ผู้ใหญ่ทุกคนรู้ดีว่า ‘เวลา’ เป็นสิ่งที่สำคัญในการดำเนินชีวิต ทุกคนมีเวลาในแต่ละวันเท่ากัน สิ่งที่ต่างกันก็คือการบริหารและใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด
แต่สำหรับเด็กๆ พวกเขาอาจรู้สึกเหมือนวันเวลานั้นมีมากและยาวนานไม่มีขีดจำกัด การสอนให้ลูกรู้จัก คุณค่าของเวลา จึงเป็นหนึ่งในทักษะที่สำคัญที่ช่วยให้ลูกเติบโตเป็นคนที่มีระเบียบ มีเป้าหมาย และสามารถจัดการชีวิตได้ดีขึ้น
แล้วคุณพ่อคุณแม่จะสอนให้ลูกเป็นเด็กที่รู้จักและเข้าใจ คุณค่าของเวลา ได้อย่างไร เรามีวิธีดีๆ ที่จะช่วยให้ลูกเห็นคุณค่าของเวลาและสามารถบริหารจัดการเวลามาบอกค่ะ
1. ทำให้ลูกเห็นความสำคัญของเวลา

ธรรมชาติของเด็ก ย่อมไม่เข้าใจความสำคัญและข้อจำกัดของเวลา แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำให้ลูกเข้าใจได้ด้วยการแสดงออกหรือพูดถึงความสำคัญของเวลา การใช้เวลาอย่างคุ้มค่า และการรักษาเวลา เช่น หากลูกรีบไปอาบน้ำภายใน 5 นาทีนี้ หลังอาบน้ำเสร็จแล้ว ก็จะได้เวลาฟังนิทานก่อนนอนมากขึ้น
รวมถึง หากคุณพ่อคุณแม่มีพฤติกรรมรักษาเวลาและตรงต่อเวลาให้ลูกเห็นเป็นประจำ เช่น บอกว่าจะมารับที่โรงเรียนบ่ายสอง ก็มาตรงเวลาเสมอ เมื่อมีเหตุจำเป็นให้ผิดเวลา ก็ต้องเอ่ยขอโทษที่ไม่สามารถรักษาเวลาได้อย่างที่ตั้งใจ เพื่อให้ลูกซึมซับพฤติกรรมการเป็นคนรู้คุณค่าของเวลาจากคุณพ่อคุณแม่อยู่เสมอ
2. ช่วยลูกวางแผนการใช้เวลา

เด็กๆ ยังไม่สามารถบริหารจัดการเวลาในแต่ละวันของตัวเองได้ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกวางแผนการใช้เวลาสำหรับทำกิจกรรมต่างๆ ให้ลูกเห็นเป็นรูปธรรมได้ เช่น ทำตารางกิจกรรมและเวลาที่ต้องใช้ในการทำกิจกรรมแต่ละอย่าง เพื่อให้ลูกสามารถจัดการชีวิตประจำวันของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น
3. ส่งเสริมให้เรียนรู้การอดทนรอคอย

การรู้คุณค่าของเวลา ไม่ใช่การสอนให้ลูกเป็นคนเร่งรีบหรือรอคอยอะไรไม่ได้ แต่กลับกัน การสอนให้ลูกรู้จักอดทนรอคอย ก็เป็นส่วนสำคัญของการรู้คุณค่าและเคารพเวลาของคนอื่นเช่นกัน
เพราะลูกจำเป็นต้องเรียนรู้ว่าไม่ว่าจะทำอะไรล้วนต้องใช้เวลาด้วยกันทั้งสิ้น ดังนั้น การอดทนรอคอยอย่างใจเย็นจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยคุณพ่อคุณแม่อาจชวนให้ลูกทำกิจกรรมที่ไม่เห็นผลทันตา เช่น การปลูกต้นไม้แล้วรอดูการเจริญเติบโตหรือออกดอกสวยงาม การวางแผนเที่ยวล่วงหน้าแล้วต้องรอถึงวันหยุด การให้ลูกรอคุณพ่อคุณแม่ทำธุระเสร็จก่อนพาออกไปเล่นนอกบ้าน เพื่อให้ลูกเรียนรู้การอดทนรอคอยตั้งแต่ยังเล็ก
4. การสร้างกิจกรรมที่มีความท้าทาย

การชวนลูกทำกิจกรรมที่มีเวลาและเป้าหมายชัดเจน นอกจากจะช่วยให้ลูกเรียนรู้การใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพแล้ว ยังเป็นฝึกทักษะการตัดสินใจภายใต้เวลาจำกัดอีกด้วย
นอกจากนี้ หากลูกใช้เวลาในการทำกิจกรรมต่างๆ ได้สำเร็จลุล่วง คุณพ่อคุณแม่ควรชื่นชมเพื่อเป็นแรงจูงใจให้ลูกรู้สึกภูมิใจในความสามารถในการจัดการเวลาของตัวเองต่อไป
5. การพูดถึงผลลัพธ์จากการใช้เวลา

สุดท้าย นอกจากจะพูดคุยเกี่ยวกับลูกเกี่ยวกับการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าแล้ว ก็อย่าลืมที่จะบอกให้ลูกเห็นถึงผลลัพธ์ที่เกิดจากการใช้เวลาอย่างมีประสิทธิภาพด้วย เช่น หากลูกทำการบ้านเสร็จตามเวลาที่วางแผนเอาไว้ ก็จะมีเวลาเหลือพอสำหรับเล่นเกมหรือทำอย่างอื่นมากขึ้น แต่หากลูกไม่รักษาเวลา นอกจากจะทำการบ้านไม่เสร็จแล้ว อาจไม่มีเวลาเล่นและยังต้องนอนดึกมากขึ้นอีกด้วย
การสอนให้ลูกรู้คุณค่าของเวลา ไม่ใช่เรื่องที่จะทำได้ภายในวันเดียว แต่ต้องอาศัยใช้ความต่อเนื่องและความอดทนในการฝึกฝน หากลูกคุ้นเคยกับการจัดการเวลาและเห็นผลลัพธ์จากการใช้เวลาอย่างคุ้มค่าแล้ว อาจทำให้ลูกสามารถจัดการชีวิตตัวเองได้ดีขึ้นในระยะยาวต่อไป
COMMENTS ARE OFF THIS POST