READING

Toy Pod: เตือนภัย! บุหรี่ไฟฟ้าที่หน้าตาคล้ายของเล่...

Toy Pod: เตือนภัย! บุหรี่ไฟฟ้าที่หน้าตาคล้ายของเล่น อันตรายจากการตลาดที่ดึงดูดเด็กและเยาวชน

Toy Pod

ปัญหาบุหรี่ไฟฟ้ากำลังกลายเป็นภัยคุกคามที่เข้าใกล้เด็กและเยาวชนของเรามากขึ้นเรื่อยๆ เพราะถึงแม้จะเป็นสินค้าต้องห้าม แต่นอกจากจะยังหาซื้อได้ง่ายแล้วยังมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ให้น่ารัก น่าสนใจ จนกลายเป็นสินค้าที่ถูกใจเด็กๆ ได้อีกด้วย

นอกจากบุหรี่ไฟฟ้าทั่วไปแล้ว ยังมี Toy Pod หรือบุหรี่ไฟฟ้าที่ลักษณะภายนอกคล้ายของเล่น เช่น ตัวการ์ตูน กล่องขนม ไอศกรีม ปากกา หรืออาร์ตทอยที่โด่งดัง เพียงเท่านี้ก็พอที่จะหลุดลอดสายตาจากคุณพ่อคุณแม่ และผู้ใหญ่ใกล้ตัวได้ง่ายๆ

ที่สำคัญ Toy Pod ยังมีรสชาติและกลิ่นที่หอม เช่น รสผลไม้และขนมหวาน ที่ทำให้เด็กและวัยรุ่นถูกอกถูกใจ จนเกิดเข้าใจผิดว่าบุหรี่ไฟฟ้า ไม่ทำให้เกิดอันตรายได้เหมือนบุหรี่ทั่วไป

เพื่อปกป้องเด็กๆ จากภัยร้ายที่ซ่อนตัวมาในรูปแบบของบุหรี่ไฟฟ้า และบุหรี่ไฟฟ้าที่หน้าตาน่ารักเหมือนของเล่นไม่มีพิษภัย เราจึงชวนคุณพ่อคุณแม่มาช่วยกันสังเกตและใส่ใจพฤติกรรมของลูกมากขึ้น

1. สังเกตพฤติกรรม อารมณ์ และความสามารถในการเรียนรู้ของลูก

ToyPod_web_1

รศ.นพ. ชัยยศ คงคติธรรม หัวหน้าสาขาวิชาประสาทวิทยา ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี กล่าวถึงบุหรี่ไฟฟ้ากับการทำงานของสมองว่า ช่วงเด็กและวัยรุ่น สมองมีกระบวนการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญมากมาย และกระบวนการพัฒนาดังกล่าว จะถูกรบกวนโดยตรงจากสารนิโคตินที่พบในบุหรี่มวนและบุหรี่ไฟฟ้า โดยนิโคตินในบุหรี่ไฟฟ้าเป็นนิโคตินสังเคราะห์ที่ผลิตขึ้นมาสามารถเติมและเพิ่มในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าได้สูงกว่าบุหรี่มวนถึง 10-100 เท่า นิโคตินสังเคราะห์มีคุณสมบัติที่เหนือกว่านิโคตินธรรมชาติ คือ ไม่ระคายคอทำให้เสพได้มาก ดูดซึมได้เร็วกว่าภายใน 7-10 วินาทีจะเข้าสู่สมอง ทำให้ร่างกายเกิดการเสพติดอย่างรวดเร็ว

นอกจากนี้ยังมีผลงานวิจัยพบความสัมพันธ์ระหว่างการสูบบุหรี่ไฟฟ้ากับประสิทธิภาพการทำงานของสมอง พบว่า ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะมีประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลง เช่น ไม่มีสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับการเรียนหรือการทำงาน ความจำหรือการตัดสินใจแย่ลงกว่าคนที่ไม่สูบ และพบว่าสมองของเด็กมีแนวโน้มที่จะได้รับผลกระทบมากขึ้นหากเริ่มสูบบุหรี่ไฟฟ้าก่อนอายุ 14 ปี โดยเด็กที่เคยสูบบุหรี่ไฟฟ้าพบว่ามีแนวโน้มที่ประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงมากกว่าเด็กที่ไม่เคยสูบถึง 3 – 4 เท่า (ที่มา)

2. สุขภาพที่เปลี่ยนแปลงไป

ToyPod_web_2

ทอยพ็อดมีสารเคมีเช่นเดียวกับบุหรี่ไฟฟ้าที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น นิโคตินซึ่งเป็นสารเสพติดและสารเคมีอื่นๆ ที่สามารถทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจและโรคหัวใจได้

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตว่าลูกเริ่มมีสุขภาพเปลี่ยนแปลงไปในทางที่แย่ลง โดยไม่มีเหตุปัจจัยอื่น เช่น มีอาการไอบ่อย เจ็บคอ มีเสมหะ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ที่ไม่ได้เกิดจากการเจ็บไข้หรือโรคประจำตัว เพราะอาการเหล่านั้นอาจเป็นผลมาจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้าได้

3. สังเกตสิ่งของที่ลูกใช้

ToyPod_web_3

ถึงแม้ทอยพ็อดจะมีหน้าตาคล้ายของเล่น จนมองผ่านๆ อาจเข้าใจว่าเป็นหนึ่งในไอเท็มฮิตทั่วไปของเด็กๆ แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตลักษณะเฉพาะของมันได้ เช่น แม้จะหน้าตาเหมือนตุ๊กตาแต่ถ้าเป็นบุหรี่ไฟฟ้า จะต้องมีลักษณะคล้ายหลอดให้สูบ มีช่องสำหรับชาร์จแบตเตอรี่ และมีกลิ่นหอมหวานเหมือนขนมหรือผลไม้

หากพบว่าลูกมีสิ่งของลักษณะนี้ใกล้ตัว หรือพกติดตัวไปไหนมาไหนตลอดเวลา คุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องพูดคุยและอธิบายให้ลูกเข้าใจถึงอันตรายของบุหรี่ไฟฟ้าให้เร็วที่สุด

4. ตรวจสอบการใช้อินเทอร์เน็ตและสื่อสังคมออนไลน์

ToyPod_web_4

ทอยพ็อดเป็นสินค้าที่สามารถหาซื้อได้ง่าย โดยเฉพาะในช่องทางออนไลน์ที่ไม่สามารถควบคุมและจำกันการเข้าถึงได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพฤติกรรมการใช้อินเทอร์เน็ตและการเข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์ของลูก ว่ามีความเสี่ยงหรือมีประวัติการค้นหาที่นำไปสู่การเข้าถึงบุหรี่ไฟฟ้าได้หรือไม่

บุหรี่ไฟฟ้า : อันตรายที่อยู่ใกล้ตัวเด็กมากกว่าที่คิด
อ้างอิง
Hfocus.org
mgronline
bangkokbiznews

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST