Post-Streptococcal Glomerulonephritis)

• ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Septicemia)

 

อ้างอิง
pidst.or.th
chularat3inter
thairath

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST