READING

ลูกพูดคนเดียว : ลูกชอบคุยกับตัวเอง เป็นเรื่องปกติห...

ลูกพูดคนเดียว : ลูกชอบคุยกับตัวเอง เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?

ลูกพูดคนเดียว

คุณพ่อคุณแม่อาจเคยสังเกตหรือได้ยินลูกวัยอนุบาลพูดพึมพำกับตัวเอง บางครั้งก็ฮัมเพลงอย่างมีความสุข หรือบางเวลาก็เหมือนกำลังแสดงบทบาทสมมติกับใครสักคน

แต่ เอ๊ะ! ถ้าลูกมีพฤติกรรมเหล่านั้นตอนอยู่คนเดียว ลูกพูดคนเดียว หรือสร้างบทสนทนาโต้ตอบกับตัวเองคนเดียว ย่อมทำให้คุณพ่อคุณแม่นึกสงสัยว่า อาการพูดคนกับตัวเองเช่นนี้ ถือเป็นพฤติกรรมที่ผิดปกติหรือไม่

อาการ ลูกพูดคนเดียว หรือการคุยกับตัวเองของเด็กมักเกิดขึ้นในช่วงอายุ 3-5 ปี แต่เมื่อโตขึ้น เด็กบางคนอาจเรียนรู้ที่จะพูดโต้ตอบกับตัวเองในใจ แต่เด็กบางคนก็ยังคงพูดคนเดียวให้ได้ยินอยู่เสมอ

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่สบายใจหรือกังวลใจว่า การที่ลูกชอบพูดคนเดียวหรือคุยกับตัวเองบ่อยๆ นั้น เป็นเรื่องปกติธรรมดาหรือควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนี้อย่างไร เราลองรวบรวมข้อมูลและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมาให้ดังนี้ค่ะ

1. การคุยกับตัวเองก็ถือเป็นการฝึกภาษาและการสื่อสารได้

talktothemselves_web_1

Ester Cole นักจิตวิทยาจากเมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา อธิบายว่า การที่เด็กๆ ชอบคุยคนเดียวนั้น เป็นหนึ่งในวิธีสำรวจความสัมพันธ์ระหว่างโลกใบนี้และโลกของเขาเอง รวมทั้งเป็นการออกกำลังกายทางภาษา ฝึกพูด ฝึกออกเสียง ฝึกสื่อสาร ผสมผสานกับการแสดงบทบาทสมมติ และชี้แนะให้ตัวเองทำอะไรบางอย่างไปในตัว

คุณพ่อคุณแม่อาจพบว่า ลูกจะคุยกับตัวเองตอนที่ใช้เวลาอยู่ตามลำพัง หรือกำลังตั้งใจทำบางอย่าง นั่นเป็นเพราะลูกกำลังทบทวนสิ่งที่ต้องทำ หรือเล่าเรื่องประสบการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงการสะท้อนความรู้สึกออกมาเพื่อความเข้าใจตัวเองมากยิ่งขึ้น โดยจะสังเกตว่า สิ่งที่ลูกพูดกับตัวเอง มักเป็นประโยคที่ลูกเลียนแบบมาจากคุณพ่อคุณแม่ คุณครูหรือผู้ที่ดูแลลูก ทั้งการให้กำลังใจ การตักเตือน การแสดงความรู้สึก หรือคำชมต่างๆ

วัยอนุบาลเป็นวัยที่คุยเก่ง คุยกับตัวเองก็เก่ง เป็นเรื่องปกติ การให้พูดคนเดียวได้ ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการทางอารมณ์และสติปัญญา เพราะระหว่างการพูด ควบคู่กับการเล่น การเรียนรู้มักเกิดขึ้นพร้อมๆ กัน

Adam Winsler ศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัย George Mason ในรัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาและพบว่า เด็กอายุ 5 ขวบ เมื่อพูดกับตัวเองด้วยเสียงดังๆ จะทำบางสิ่งบางอย่างได้ดีกว่านั่งทำโดยไม่พูดอะไรเลย

ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่า ไม่ใช่แค่เด็กวัยอนุบาล แต่ผู้ใหญ่หลายคนก็คุยกับตัวเองเก่งไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่จะนำไปใช้เพื่อการแก้ปัญหาหรือทำงานให้สำเร็จ ด้วยการพูดออกเสียงให้ตัวเองได้ยิน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การพูดคนเดียวสามารถเป็นเครื่องมือสำหรับจัดการความคิดที่ยอดเยี่ยม และใช้ได้ดีเสมอในทุกช่วงวัย

2. คุยกับตัวเอง เพื่อพัฒนาตัวเอง

talktothemselves_web_2

Dr. Chelsea Hetherington, Ph.D. นักจิตวิทยาด้านพัฒนาการ อธิบายว่า เด็กจะเริ่มพูดคุยกับตัวเองตั้งแต่อายุ 2 ขวบ ถือเป็นเรื่องปกติของพัฒนาการทางภาษาและจิตใจ ช่วยฝึกทักษะทางภาษา ฝึกฝนความคิดและความรู้สึก พัฒนาจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ รวมไปถึงฝึกฝนการแก้ปัญหา

เช่นเดียวกับ Kimberly Day นักวิจัยเกี่ยวกับการพูดคนเดียว (Private Speech Researcher) และผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากมหาวิทยาลัยเวสต์ฟลอริดา อธิบายเพิ่มเติมว่า การพูดคนเดียวของเด็กเป็นวิธีการกำกับดูแลตัวเอง ช่วยสร้างแรงจูงใจให้กับตัวเอง ทำให้เกิดการประมวลผลทางความคิด มีความกล้าแสดงความรู้สึก และพยายามทำความเข้าใจประสบการณ์ของตัวเองหรือผลักดันตัวเองให้ผ่านสิ่งที่ยากลำบากด้วยตัวเอง

ที่น่าสนใจคือ เด็กที่พูดกับตัวเอง จะสามารถควบคุมพฤติกรรม และเข้าใจอารมณ์ของตัวเองระหว่างทำกิจกรรมที่ยากลำบากได้ดีกว่า และยังช่วยให้ลูกสงบสติอารมณ์และทำกิจกรรมต่างๆ ได้ด้วยความมั่นใจมากยิ่งขึ้น

แต่ตรงกันข้ามกับเด็กที่จู่ๆ ก็มีพฤติกรรมคุยกับตัวเองมากขึ้น หลังจากเหตุการณ์ที่กระทบกระเทือนจิตใจ เช่น สัตว์เลี้ยงหรือคนใกล้ชิดจากไปกะทันหัน  หรือเด็กที่ถูกคนอื่นแยกออกจากกลุ่มเพื่อน คุณพ่อคุณแม่จึงควรพาลูกไปพบจิตแพทย์เด็ก เพื่อช่วยประเมินสภาพจิตใจและอารมณ์ของลูกด้วย

3. จินตนาการแห่งการพูด สู่ความคิดสร้างสรรค์ที่ดี

talktothemselves_web_3

เมื่อลูกพูด ก็ย่อมมีผู้ฟัง และผู้ฟังคนนั้นก็คือ เพื่อนในจินตนาการ ที่ช่วยให้ลูกระบายความคิดและความรู้สึกออกมาได้ ถือเป็นพื้นที่ส่วนตัวของความสบายใจ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ลูกเกิดความเครียดหรือมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง

เมื่อไหร่ก็ตามที่เห็นลูกกำลังคุยคนเดียว พูดกับตุ๊กตา หรือเล่นบทบาทสมมติกับตัวเอง หากคุณพ่อคุณแม่ตอบสนองด้วยท่าทีตื่นตกใจ ตำหนิ ห้ามไม่ให้ลูกทำอีก หรือแม้แต่การถามว่า ทำไมลูกถึงทำอย่างนั้น ตุ๊กตาไม่ใช่คนเสียหน่อย! ก็อาจทำให้ลูกไม่กล้าพูดคุยกับเพื่อนในจินตนาการของตัวเองอีก เท่ากับเป็นการสกัดกั้นความคิดสร้างสรรค์ของลูกได้

นอกจากนี้ การพูดกับตัวเอง ยังเป็นการสร้างแรงจูงใจ ให้กำลังใจตัวเอง เพื่อยืนยันให้ตัวเองมีความเพียรพยายาม ทั้งยังเป็นเสมือนเครื่องช่วยจำ จดจำข้อมูลสำคัญๆ ผ่านการพูดกับตัวเองได้ เช่นเดียวกับผู้ใหญ่ ที่อาจย้ำคำพูดของตัวเอง เพื่อป้องกันการลืมสิ่งที่ต้องทำได้เช่นกัน

สิ่งสำคัญที่สุดคือ คุณพ่อคุณแม่จะต้องสนับสนุนและเข้าใจพฤติกรรมของลูก แม้ว่าในบางครั้งอาจจะดูแปลกๆ ไปบ้าง หรือพฤติกรรมนี้อาจจะดำเนินต่อไปจนถึงช่วยวัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ ตราบใดก็ตามที่การคุยกับตัวเองไม่รบกวนชีวิตประจำวัน หรือปฏิสัมพันธ์ทางสังคม คุณพ่อคุณแม่ก็สบายใจ หายห่วงได้

4. แต่หากลูกคุยคนเดียวไม่หยุด หรือมีแต่ถ้อยคำต่อว่าตัวเอง ต้องระวัง!

talktothemselves_web_4

Barbara Potts ที่ปรึกษาโรงเรียนประถมศึกษา ยืนยันว่า เด็กๆ พูดคุยกับตัวเองเป็นเรื่องปกติและยังดีต่อตัวเด็กเอง แต่บางกรณีก็อาจส่งผลต่อชีวิตประจำวันหรือปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของเด็กได้ เช่น พูดคนเดียวไม่หยุด จนทำให้คนรอบข้างไม่สบายใจ หวาดระแวง หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย รวมทั้งการพูดคุยกับตัวเองด้วยคำพูดเชิงลบหรือต่อว่าตัวเองซ้ำๆ นี่อาจเป็นสัญญาณของปัญหาเช่น โรควิตกกังวลหรือซึมเศร้า

นอกจากนี้ ลูกชอบคุยคนเดียว อาจมาจากความผิดปกติของร่างกาย เช่น โรคออทิสติก ที่มักจะมีพฤติกรรมทำอะไรบางอย่างซ้ำๆ และการคุยกับตัวเองก็เป็นหนึ่งในพฤติกรรมดังกล่าว รวมไปถึงเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้น (ADHD) อาจดูเหมือนกำลังคุยกับตัวเอง พึมพำอยู่คนเดียว เพราะต้องการอธิบายความคิดของตัวเองให้ตัวเองได้ฟัง แต่เป็นการกระทำไปโดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองกำลังมีพฤติกรรมแบบนั้น

แต่ทั้งหมดนี้ ไม่ได้หมายความว่า การที่ลูกชอบพูดคนเดียว คุยกับตัวเองอยู่บ่อยๆ จะเป็นสิ่งที่ชี้ชัดว่าลูกเป็นโรคสมาธิสั้น ออทิสติก หรือมีความผิดปกติอื่นๆ หากคุณพ่อคุณแม่กังวลเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูก สามารถขอคำแนะนำจากนักจิตวิทยาเด็ก หรือกุมารแพทย์ เพื่อตรวจวินิจฉัยที่ถูกต้องและเหมาะสมต่อไปได้นะคะ

 

5 พฤติกรรมธรรมด๊า ธรรมดาของลูก ทีทำให้พ่อแม่เป็นกังวล

 

อ้างอิง
todaysparent
familyeducation

Saranya A.

ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล: คุณแม่มือใหม่ ที่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกชายตัวน้อยด้วยการยึดโยงธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน คุณแม่คนนี้หลงรักและทำงานด้านการเขียนมากว่า 12 ปี ตอนนี้มีความฝันอยากเป็นนักวาดนิทานเด็ก

COMMENTS ARE OFF THIS POST