“รีบตื่นได้แล้วลูก สายแล้ว”
“รีบทำการบ้านเร็วเข้าดึกแล้ว”
หลากหลายคำพูดจากคุณพ่อคุณแม่ที่พยายามเร่งและกระตุ้นเจ้าตัวน้อยที่ทั้งโอ้เอ้ ลีลา และท่าเยอะ จนทำให้หลายอย่างที่วางแผนไว้ต้องเลื่อนเวลาออกไปหมด
การบริหารเวลา เป็นทักษะหนึ่งที่สำคัญและจำเป็นในการใช้ชีวิต ที่เด็กๆ มักจะยังมองไม่เห็นความสำคัญ หรือบางครั้งผู้ใหญ่เองก็คิดว่ายังไม่จำเป็นต้องรีบสอนหรือเคร่งครัดเรื่องเวลากับลูกมากนักก็ได้
แต่ถ้าลูกไม่ได้รับการปลูกฝังให้รู้จักจัดการและบริหารเวลาเสียเลย ก็จะเคยชินและติดเป็นนิสัยที่ยิ่งโตก็ยิ่งแก้ไขได้ยาก เพราะการเป็นคนที่ไม่รู้จักจัดการหรือบริหารเวลาให้ดี ย่อมส่งผลกระทบไปถึงการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ เช่น เป็นคนไม่ตรงต่อเวลา ชอบผัดวันประกันพรุ่ง และไม่ให้ความสำคัญกับหน้าที่รับผิดชอบของตัวเอง
เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนให้ลูกรู้จักบริหารและจัดการเวลาอย่างเหมาะสม แต่จะด้วยวิธีอะไรบ้าง เรามีมาบอกค่ะ
1. ทำปฏิทินครอบครัวร่วมกัน
ให้คุณพ่อคุณแม่และลูกมาช่วยกันทำปฏิทินครอบครัว ซึ่งปฏิทินอันนี้จะมีไว้สำหรับให้ทุกคนช่วยกันเขียนภารกิจและหน้าที่ในแต่ละวันของตัวเองลงไป อาจมีการแบ่งสีปากกาประจำตัวของแต่ละคน หรือวาดการ์ตูนประจำตัวแต่ละคนประกอบเอาไว้เสมอเพื่อให้ลูกรู้สึกกับการใช้งานปฏิทินครอบครัวก็ยังได้ แล้วนำไปแปะไว้ในที่ที่ทุกคนมองเห็นร่วมกันได้ง่าย
การทำปฏิทินครอบครัวจะช่วยให้ลูกได้เห็นว่าในแต่ละวันสมาชิกในบ้านมีภารกิจอะไรบ้าง ทำให้ลูกเรียนรู้และเข้าใจว่าทุกคนหน้าที่รับผิดชอบขอบตัวเอง อีกทั้งยังช่วยให้ลูกรู้จักบริหารเวลาและวางแผนล่วงหน้า เพื่อให้ภารกิจของตัวเองลุล่วงไปได้ทุกวัน
2. ทำเช็กลิสต์กิจวัตรประจำวันของลูก
ปกติแล้วเด็กๆ จะมีกิจวัตรประจำวันของตัวเองอยู่ ไม่ว่าจะตื่นนอน แปรงฟัน อาบน้ำ กินข้าว และไปโรงเรียน แต่ถ้าวันไหนที่ลูกอิดออด เช่น ตื่นสาย ทำให้ไม่มีเวลากินอาหารเช้าก่อนไปโรงเรียน หรือไม่ก็ใช้เวลาทำอย่างใดอย่างหนึ่งมากเกินไป จนไม่มีเวลาหรือลืมทำสิ่งที่ต้องทำต่อไปอีก
สิ่งที่จะช่วยทำให้ลูกทำทุกอย่างได้ตามที่ตั้งใจ และไม่ลืมว่าตัวเองต้องทำอะไรบ้าง ก็คือการทำเช็กลิสต์กิจวัตรประจำวันของลูก แล้วให้ลูกช่วยวาดหรือตกแต่งตารางนั้นด้วยสีสันที่สดใส เมื่อลูกทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ให้เขามาทำเครื่องหมายถูกหรือนำสติกเกอร์มาติดเพื่อเป็นการบอกว่าภารกิจนั้นได้สำเร็จลุล่วงไปแล้วนั่นเอง
3. มีช่วงเวลาว่างให้แก่ลูก
ไม่ว่าแต่ละวันจะมีกิจกรรม หน้าที่ หรือภารกิจให้รับผิดชอบมากมายแค่ไหน ทุกคนก็ย่อมต้องการเวลาส่วนตัวหรือเวลาพักผ่อนบ้าง
ลูกเองก็ต้องการเวลาสำหรับวิ่งเล่นหรือผ่อนคลายอย่างอิสระเช่นกัน ดังนั้นนอกจากจะกำหนดเวลาว่าลูกจะต้องทำอะไรในแต่ละวันแล้ว อย่าลืมแบ่งช่วงเวลาพักผ่อนให้กับลูกบ้าง เพราะถ้าคุณพ่อคุณแม่กำหนดตารางกิจกรรมของลูกแน่นจนไม่มีเวลา แทนที่ลูกจะเข้าใจและเรียนรู้การบริหารเวลาที่ดี อาจกลายเป็นทำให้ลูกเครียด กดดัน และไม่มีความสุขได้นะคะ
4. สอนให้ลูกรู้จักเวลา
ข้อนี้ถือว่าสำคัญไม่แพ้ข้ออื่นเลย เพราะการสอนให้ลูกเข้าใจเรื่องหน่วยและการนับเวลา เช่น เข้าใจความหมายของคำว่า 5 นาที หรือ 5 ชั่วโมง สามารถกะและประมาณเวลาในการทำสิ่งต่างๆ ได้ด้วยตัวเอง จะช่วยให้ลูกสามารถบริหารและจัดการเวลาได้ดีขึ้น
โดยคุณพ่อคุณแม่อาจเริ่มจากการตั้งนาฬิกาที่มองเห็นตัวเลขได้ง่ายเอาไว้ ในบริเวณที่ลูกใช้ทำกิจกรรมต่างๆ แล้วสอนวิธีการใช้งาน เช่น ถ้าต้องการบอกให้ลูกรู้ว่าเล่นได้อีก 15 นาที แล้วจะต้องไปอาบน้ำ ก็ควรสอนให้ลูกดูที่นาฬิกาว่าแบบไหนที่หมายความว่าเป็นเวลา 15 นาที หรืออาจใช้วิธีจับเวลา เมื่อเสียงนาฬิกาดังแปลว่าครบ 15 นาทีแล้ว ลูกจะค่อยๆ เรียนรู้เรื่องเวลาและสามารถจัดการเวลาของตัวเองได้ดีขึ้นค่ะ
และไม่ใช่แค่ลูกเท่านั้นที่จะต้องรู้จักการบริหารเวลาที่ดี คุณพ่อคุณแม่ที่จะต้องเลี้ยงลูกไปด้วยทำงานไปด้วย ก็ยิ่งต้องแบ่งเวลาการทำงานและเวลาครอบครัวให้ดีที่สุด ด้วย 4 วิธีแบ่งเวลาระหว่างการทำงานและครอบครัว (Work Life Balance)
COMMENTS ARE OFF THIS POST