คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจเคยสงสัยหรือตั้งคำถามกับตัวเองว่า ‘ต้องเลี้ยงลูกยังไง ลูกถึงจะประสบความสำเร็จในชีวิต’
M.O.M มีคำตอบจากนักวิจัยและผลการสำรวจต่างๆ มาบอกถึง 8 สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำ เพื่อให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิต
1. กินอาหารพร้อมหน้าพร้อมตากัน
จากการศึกษาขององค์กรไม่หวังผลกำไรจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) พบว่าเด็กที่กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวประมาณห้าวันต่อสัปดาห์ จะเรียนดีและมีความมั่นใจในตัวเอง และมีโอกาสข้องเกี่ยวกับสารเสพติด การตั้งท้องในวัยรุ่น โรคอ้วน และอาการซึมเศร้าน้อยลง
2. เลิกเลี้ยงลูกด้วยหน้าจอ
นักวิจัยพบว่าเด็กที่ใช้เวลากับหน้าจอมากเกินไป สมองจะมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างถาวร โดยเฉพาะสมองส่วนที่ใช้ฝึกทักษะการรอคอย การโฟกัส และการจดจ่อ รวมไปถึงทักษะการเข้าสังคม
สถาบันกุมารเวชศาสตร์อเมริกัน (American Academy of Pediatrics: AAP) กล่าวว่าพ่อแม่ควรทำให้โต๊ะอาหาร ในรถ และห้องนอน เป็นเขตปลอดมือถือสำหรับลูก
3. ทำงานนอกบ้าน
งานวิจัยพบว่าเด็กที่มีผู้ปกครองทำงานนอกบ้าน จะดูแลตัวเองได้ดีกว่าเด็กที่พ่อหรือแม่ไม่ได้ทำงาน
4. สอนให้ลูกทำงานบ้าน
จูลี ลีทคอตต์-เฮมส์—ผู้เขียนหนังสือ ‘How to Raise an Adult’ และอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Stanford University) กล่าวไว้ในงาน TED Talks ว่าคนที่เคยทำงานบ้านมาตั้งแต่ตอนเด็ก จะประสบความสำเร็จในอาชีพการงานมากกว่าเด็กที่ไม่เคยทำงานบ้านเลย เพราะการทำงานบ้านจะฝึกให้เด็กรู้จักวางแผน ว่าต้องทำอะไรและทำอย่างไรให้งานเสร็จทันภายในเวลาที่กำหนด
5. สอนให้ลูกรู้จักการรอคอย
การทดลองมาร์ชเมลโลว์ (Marshmallow Experiment) ในปี 1972 ทำการทดลองโดยเอามาร์ชเมลโลว์วางไว้หน้าเด็กๆ และตกลงกับเด็กๆ ว่าถ้าทุก 15 นาทีที่พวกเขายับยั้งชั่งใจไม่หยิบมาร์ชเมลโลว์ขึ้นมากิน พวกเขาจะได้รับมาร์ชเมลโลว์เพิ่มอีกหนึ่งชิ้นเป็นรางวัล
ผลการทดลองบอกว่า เด็กที่สามารถยับยั้งชั่งใจและอดทนรอได้นาน โตขึ้นมาจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีทักษะด้านสังคมที่ดีกว่า สอบได้คะแนนดีกว่า และสามารถรับมือกับความเครียดได้ดีกว่า ดังนั้น ผู้ปกครองควรฝึกให้ลูกรู้จักการอดทนและรอคอยให้เป็นนิสัย
6. อ่านหนังสือให้ลูกฟัง
นักวิจัยจากคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก (New York University) ค้นพบว่าทารกที่พ่อแม่อ่านหนังสือให้ฟังตั้งแต่ช่วงแรกของชีวิต จะมีทักษะด้านภาษา การพูด การฟัง การอ่าน และการเขียนที่ดีกว่า
และการที่เด็กชอบอ่านหนังสือ เมื่อโตขึ้นจะติดการอ่านหนังสือเป็นนิสัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดี เพราะการอ่านหนังสือจะเชื่อมโยงกับกระบวนการทางสติปัญญา ในเรื่องของคำศัพท์ การสะกดคำ และคณิตศาสตร์
7. สนับสนุนให้ลูกออกไปท่องเที่ยว
ผลการสำรวจพบว่า ครูชาวอเมริกันที่มีประสบการณ์ด้านการท่องเที่ยว 1,432 คน จากสมาคมนักเดินทางสำหรับนักศึกษาและเยาวชน (Student and Youth Travel Association: SYTA) พบว่าการที่คุณได้ออกไปเจอโลกกว้าง จะช่วยให้คุณเพิ่มคุณลักษณะนิสัยดังต่อไปนี้
– มีความอดทนต่อวัฒนธรรมและเชื้อชาติอื่นๆ ที่แตกต่างออกไปได้มากขึ้น
– อยากเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ มากขึ้น
– อยากลองกินอาหารที่มีความแตกต่างมากขึ้น
– มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
– อดทนและเคารพผู้อื่นมากขึ้น
– ปรับตัวต่อสถานการณ์ต่างๆ ได้ดีขึ้น
– เข้ากับคนอื่นได้ง่ายขึ้น
8. ปล่อยให้ลูกล้มเหลวบ้าง
นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่พ่อแม่จะให้แก่ลูกได้ ตามที่ ดร.สเตฟานี โอเลรี่—นักจิตวิทยาและผู้เขียน ‘Parenting in the Real World: The Rules Have Changed’ กล่าวไว้ว่า ความล้มเหลวจะส่งผลดีกับเด็กในหลายระดับ
อันดับแรกคือเด็กจะได้เรียนรู้ที่จะรับมือกับความล้มเหลว ซึ่งเป็นทักษะที่จะได้ใช้ในโลกแห่งความเป็นจริง เมื่อเวลาผ่านไป เด็กที่ได้รับประสบการณ์ด้านนี้ จะสร้างความยืดหยุ่นและพยายามที่จะรับมือกับปัญหาที่ยากขึ้น เพราะเขาจะไม่กลัวที่ต้องเผชิญกับความล้มเหลว
ในอีกแง่หนึ่ง การที่พ่อแม่พยายามให้ความช่วยเหลือลูกมากเกินไป เป็นการบอกทางอ้อมว่าคุณไม่ได้ไว้ใจลูกจริงๆ แต่การที่คุณปล่อยให้ลูกได้ลำบากต่างหากที่หมายความว่าคุณเชื่อมั่นในตัวลูก และมั่นใจว่าลูกจะสามารถรับมือกับความล้มเหลวและผิดหวังได้
NO COMMENT