READING

4 ทริกเล็กๆ ช่วยลูกลดความเครียดจากสถานการณ์การระบา...

4 ทริกเล็กๆ ช่วยลูกลดความเครียดจากสถานการณ์การระบาด COVID-19

การใช้ชีวิตในช่วงที่มีสถานการณ์ระบาดของโรค COVID-19 นอกจากการดูแลสุขภาพที่เป็นเรื่องสำคัญแล้ว การดูแลจิตใจก็สำคัญไม่แพ้กัน 

คุณพ่อคุณแม่อาจจะคิดว่าเด็กๆ ยังไม่เข้าใจถึงสถานการณ์และไม่ได้เดือดร้อนจากผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 มากนัก แต่อย่าลืมว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การไม่ได้ไปเล่นกับเพื่อนที่โรงเรียน ไม่ได้เจอคุณครู ต้องเรียนออนไลน์ ไม่สามารถออกไปเที่ยวเล่นได้อย่างเมื่อก่อน รวมถึงความตึงเครียดในบ้านที่มีโอกาสเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตามที

จึงไม่แปลกที่เด็กบางคนอาจจะเกิดภาวะเครียด และแสดงออกมาเป็นนหลับไม่ดี มีความงวล และอาจจะไม่ยอมทำกิจกรรมที่ตัวเองเคยชอบ

ถ้าคุณพ่อคุณแม่ปล่อยให้ลูกต้องเผชิญและรับมือกับความเครียดโดยไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในบ้านตึงเครียดไม่แพ้โลกภายนอก เราจึงนำทริกเล็กๆ ที่จะช่วยลดความเครียดของลูกลงได้ แล้วทำให้ช่วงเวลาที่ต้องอยู่บ้าน ไม่ใช่ช่วงเวลาที่น่าเบื่อของทุกคนในครอบครัวนะคะ

1. ทำกิจวัตรประจำวันอย่างสม่ำเสมอ

stresscovid_web_1

การทำกิจวัตรประจำวันให้เป็นเวลาและสม่ำเสมอ เช่น กำหนดเวลาตื่นนอน อาบน้ำ กินข้าว เรียนหนังสือ และเล่นของเล่น สิ่งเหล่านี้นอกจากจะทำให้ลูกได้ฝึกการมีวินัย มีความรับผิดชอบในตัวเองแล้ว ยังช่วยลดความเครียดจากสถานการณ์ที่ไม่ปกติได้ เพราะการมีกิจวัตรประจำวันที่แน่นอน จะทำให้ลูกไม่รู้สึกไร้ค่า เลื่อนลอย หรือไม่มีอะไรทำจนเกิดความเครียดได้

2. ทำกิจกรรมหน้าบ้าน

stresscovid_web_2

จริงอยู่ที่การอยู่บ้านเป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการป้องกันตัวเอง แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว การได้วิ่งเล่นกลางแจ้งก็ยังสำคัญต่อการเติบโตและพัฒนาการของเขาอยู่ดี

ดังนั้นถึงแม้จะเป็นวันที่ต้องอยู่บ้าน แต่ถ้าอากาศดีๆ ท้องฟ้าแจ่มใส คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหากิจกรรมหน้าบ้านให้ลูกทำบ้าง อาจจะเป็นการรดน้ำต้นไม้ ช่วยกันล้างรถ (และอาจจะเลยเถิดเป็นการปล่อยให้ลูกเล่นน้ำได้ตามอัธยาศัย) ก็จะช่วยลดความเครียดของลูกไปได้เยอะเลยล่ะค่ะ

3. ให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจมากขึ้น

stresscovid_web_3

เด็กๆ อาจจะรู้สึกเครียดเมื่อต้องอยู่ภายใต้สถานการณ์ที่ควบคุมไม่ได้ และยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจนจากคุณพ่อคุณแม่ เช่น ไม่แน่ใจว่าจะได้ไปโรงเรียนหรือกลับไปเล่นกับเพื่อนได้เมื่อไหร่ แต่ความเครียดเหล่านั้นจะลดลงได้เมื่อคุณพ่อคุณแม่เปิดโอกาสให้ลูกได้คิดและตัดสินใจเรื่องสำคัญในบ้าน เช่น ให้ลูกช่วยเลือกอาหารมื้อเย็น ให้ลูกตัดสินใจว่าอยากทำกิจกรรมอะไรร่วมกัน ให้ลูกช่วยกำหนดตารางกิจกรรมของตัวเองและคุณพ่อคุณแม่ ก็จะทำให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วมกับครอบครัวและมีความสามารถในการจัดการชีวิตตัวเองได้มากขึ้น ลูกก็จะเครียดและกังวลน้อยลงค่ะ

4. หาวิธีให้ลูกได้พบปะและพูดคุยกับคนอื่นบ้าง

stresscovid_web_4

ช่วงเวลาที่การระบาดยังควบคุมไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ก็คงจะไม่สบายใจที่จะให้ลูกไปเจอกับคนภายนอก หรือแม้แต่ญาติพี่น้องที่อยู่คนละบ้านมากนัก เด็กๆ ก็เลยจำเป็นต้องลดกิจกรรมและการเข้าสังคมไปโดยปริยาย

แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรลืมหาวิธีให้ลูกได้พูดคุยและติดต่อสื่อสารกับเพื่อนๆ หรือญาติพี่น้องตามปกติ แต่อาจจะเปลี่ยนเป็นใช้การวิดีโอคอลคุยกัน ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันให้หายคิดถึง และทำให้ลูกรู้สึกว่าถึงแม้จะออกไปพบเจอกันไม่ได้ เขาก็ไม่ได้ขาดการติดต่อกับคนอื่นๆ ไม่ได้ถูกลืม และสถานการณ์อย่างนี้คนอื่นๆ ก็ต้องอยู่บ้านเช่นเดียวกัน

อ้างอิง
verywellfamily
cdc
childmind

Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST