READING

4 นิสัยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืมสอน เพื่อพัฒนาทักษะ...

4 นิสัยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืมสอน เพื่อพัฒนาทักษะการเข้าสังคมให้ลูก

ทักษะการเข้าสังคม

เพราะมนุษย์เราเป็นสัตว์สังคม การอยู่ร่วมกับผู้อื่นและ ทักษะการเข้าสังคม จึงเป็นเรื่องจำเป็นและสำคัญต่อการดำเนินชีวิตที่ทุกคนควรเรียนรู้

โดยเฉพาะสำหรับเด็กๆ ที่เกิดมามีนิสัยใจคอแตกต่างกัน การเรียนรู้ที่จะปรับตัวเพื่ออยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมจึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความช่วยเหลือ ให้คำแนะนำ และทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้อย

ว่าแต่นิสัยที่ควรได้รับการปลูกฝังเพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาทักษะการเข้าสังคม ที่ดีมีอะไรบ้าง เรารวบรวมมาให้คุณพ่อคุณแม่แล้วค่ะ

1. นิสัยรู้จักการแบ่งปัน

แบ่งปัน

การแบ่งปันเป็นหนึ่งในนิสัยที่ควรมีเมื่อต้องอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ แค่ได้หยิบยื่นและแบ่งปันของเล่นให้กัน ก็มีโอกาสที่จะเริ่มต้นและทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างเพื่อนเล่นเป็นไปด้วยดีได้แล้ว

วารสาร Psychological Science ระบุว่า เด็กที่อายุต่ำกว่าสองขวบ จะเริ่มอยากแบ่งปันสิ่งของ เมื่อตัวเองรู้สึกว่ามีสิ่งนั้นเพียงพอแล้ว แต่เมื่อเข้าสู่วัย 2-6 ขวบ เด็กจะพัฒนาความคิดมากขึ้น และเข้าใจแล้วว่าการแบ่งปันอาจทำให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ต้องการน้อยลง จึงเลือกที่จะไม่แบ่งปัน (นั่นเป็นเหตุผลว่า ทำไมเด็กช่วงวัยนั้นถึงหวงของนัก) แต่เมื่อเด็กอายุ 7-8 ขวบ เด็กๆ จะเริ่มให้ความสนใจเรื่องความยุติธรรมมากขึ้น เด็กจะรู้สึกอยากแบ่งปันให้คนอื่นแม้รู้ว่าจะทำให้ตัวเองจะได้น้อยลงก็ตาม เพราะสิ่งที่เด็กๆ จะได้จากการแบ่งปันก็คือความรู้สึกอิ่มเอมใจ ภาคภูมิใจ และความเคารพในตัวเองมากขึ้น

นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเด็กแต่ละช่วงวัยถึงมีลักษณะนิสัยเรื่องการแบ่งปันแตกต่างกัน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใจเย็นที่จะสอนให้ลูกเรียนรู้และคอยสนับสนุนให้ลูกรู้จักการให้ที่เหมาะสมกับความเข้าใจตามวัยของตัวเอง และเป็นแบบอย่างเรื่องการแบ่งปันให้ลูกเห็นเสมอ

2. นิสัยเป็นผู้ฟังที่ดี

ผู้ฟังที่ดี

ทักษะการเข้าสังคม และอยู่ร่วมกับคนอื่น จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้จักสื่อสารความต้องการของตัวเองและรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น

การรู้จักรับฟังคนอื่นจึงเป็นลักษณะนิสัยสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกตั้งแต่เนิ่นๆ เพราะการเป็นผู้ฟังที่ดี ไม่ได้หมายถึงการฟังไปเรื่อยๆ แต่ควรเป็นการฟังที่ตั้งใจ และพยายามเข้าใจจิตใจของผู้พูด เพื่อแสดงออกและตอบสนองได้อย่างเหมาะสม เพราะนอกจากการเป็นผู้ฟังที่ดีทำช่วยให้ลูกอยู่ร่วมกับคนอื่นและเข้าสังคมได้ดีแล้ว ยังช่วยให้ลูกมีการเรียนรู้ที่ดีต่อไปอีกด้วย

3. นิสัยกล้าที่จะทำตามข้อตกลงและคำแนะนำของคนอื่นบ้าง

ทำตามข้อตกลง

ไม่ว่าจะเป็นสังคมขนาดเล็ก เช่น ครอบครัว ห้องเรียน เพื่อนในกลุ่ม หรือสังคมขนาดใหญ่ ทุกสังคมย่อมมีกฎกติกาและข้อตกลงของการอยู่ร่วมกันทั้งสิ้น

แต่การจะสอนให้ลูกทำตามกฎกติกาของทุกสังคมได้ในทันทีอาจเป็นเรื่องยาก เพราะลูกยังไม่มีความเข้าใจถึงเหตุผลและผลลัพธ์ของสิ่งต่างๆ มากพอ ดังนั้นการที่ลูกจะเข้าไปอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคม จึงเป็นไปได้ที่ลูกจะทำสิ่งผิดพลาดและไม่เหมาะสม ทำให้ถูกตำหนิและได้รับคำตักเตือนจากคนอื่น ซึ่งหากคุณพ่อคุณแม่ไม่เตรียมความพร้อมให้ลูกเรียนรู้ที่จะทำตามกฎกติกาของสังคม หรือไม่สอนให้ลูกรู้จักเปิดใจรับฟังคำแนะนำของคนอื่นเสียเลย ก็อาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กดื้อรั้น ไม่ฟังใคร และมีปัญหาในการอยู่ร่วมกับคนอื่นได้

4. นิสัยเคารพพื้นที่ส่วนตัวของผู้อื่น

พื้นที่ส่วนตัว

คุณพ่อคุณแม่ควรสร้างความเข้าใจเรื่องพื้นที่ส่วนตัวของทุกคนตั้งแต่ในบ้าน รวมถึงลูกเอง ถึงแม้จะเป็นเด็ก แต่ก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง อาจจะเข้มงวดมากหรือน้อยแตกต่างกันไปตามแต่ละครอบครัว 

แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ควรที่จะสอนให้ลูกรู้จักเคารพในพื้นที่ส่วนตัวของคนอื่น แม้แต่เพื่อนที่เป็นเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน และสอนให้ลูกรู้ว่าการเคารพพื้นที่ส่วนตัว ไม่ได้หมายถึงเส้นแบ่งหรืออาณาเขตที่จับต้องได้เท่านั้น แต่หมายถึงการเคารพตัวตนของคนอื่น เช่น ถ้ารู้ว่าเพื่อนไม่ชอบอะไร ก็ไม่เอาสิ่งนั้นมาแกล้งเพื่อน

หากคุณพ่อคุณแม่ปลูกฝังนิสัยเคารพพื้นที่ส่วนตัวคนอื่นให้ลูกแล้ว ก็จะทำให้ลูกมีทักษะการอยู่รวมกับผู้อื่นและเข้าสังคมได้ดีขึ้นอีกด้วย

อ้างอิง
verywellfamily
learnwithhomer
childdevelopment

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST