สำหรับบางคน การมีลูก ทำให้ชีวิตครอบครัวสมบูรณ์ยิ่งขึ้น และการเลี้ยงลูกด้วยตัวเองก็คือความสุขอย่างหนึ่งในชีวิตของคนเป็นพ่อเป็นแม่
แต่ในอีกด้านหนึ่ง การเลี้ยงลูกก็ต้องอาศัยความรับผิดชอบ ความกดดัน ความคาดหวัง และทุ่มเทพลังงานชีวิตลงไปเต็มที่ รู้ตัวอีกที หน้าที่ที่ควรจะทำให้ชีวิตมีความสุข กลับนำมาซึ่งความ เครียดสะสม ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตด้านอื่นๆ ของคุณพ่อคุณแม่ตามไปด้วย
ภาวะ เครียดสะสม คืออะไร
ภาวะเครียดสะสม เกิดจากการใช้ชีวิตที่ตึงเครียด เช่น มีภาระหน้าที่มากเกินไป มีความกดดัน และความคาดหวังในชีวิตสูง และไม่ได้รับการแก้ไขหรือหาทางผ่อนคลายความเครียดต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน
เมื่อเกิดภาวะเครียดสะสม อาจทำให้บุคลิกและพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเปลี่ยนไป เช่น กลายเป็นคนนิ่งเงียบ เก็บตัว ไม่อยากพูดคุย วิตกกังวล นอนไม่หลับ ปวดหัว หรือมีอาการหายใจถี่ ใจสั่น หายใจลำบาก เมื่อตกอยู่ในสถานการณ์ที่ทำให้วิตกกังวลได้
สาเหตุที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ เครียดสะสม
1. มีความกังวลเกี่ยวกับลูกตลอดเวลา

คุณพ่อคุณแม่หลายคน โดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ มักจะวิตกกังวลเกี่ยวกับลูกอยู่ตลอดเวลา เช่น กลัวว่าลูกจะหิว กลัวว่าลูกจะไม่สบาย ลูกจะมีพัฒนาการช้าเกินไปหรือเปล่า หรือแม้แต่กังวลในวิธีการเลี้ยงลูกของตัวเอง กลัวว่าจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดี หรือกลัวว่าจะถูกตำหนิจากคนรอบข้างได้
ความจริงแล้ว พ่อแม่ทุกคนมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับลูกเป็นเรื่องธรรมดา ขอเพียงคุณพ่อคุณแม่ทำใจให้สบาย ไม่กดดันหรือคาดหวังในตัวเองและลูกมากเกินไป ให้โอกาสตัวเองเรียนรู้ที่จะเป็นพ่อแม่ไปพร้อมๆ กับการเติบโตของลูกนะคะ
2. คาดหวังความสมบูรณ์แบบมากเกินไป

ความเครียดจากการเลี้ยงลูกทั้งหมด ไม่ได้เกิดจากการที่ลูกเป็นเด็กเลี้ยงยาก หรือภาระหน้าที่ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องลงมือทำด้วยตัวเองเท่านั้น แต่หากลองทบทวนดีๆ แล้ว จะพบว่าความเครียดส่วนหนึ่ง เกิดจากการที่คุณพ่อคุณแม่คาดหวังให้ตัวเองเป็นพ่อแม่ที่ดีพร้อมและสมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่จะทำได้
ดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่ยอมรับว่า ไม่มีพ่อแม่คนไหนเลี้ยงลูกได้ดีและสมบูรณ์แบบร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกคนย่อมเคยผิดพลาด เช่น เผลอตวาดและขึ้นเสียงใส่ลูก เผลอทำตัวเป็นพ่อแม่ขี้บ่นในสายตาลูก และยอมรับว่าลูก ก็เป็นเด็กธรรมดาที่อาจมีช่วงเวลาดื้อรั้น ซุกซน งอแง และทำสิ่งที่ไม่ถูกใจคุณพ่อคุณแม่ได้
หากคุณพ่อคุณแม่ลดความคาดหวังในตัวเองและลูกลงได้ ก็จะช่วยลดความเครียดที่เกิดจากการเลี้ยงลูกลงไปได้มากเลยทีเดียว
3. ทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้กับลูก

พ่อแม่จำเป็นต้องให้เวลาในการเลี้ยงดูลูกก็จริง แต่ต้องไม่ลืมว่า ถึงแม้จะรับหน้าที่เป็นคุณพ่อคุณแม่แล้ว ทุกคนต่างก็ยังมีภาระหน้าที่และความรับผิดชอบด้านอื่นๆ ในชีวิต
ดังนั้น การจะเป็นพ่อแม่ที่ดี จึงไม่ใช่แค่การทุ่มเทเวลาทั้งหมดในชีวิตให้กับการเลี้ยงดูลูกจนไม่เหลือเวลาไว้ดูแลตัวเอง หน้าที่การงาน และความสัมพันธ์ในครอบครัว แต่การจะเป็นพ่อแม่ที่ดีและมีความสุขในระยะยาวได้นั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องเปิดโอกาสให้ตัวเองได้ทำกิจกรรมที่ชอบ มีความยืดหยุ่นในชีวิต และมีเวลาดูแลสุขภาพกายและใจของตัวเองด้วย
4. ขาดทีมสนับสนุน

ความเหนื่อยล้าที่ต่อเนื่องและยาวนาน เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่เกิดภาวะเครียดสะสมได้ เพราะการเลี้ยงลูกเป็นงานที่ไม่มีวันหยุด ไม่มีวันลาพักร้อน ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรทำตัวเป็นทีม คอยช่วยเหลือ ผลัดเวร สลับสับเปลี่ยนหน้าที่ อย่าปล่อยให้งานเลี้ยงลูกเป็นของคนใดคนหนึ่ง
รวมถึงการขอความช่วยเหลือจากทีมสนับสนุน อย่างปู่ย่าตายาย หรือญาติผู้ใหญ่ ในเวลาที่จำเป็น ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ดีกว่าพยายามแบกภาระทุกอย่างไว้จนเกินกำลังของตัวเอง และเกิดเป็นความเครียดที่ส่งผลต่อการเลี้ยงลูกในระยะยาวได้
COMMENTS ARE OFF THIS POST