ไม่ว่าจะพยายามป้องกันและระมัดระวังมากแค่ไหน แต่ภัยพิบัติไม่ว่าจะเกิดจากธรรมชาติ หรือความผิดพลาดของมนุษย์ เช่น เหตุการณ์ ไฟไหม้ ย่อมเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิดได้เสมอ เพราะไม่มีใครรู้ว่าเหตุการณ์ร้ายจะเกิดขึ้นกับตัวเองเมื่อไหร่ การสอนให้ลูกมีสติและความพร้อมที่จะรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเอาไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม
วิธีเอาตัวรอดเบื้องต้นจากเหตุการณ์ ไฟไหม้ ก็เป็นหนึ่งในทักษะที่ไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ ควรเรียนรู้เอาไว้เพื่อพร้อมรับมือ
1. บอกลูกเสมอว่าหากเกิดไฟไหม้ สามารถหนีไปทางไหนได้บ้าง
ไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน โรงเรียน หรือสถานที่ที่ลูกต้องไปเป็นประจำ คุณพ่อคุณแม่ควรบอกเส้นทางฉุกเฉินที่สามารถใช้ออกจากที่เกิดเหตุได้ เช่น สอนให้ลูกสังเกตสัญลักษณ์ของทางหนีไฟในสถานที่ต่างๆ หรือถ้ามีไฟไหม้เกิดขึ้นที่บ้าน ให้ลูกออกจากบ้านด้วยประตูไหนได้บ้าง
ในสถานการณ์จริง เมื่อเกิดเพลิงไหม้มักมีควันที่อาจทำให้ลูกมองไม่เห็นเส้นทางปกติได้ ดังนั้น นอกจากจะบอกลูกให้รู้ทางออกแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกหรือจำลองสถานการณ์ในบ้านให้ลูกได้ลองใช้เส้นทางนั้นบ่อยๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคยตั้งแต่เนิ่นๆ
2. หากมีควัน ให้ก้มลง คลานต่ำ และใช้ผ้าชุบน้ำห่อตัว
เมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ก็จะมีควันไฟเกิดขึ้นตามมา ซึ่งหากสูดดมเป็นเวลานาน ก็อาจทำให้เกิดการสำลักควัน จนหมดสติและเสียชีวิตได้ ซึ่งวิธีเอาตัวรอดจากควันไฟก็คือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำห่อตัว หรือปิดปากปิดจมูก แล้วคลานต่ำออกจากจุดที่มีควัน
3. สอนลูกให้รู้จักตรวจสอบความร้อนของประตูก่อนเปิด
คุณพ่อคุณแม่จะต้องสอนลูกเสมอว่าเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ หากต้องมีการเปิดประตูห้อง จะต้องลองแตะลูกบิดประตูหรือสังเกตว่ามีความร้อนออกมาจากด้านหลังประตูหรือไม่ เพราะหากลูกบิดประตูมีความร้อน นั่นหมายความว่าด้านหลังประตูอาจจะกำลังมีไฟลุกไหม้อยู่ จึงไม่ควรเปิด และต้องหาทางอื่นแทน
แต่ถ้าตรวจสอบแล้วว่าประตูไม่ร้อนและสามารถเปิดได้ ก็ควรเปิดประตูออกโดยให้บานประตูบังตัวเองก่อน เพื่อไม่ให้ไฟโหมเข้ามาโดนตัวเราได้
4. หยุด ทิ้งตัว และกลิ้ง หากร่างกายติดไฟ
ถ้าเกิดไฟไหม้ติดเสื้อผ้าหรือร่างกาย คุณพ่อคุณแม่จะต้องเน้นย้ำกับลูกไว้เสมอว่าลูกต้องพยายามไม่ตกใจ อย่าวิ่งในขณะที่ไฟยังติดอยู่ เพราะการวิ่งจะทำให้ไฟยิ่งโหมและลามมากขึ้น แต่ลูกต้องหยุดและทิ้งตัว กลิ้งลงไปกับพื้นเพื่อให้ไฟดับลง เพราะการกลิ้งตัวลงกับพื้นจะเป็นการตัดวงจรอากาศที่ทำให้ไฟโหมแรงขึ้นได้
5. สอนให้ใช้โทรศัพท์ขอความช่วยเหลือฉุกเฉิน
คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกรู้จักใช้โทรศัพท์โทร. ขอความช่วยเหลือ ด้วยเบอร์ 199 สำหรับการเรียกรถดับเพลิงและกู้ภัย หรือแจ้งเหตุด่วนเหตุร้ายที่เบอร์ 191 ด้วยตัวเองในยามคับขัน ได้
ที่สำคัญก็คือต้องสอนให้ลูกรู้จักที่อยู่ของบ้านตัวเอง เช่น บ้านเลขที่ ซอย และหมู่บ้าน เพื่อให้ได้รับการช่วยเหลือที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
COMMENTS ARE OFF THIS POST