จะหน้าฝน หน้าหนาว หรือหน้าร้อน พระอาทิตย์ก็ทำงานอย่างขยันขันแข็งไม่ต่างกันเท่าไรในบ้านเรา ครีมกันแดดจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม แล้วเด็กๆ ต้องการครีมกันแดดแบบไหน แบบสเปรย์ แบบแท่ง หรือแบบครีม ต่างจากผู้ใหญ่หรือเปล่า มาดูกัน…

องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำให้ซื้อผลิตภัณฑ์กันแดดที่มีป้ายกำกับอย่างน้อย SPF 15 และสถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกา (American Academy of Dermatology) แนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่มี SPF 30 อย่างต่ำ

ดร.เอเลไน ลินอส—รองศาสตราจารย์ด้านผิวหนังที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย กล่าวว่า “การถูกแดดเผาในวัยเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กเล็ก อาจเพิ่มปัจจัยเสี่ยงต่อมะเร็งผิวหนังทุกชนิด และอันตรายมากกว่าการถูกแดดเผาในตอนโต”

ทำความเข้าใจเกี่ยวกับฉลาก

“ถ้ามองไปที่ส่วนผสมในครีมกันแดด คุณจะไม่เห็นความแตกต่างของครีมกันแดดระหว่างของเด็กกับผู้ใหญ่ ยกเว้นการใส่น้ำหอม” ดร.ลิซา การ์เนอร์—แพทย์และศาสตราจารย์คลินิกด้านผิวหนัง ประจำศูนย์การแพทย์ตะวันตกเฉียงใต้ยูทาห์ เมืองดัลลัสกล่าว

“โดยพื้นฐานแล้วค่า SPF คือสิ่งที่ควรสนใจ” ดร.เอเลไนกล่าว ซึ่ง SPF หมายถึงตัวเลขที่ใช้บอกระดับการปกป้องผิวจากแสงแดด

เนื่องจากรังสี UV ทั้งสองชนิดคือ UVA และ UVB มีความยาวคลื่นที่แตกต่างกัน และแทรกซึมไปตามความลึกที่แตกต่างกัน สถาบันโรคผิวหนังแห่งอเมริกาอธิบายว่า รังสี UVB เป็นรังสีความร้อน ส่วนรังสี UVA มักทำให้เกิดริ้วรอย เนื่องจากมีแนวโน้มทำให้เกิดตีนกาและจุดด่างดำ

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ความแตกต่างระหว่างตัวเลข SPF มีความหมายแตกต่างกัน เช่น ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 15 อาจป้องกันรังสี UVB ได้ร้อยละ 93 เทียบกับ SPF 30 ที่ป้องกันได้ร้อยละ 97

“ไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดที่สูงกว่า SPF 50 ถ้าคุณไม่ได้เป็นโรคที่ไวต่อแสง” ดร.ลิซ่ากล่าว

ผลิตภัณฑ์ที่เรียกว่าเป็น water-resistant หมายความว่า SPF จะยังอยู่หลังจากอยู่ในน้ำ 40 นาที และหากฉลากระบุว่า very water-resistant ระยะเวลาจะเพิ่มขึ้นเป็น 80 นาที หากไม่ได้เช็ดทำความสะอาดครีมกันแดดออกไป

แต่องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาได้บอกว่า แม้จะมีฉลากเหล่านี้ แต่ไม่มีครีมกันแดดตัวไหนที่กันน้ำได้ ครีมกันแดดทั้งหมดย่อมถูกล้างออกไป

ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่า…

ไม่ว่าคุณจะเลือกครีมกันแดดให้ตัวเองหรือลูกหลาน ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้เลือกครีมกันแดดที่ฉลากเขียนว่าปกป้องผิวอย่างครอบคลุม (Broad Spectrum) เพื่อที่จะป้องกันได้ทั้งรังสี UVB และ UVA

ทาครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะออกไปข้างนอก และทาซ้ำบ่อยเท่าที่ทำได้ ซึ่งมักหมายถึงทุกสองชั่วโมงหรือหลังจากเล่นน้ำแล้ว

องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาไม่แนะนำให้ใช้ครีมกันแดดในทารกอายุน้อยกว่า 6 เดือน แต่ควรพยายามให้เด็กๆ อยู่ในที่ร่มจะดีกว่า แต่เมื่อได้รับการเรียกร้องจากบรรดาคุณแม่จำนวนมาก จึงมีครีมกันแดดที่มีไทเทเนียมไดออกไซด์ (Titanium Dioxide) หรือสังกะสี ที่สามารถใช้ได้ในผิวเด็กบอบบาง

ผลิตภัณฑ์เหล่านี้มักถูกเรียกว่า Mineral Sunscreen แม้ว่าผลิตภัณฑ์จะมีสารประกอบอื่นๆ เช่น ออกซีเบนโซน (Oxybenzone) แต่ก็ถือว่าปลอดภัยสำหรับเด็ก 6 เดือนขึ้นไป และได้รับการอนุมัติจากองค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกา

ตามที่องค์การอาหารและยาประเทศสหรัฐอเมริกาแนะนำ คุณพ่อคุณแม่สามารถปกป้องเด็กๆ จากรังสี UV ได้หลากหลายวิธี เช่น สวมเสื้อแขนยาว แว่นกันแดด หมวกปีกกว้าง และหลีกเลี่ยงช่วงเวลาที่แดดรุนแรง ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของดร.เอเลไน ที่ระบุว่า “การอยู่ในที่ร่มหรือสวมเสื้อแขนยาว อาจป้องกันแดดได้มีประสิทธิภาพมากกว่าครีมกันแดดเพียงอย่างเดียว”

อ้างอิง

CNN