การร้องไห้งอแงเพราะอารมณ์ที่ผันผวนในวัยเด็กอาจดูเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติของช่วงวัยลูก
แต่ถึงอย่างนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตพฤติกรรมอื่นๆ ของลูกควบคู่ไปด้วยเสมอ เช่น การร้องไห้งอแงหรือแสดงอารมณ์ที่ฉุนเฉียว ที่เกิดจาก ลูกเอาแต่ใจ มากเกินไป เพราะพฤติกรรมเช่นนี้เป็นหนึ่งในสัญญาณเตือนคุณพ่อคุณแม่ ให้เริ่มปรับและแก้ไขวิธีการเลี้ยงดู อาจจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มงวด เพื่อไม่ให้ลูกเกิดปัญหาด้านการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นในอนาคตได้
ยิ่งไปกว่านั้นการที่ ลูกเอาแต่ใจ ตัวเองมากเกินไป จะทำให้มีอารมณ์ไม่คงที่ หงุดหงิดและงอแงมากกว่าเด็กทั่วไป ส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตใจและร่างกายของลูกได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรสังเกตว่าลูกมีลักษณะเป็นเด็กเอาแต่ใจหรือไม่ เพื่อหันกลับมาจริงจังและเข้มงวดกับลูกให้มากขึ้น
เพื่อเป็นการป้องกันและตรวจสอบว่าลูกมีแนวโน้มที่จะเป็นเด็กเอาแต่ใจตัวเองหรือไม่ เราชวนมารู้จักกับ 5 สัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณพ่อคุณแม่ควรเข้มงวดกับลูกให้มากขึ้นได้แล้ว
1. ลูกเกลียดการถูกปฏิเสธ
เวลาที่คุณพ่อคุณแม่ปฏิเสธและห้ามปรามลูกด้วยการบอกว่า ‘ไม่’ หรือ ‘ไม่ได้’ ลูกมักจะแสดงอาการไม่ยอมรับและต่อต้าน เช่น แสดงอารมณ์ฉุนเฉียว ก้าวร้าว หรือร้องไห้ราวกับหัวใจจะสลาย เพียงเพราะคุณพ่อคุณแม่ปฏิเสธที่จะให้ในสิ่งที่ลูกต้องการ
2. เกิดอารมณ์ฉุนเฉียวง่าย แต่ใจเย็นยาก
หนึ่งในการเลี้ยงดูที่ส่งเสริมให้ลูกมีพฤติดรรมเอาแต่ใจ ก็คือการที่คุณพ่อคุณแม่ หรือคนรอบตัวลูก คอยตอบสนองและตามใจลูก ทำให้ลูกคุ้นเคยกับการตอบตกลงทันที โดยไม่ต้องคำนึงถึงเหตุผล
เด็กที่โตมากับการตามใจมากเกินไปจึงกลายเป็นเด็กใจร้อน อยากได้อะไรต้องได้ทันที หากไม่ได้ก็มักจะเกิดอารมณ์ฉุนเฉียว กรี้ยวกราด และยากที่ปรับจูนอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาตามปกติ
3. ไม่พอใจเมื่อได้ของที่ไม่ถูกใจตัวเอง
หากลูกเริ่มเป็นเด็กเอาใจยาก เลือกจะเอาแต่ของที่ชอบ และแสดงอาการไม่ถูกใจหรือไม่พอใจเมื่อคุณพ่อคุณแม่หรือคนรอบตัวหยิบยื่นสิ่งของที่ไม่ชอบมาให้ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกทางสีหน้า หรือบางครั้งก็แสดงออกด้วยท่าทางไม่มีมารยาท เช่น หากคุณพ่อซื้อของเล่นที่ไม่ถูกใจมาให้ ลูกก็โวยวาย ไม่พอใจ และไม่เอ่ยขอบคุณอย่างที่เคยทำมาตลอด
4. ละเลยคำสั่งหรือเมินเฉยต่อสิ่งที่พ่อแม่ร้องขอ
เมื่อไหร่ที่ลูกเริ่มปฏิเสธที่จะทำตามคำบอกหรือไหว้วานของคุณพ่อคุณแม่ และตอบกลับด้วยการพูดว่า ‘ไม่อยากทำ’ หรือบอกให้คุณพ่อคุณแม่ลงมือทำแทน ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม นี่อาจเป็นสัญญาณเตือนให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่า ลูกเริ่มมีนิสัยละเลยและเมินเฉยต่อคำพูดของคุณพ่อคุณแม่ หากคุณพ่อคุณแม่ปล่อยปละและตามใจลูก ก็อาจนำมาสู่พฤติกรรมของเด็กเอาแต่ใจมากขึ้นได้
5. ลูกมีความต้องการเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และไร้จุดสิ้นสุด
อีกสิ่งที่ควรระวังคือการที่ลูกร้องขอสิ่งต่าง ๆ มากขึ้นเรื่อย ๆ และเมื่อคุณพ่อคุณแม่ตามใจครั้งหนึ่งแล้ว สิ่งที่มีอยู่ก็จะไม่สามารถทำให้ลูกพอใจได้นาน เช่น การร้องขอของเล่นใหม่บ่อยๆ นี่คือสัญญาณเตือนว่าลูกกำลังมุ่งความสนใจไปที่สิ่งที่ตัวเองต้องการ โดยไม่คำนึงถึงเหตุผลและความเหมาะสม เพราะรู้ดีว่าอย่างไรคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องตามใจอย่างแน่นอน
ถ้าเป็นอย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มเข้มงวดและจริงจังที่จะปฏิเสธคำขอของลูกบ้าง และเลือกให้ในเวลาที่เหมาะสมเท่านั้นนะคะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST