นับวัน โซเชียลมีเดีย ก็ยิ่งเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ไม่ว่าจะใช้เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร ทำงาน หรือเพื่อการพักผ่อนและความบันเทิง โซเชียลมีเดียก็เข้ามาอำนวยความสะดวกและตอบสนองกิจวัตรประจำวันของเราได้แทบทุกด้าน  

แต่ถึงอย่างนั้น เราส่วนมากก็ใช้ โซเชียลมีเดีย กันบนพื้นฐานที่เข้าใจว่าอีกด้านของความสะดวกสบายที่เทคโนโลยีให้มา ก็คือข้อเสียและอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากปล่อยให้โซเชียลมีเดียเข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันมากเกินไป

ขนาดผู้ใหญ่ยังต้องคอยเตือนตัวเองให้มีสติอย่างนี้ แล้วจะปล่อยเด็กๆ ให้หลงอยู่ในดินแดนโซเชียลมีเดียตามลำพังก็คงไม่ดีแน่ จึงเป็นหน้าที่ของคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องคอยสังเกตและระมัดระวังไม่ให้ลูกใช้หรือเสพติดโซเชียลมีเดียมากเกินไปด้วยเช่นกัน

สัญญาณอันตรายที่พอจะบอกได้ว่าลูกมีแนวโน้มว่าจะเข้าข่ายเสพติดโซเชียลมีเดียมากเกินไปมีดังนี้ 

1. ลูกอยู่กับโซเชียลมีเดียนานติดต่อกันหลายชั่วโมง

2. ใช้เวลาที่เคยทำอย่างอื่นมาเล่นโซเชียลมีเดีย

3. เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียจะหงุดหงิดและกระวนกระวาย

4. เล่นโซเชียลมีเดียระหว่างทำกิจกรรมอื่น เช่น กินข้าว หรือดูโทรทัศน์ 

5. เริ่มมีพฤติกรรมที่ไม่ดี เช่น โกหกคุณพ่อคุณแม่ เพื่อที่จะใช้โซเชียลมีเดียมากขึ้น 

หากลูกของคุณพ่อคุณแม่มีพฤติกรรมเหล่านี้ ก็พอจะเห็นแนวโน้มว่าโซเชียลมีเดียกำลังเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของลูกมากเกินไป และหากปล่อยให้ลูกใช้เวลากับโซเชียลมีเดียอย่างไม่เหมาะสมต่อไป ก็อาจทำให้เกิดปัญหาในการใช้ชีวิตต่อไปได้

และสุดท้าย อย่าลืมย้อนกลับมามองตัวเองอีกครั้งว่าคุณพ่อคุณแม่เองมีส่วนทำให้ลูกเห็นพฤติกรรมการใช้โซเชียลมีเดียที่ไม่เหมาะสมหรือเปล่า ถ้าใช่แล้วละก็ ลองวางสมาร์ตโฟนลงแล้วหาเวลาคุณภาพเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวให้แน่นแฟ้นมากขึ้นกันดีกว่านะคะ

อ้างอิง
samitivejhospitals
thairath
manarom