เด็กทุกคนล้วนเกิดมาพร้อมความชอบ ความสนใจ และมีความถนัดเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไป หากได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมอย่างเหมาะสม ความชอบและความถนัดเหล่านั้นก็จะพัฒนาไปได้อย่างรวดเร็ว
หรือคุณพ่อคุณแม่อาจจะเรียกว่า ลูกมีพรสวรรค์ ก็ว่าได้ แต่ในทางกลับกัน หากคุณพ่อคุณแม่มองข้ามสิ่งที่ลูกสนใจ หรือทำได้ดีเป็นพิเศษ อาจเป็นเพราะไม่ได้สังเกต หรือคิดเอาเองว่าเป็นเรื่องธรรมดา ที่ลูกอาจเลิกชอบหรือเลิกสนใจไปเอง ทำให้ไม่ได้หาทางสนับสนุนหรือส่งเสริมความสามารถของลูกอย่างเหมาะสม ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกเสียโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของตัวเอง แต่ยังส่งผลต่อโอกาสในการต่อยอดและพัฒนาทักษะที่สำคัญต่อการใช้ชีวิตในอนาคตอีกด้วยดังนั้น หากคุณพ่อคุณแม่เริ่มเล็งเห็นความชอบ ความถนัด หรือคิดว่า ลูกมีพรสวรรค์ ด้านใดเป็นพิเศษแล้วละก็ เรามีเทคนิคที่จะช่วยส่งเสริมความสามารถและศักยภาพของลูกมาให้คุณพ่อคุณแม่ได้ลองนำไปปรับใช้ดูค่ะ
1. สนับสนุนและให้กำลังใจ
คุณพ่อคุณแม่อาจคิดว่า เวลาลูกลองทำอะไรใหม่ๆ แล้วทำได้ดีนั้นเป็นเพราะลูกจะลงแรงและตั้งใจในช่วงแรก สุดท้ายก็อาจจะเบื่อและล้มเลิกไปในที่สุด ก็เลยพลาดโอกาสที่จะเริ่มส่งเสริมให้ลูกได้พัฒนาตัวเองต่อไปได้
Cora Collette Breuner รองศาสตราจารย์ด้านกุมารเวชศาสตร์จากโรงพยาบาลเด็กและมหาวิทยาลัยวอชิงตัน ให้ความเห็นว่า การที่เด็กๆ กลัวการริเริ่มลองทำสิ่งใหม่ๆ เป็นเพราะว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ให้การสนับสนุนลูก และลูกจะได้รับการสนับสนุนและกำลังใจก็ต่อเมื่อทำสิ่งนั้นสำเร็จ
ดังนั้น เพื่อให้ลูกรู้ว่าคุณพ่อคุณแม่ให้ความสำคัญกับทุกความพยายามของลูกเสมอ อย่าลืมที่จะสนับสนุนและให้กำลังใจลูกด้วยนะคะ
2. สร้างสภาพแวดล้อมที่สร้างสรรค์
เด็กๆ จะเรียนรู้ได้ดีในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม คุณพ่อคุณแม่จึงควรสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ สร้างสรรค์ และพัฒนาศักยภาพของตัวเอง ส่งเสริมให้ลูกมีโอกาสสำหรับการสำรวจและทดลองสิ่งใหม่ๆ เพื่อให้ลูกสามารถค้นหาความชอบ ความถนัด และความสามารถของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
3. สนับสนุนกิจกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจ
เมื่อคุณพ่อคุณแม่เริ่มสังเกตได้แล้วว่าลูกมีความสามารถ ความชอบ หรือมีความสนใจด้านไหน ก็อย่าลืมที่จะสนับสนุนให้ลูกได้เข้าร่วมกิจกรรมที่สอดคล้องกับความสนใจ และส่งเสริมลูกให้ได้ฝึกฝนในทักษะที่เขามีความถนัด เช่น หากเห็นว่าลูกสนุกและสามารถจดจ่ออยู่กับวาดรูปได้เป็นเวลานาน อาจเริ่มพัฒนาจากการปล่อยให้ลูกวาดเล่นตามลำพังเป็นการลองให้ลูกเรียนรู้ศิลปะมากขึ้น ก็ช่วยให้ลูกสามารถพัฒนาความสามารถด้านศิลปะมากขึ้นได้
4. ให้เวลากับสิ่งที่ลูกชอบ
คุณพ่อคุณแม่ควรให้เวลาสำหรับกิจกรรมที่ลูกชื่นชอบ และให้ลูกมีโอกาสที่จะทดลองและพัฒนาความสามารถของตนเอง แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจว่าความชอบของลูกตอนที่ยังเล็ก อาจยังไม่ใช่ตัวกำหนดอาชีพหรือความสำเร็จของลูกในอนาคต จึงไม่จำเป็นต้องรีบกดดันหรือคาดหวังว่าลูกจะต้องอยู่กับสิ่งนี้ไปตลอด
5. ส่งเสริมการเรียนรู้เชิงบวก
การเรียนรู้เชิงบวก คือ การจัดแนวทางการเรียนรู้และสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม เพื่อให้ลูกเกิดแรงจูงใจ เช่น พาลูกออกไปทำกิจกรรมเสริมที่นอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน เพื่อให้ลูกได้รับประสบการณ์จริง หรืออาจจะหาคอร์สสั้นๆ ให้ลูกเรียน เพื่อต่อยอดความชอบและความสนใจของลูกต่อไป
COMMENTS ARE OFF THIS POST