เมื่อเวลาผ่านไป จากเด็กน้อยที่คุณพ่อคุณแม่เคยประคบประหงมเลี้ยงดูก็เติบโตขึ้น บ้างก็ว่าเมื่อถึงวัยหนึ่งการเติบโตของลูกจะรวดเร็วน่าใจหาย
จนเมื่อลูกเริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาวัยรุ่น หรือเมื่ออายุได้ประมาณ 8 ปี ในเด็กผู้หญิง และ 11-12 ปีในเด็กผู้ชาย เด็กจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทางร่างกายหรืออารมณ์ที่กำลังพัฒนาไปสู่การเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ซึ่งนั่นอาจทำให้เด็กๆ มีนิสัยและพฤติกรรมที่ต่างไปจากเดิมได้
จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเป็นเรื่องยากไม่น้อยสำหรับครอบครัวที่ลูกกำลังจะเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น เพราะอาจมีการกระทบกระทั่งเนื่องจากความคิดเห็นไม่ตรงกันบ้าง ลูกมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้นบ้าง อยากมีอิสระมากขึ้น รวมถึงลูกเริ่มรู้สึกไม่มั่นคงทางจิตใจ เพราะการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเอง
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเปิดใจและให้โอกาสลูกดู เพื่อให้เขาได้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ได้อย่างมีความสุข รวมไปถึงการทำให้ความสัมพันธ์ของครอบครัวไม่มีรอยร้าว
M.O.M จึงมีข้อแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ลูกน้อยกำลังจะเข้าสู่ช่วงเวลาวัยรุ่นมาฝาก
1. มอบความรักและการสนับสนุนที่ดีให้แก่ลูก

ความรักและการสนับสนุน เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้วัยรุ่นเห็นคุณค่าในตัวเอง เพราะวัยรุ่นเป็นวัยที่กำลังต้องการตัวตนของตัวเอง และค้นหาว่าตัวเองกำลังทำอะไรอยู่ คุณพ่อคุณแม่สามารถแสดงออกถึงความรักที่มีให้ลูกได้หลายวิธี โดยเฉพาะลูกวัยรุ่น การเปิดใจพูดคุยและรับฟังเรื่องราวต่างๆ ของลูก เข้าใจสิ่งที่ลูกชอบและอยากทำ หรือแม้แต่การเคารพพื้นที่ส่วนตัวของลูกก็ถือเป็นการแสดงความรักที่ทำให้ลูกรู้สึกอบอุ่นและสบายใจที่จะพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่เสมอ
2. พูดคุยเรื่องกฏระเบียบของครอบครัวให้ชัดเจน

สิ่งสำคัญที่สุดเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างพ่อแม่และลูกวัยรุ่นก็คือเรื่องของกฏระเบียบภายในครอบครัว เด็กวัยรุ่นมักเริ่มรู้สึกต้องการทำสิ่งต่างๆ ด้วยตัวเองมากขึ้น อยากตัดสินใจด้วยตัวเองมากขึ้น แต่คุณพ่อคุณแม่ก็ยังอดห่วงไม่ได้ ทำให้ไม่กล้าปล่อยให้ลูกมีอิสระได้เต็มที่ ดังนั้นการมีกฏระเบียบของครอบครัวจึงสามารถช่วยกำหนดขอบเขตของสิ่งที่ลูกสามารถคิดและตัดสินใจเองได้ และสิ่งที่ต้องถามความเห็นหรือขออนุญาต เช่น หากจะไปนอนบ้านเพื่อนจะต้องมาขออนุญาตก่อน หรือห้ามกลับบ้านเกินหกโมงเย็น หากช้ากว่านั้นต้องโทร. บอกทุกครั้ง ซึ่งกฏระเบียบที่กำหนดก็ไม่ควรเข้มงวดมากเกินไป เพราะอาจทำให้ลูกเครียด รู้สึกว่าตัวเองไม่มีพื้นที่ส่วนตัว และไม่มีโอกาสเจอประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิต
3. ช่วยลูกพัฒนาการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ

การตัดสินใจด้วยตัวเองเป็นเรื่องสำคัญมากของเด็กวัยรุ่น เพราะเป็นวัยที่เขาเริ่มมีความคิด อยากทำ หรืออยากแก้ไขปัญหาด้วยตัวเองมากยิ่งขึ้น แต่แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ชีวิตที่ยังน้อย การตัดสินใจของลูกจึงไม่น่าวางใจเท่าไรนัก
คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยเหลือฝึกฝนและพัฒนาด้านการตัดสินใจให้ลูกได้ เช่น หากลูกมีปัญหากับเพื่อนสนิทแต่ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรดี คุณพ่อคุณแม่อาจถามลูกว่า ลูกจะแก้ปัญหานี้อย่างไร เมื่อได้คำตอบแล้วให้ลองอธิบายถึงข้อดีข้อเสียของสิ่งที่ลูกคิด ให้เขาได้ชั่งน้ำหนักว่าควรเลือกอย่างไร หรือจะลองระดมสมองแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน ก็ถือเป็นการช่วยให้เด็กได้วิเคราะห์ และมีแนวโน้มของการตัดสินใจที่มั่นคงมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ยังสามารถให้ลูกได้ลองตัดสินใจเรื่องต่างๆ ภายในครอบครัว เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เขามองเห็นคุณค่าในตัวเองมากขึ้น
4. เคารพความรู้สึกและความคิดเห็นของลูก

เมื่อลูกเป็นวัยรุ่นและมีความคิดเป็นของตัวเอง ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่พ่อแม่อาจจะไม่เข้าใจถึงความนึกคิดของลูก
ความคิดที่ต่างกันระหว่างพ่อแม่กับลูกวัยรุ่น เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป แต่การจะทำให้ความคิดเห็นที่ต่างกัน สามารถอยู่ร่วมกันได้ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการเคารพความคิดเห็นซึ่งกันและกันนั่นเอง
คุณพ่อคุณแม่จะต้องเข้าใจในความอ่อนไหวของเด็กที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้นว่าพวกเขาอาจฉุนเฉียวไปบ้าง ดูสับสนในชีวิตไปบ้าง แต่แท้จริงแล้ว ช่วงเวลานี้นี่แหละที่เด็กต้องการพ่อแม่ให้คำแนะนำด้านอารมณ์และสร้างความมั่นคงให้เขามากที่สุด
การพูดคุยกันเปิดใจเกี่ยวกับความคิดและความรู้สึกของเด็กเป็นเรื่องที่ดี ทำให้เด็กมองเห็นคุณค่าของตัวเองมากยิ่งขึ้น และหากความคิดเห็นของแต่ละคนไม่ตรงกันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่เราทุกคนย่อมมีความคิดเป็นของตัวเอง
5. ปล่อยให้ลูกได้ทำผิดพลาด

การทำผิดพลาดถือเป็นการเรียนรู้ที่สำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตเพราะทำให้เด็กได้มีประสบการณ์ลองผิดลองถูก ช่วยพัฒนาการด้านสมองและการตัดสินใจให้มั่นคง เพราะเมื่อทำผิดพลาดก็จะพยายามแก้ไขไม่ให้ผิดซ้ำ แต่หากถูกอยู่แล้วก็จะไม่มีทางได้เรียนรู้โอกาสในการทำสิ่งใหม่ๆ ได้
6. ปฏิบัติตัวกับลูกและสอนให้ลูกปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับช่วงวัยของเขา

แม้ว่าวัยรุ่นจะมีความคิดเห็นเป็นของตัวเองมากยิ่งขึ้น แต่ทางที่ดีคือการให้ลูกทำในสิ่งที่เหมาะสมกับวัยของตัวเอง ด้วยการพูดคุยและอธิบายเหตุผลให้ลูกเข้าใจว่าทำไมลูกถึงยังทำบางอย่างไม่ได้ และบางอย่างเขาจะสามารถทำได้เมื่อลูกโตขึ้น
7. ให้โอกาสลูกได้ลองใช้ชีวิตอย่างอิสระและตามใจตัวเองบ้าง

คุณพ่อคุณแม่ย่อมเป็นห่วงลูกเป็นธรรมดา แต่ในท้ายที่สุดแล้วเด็กก็จะต้องเติบโตและออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองอยู่ดี การลองให้ลูกได้มีโอกาสตัดสินใจ และลองใช้ชีวิตตามอิสระดูเป็นสิ่งที่ควรทำ เพื่อให้เขาได้ลองเจอกับสิ่งต่างๆ และแก้ไขเรื่องต่างๆ ด้วยตัวเองบ้าง เช่น หากมีชมรม กิจกรรมบางอย่างที่ลูกสนใจ ปล่อยให้เขาได้ไปทำดู หรือเมื่อลูกเริ่มโตขึ้นมากกว่านี้ให้เขาได้ลองไปทำงานพาร์ตไทม์ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่ฝึกให้เด็กได้ทดลองใช้ชีวิตอย่างอิสระด้วยตัวเอง
COMMENTS ARE OFF THIS POST