คุณพ่อคุณแม่เคยสงสัยไหมคะว่า ทำไมลูกของเราช่างซนแสนซน บอกหรือห้ามอะไรก็ไม่เคยทำตาม พูดอะไรก็เถียง ยิ่งโตยิ่งดื้อจนคุณพ่อคุณแม่ทั้งท้อใจหรือทนไม่ไหวก็ปรี๊ดแตกขึ้นมาบ่อยๆ

1. ลูกเป็นเด็กที่มีความคิดสร้างสรรค์ (Creative Thinking)

ธรรมชาติของเด็กคือชอบที่จะได้สำรวจและเรียนรู้ทุกสิ่งรอบตัว ความตื่นเต้นเมื่อได้พบเจอสิ่งใหม่ๆ จึงทำให้ลูกสนใจกิจกรรมหรือสิ่งตรงหน้ามากกว่าคำพูดของคุณพ่อคุณแม่

ดังนั้นหากรู้สึกว่าลูกไม่ค่อยเชื่อฟังหรือทำตามคำสั่งของคุณพ่อคุณแม่ไปบ้าง อาจแปลได้ว่าลูกกำลังมีความคิดที่อยากจะทดลองทำอะไรบางอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยหล่อหลอมให้ลูกเป็นคนมีความคิดสร้างสรรค์ เมื่อประสบปัญหาลูกก็มักจะหาทางแก้ด้วยตัวเองได้

2. ลูกจะเป็นเด็กที่สามารถอดทนต่อแรงกดดันได้

ในแง่หนึ่ง เด็กดื้อมักจะเป็นเด็กที่มีความอดทนมากกว่าเด็กทั่วไป เพราะความดื้อจะทำให้ลูกต้องทนกับการถูกตำหนิ ต่อว่า หรือแม้แต่การลงโทษด้วยรูปแบบต่างๆ ของคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งประสบการณ์เหล่านี้ จะเป็นเหมือนเกราะป้องกันให้ลูกเป็นเด็กที่มีจิตใจมั่นคงและมีความอดทนต่อแรงกดดันได้

3. ลูกจะรู้ตัวเองว่าต้องการอะไรและไม่ต้องการอะไร

การที่ลูกมีอาการต่อต้านและไม่เชื่อฟังคำสั่งของคุณพ่อคุณแม่ บางครั้งอาจไม่ได้เกิดจากการที่ลูกเอาแต่ใจตัวเองอย่างไม่มีเหตุผล แต่อาจเกิดจากการที่ลูกสามารถเข้าใจความรู้สึกของตัวเองได้ว่าต้องการอะไรหรือไม่ต้องการอะไรกันแน่

หากคุณพ่อคุณแม่ตอบสนองต่อสิ่งเหล่านี้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยให้ลูกมีความมั่นใจตัวเองและนับถือตัวเอง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ลูกประสบความสำเร็จในชีวิตได้

4. ลูกจะเป็นเด็กที่มีความพยายามสูง

เด็กที่มีความดื้อและซนจะมีความพยายามสูง เพราะความมั่นใจในความคิดของตัวเอง ทำให้ไม่ยอมล้มเลิกความพยายามได้ง่ายๆ เช่น ลูกชอบปีนป่ายที่สูง คุณพ่อคุณแม่ห้ามแล้วก็ยังคงหาโอกาสแอบปีนอยู่บ่อยๆ ดังนั้น แทนที่จะหาทางปิดกั้นลูก ลองใช้ใช้โอกาสนั้นสอนลูกให้รู้จักวิธีการปีนอย่างปลอดภัยหรือการเอาตัวรอดจากอันตรายเมื่ออยู่บนที่สูงไปเลยก็ดี

การที่คุณพ่อคุณแม่เห็นคุณค่าของความพยายามทดลองทำอะไรของลูก จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่มีความตั้งใจและมีความพยายามที่จะทำสิ่งต่างๆ ให้สำเร็จ แต่หากคุณพ่อคุณแม่เข้มงวด ออกคำสั่ง และห้ามลูกมากเกินไป จะทำให้ลูกขาดความเชื่อมั่น ละทิ้งความพยายามลง และไม่มีความกล้าแสดงออกต่อไป

ที่มา
pomalertide
takekidswithus