พ่อแม่ทุกคนรู้ดีว่า การมีเวลาให้ลูกเป็นเรื่องสำคัญ แต่คุณพ่อคุณแม่ส่วนมาก นอกจากจะต้องทำหน้าที่พ่อแม่ให้ดีแล้ว ยังต้องพยายามรักษาคุณภาพในการทำงานไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

working parent อย่างเราจึงเหมือนคนที่กำลังรับมือกับศึกรอบด้าน ลูกก็สำคัญ แต่งานก็ยังต้องทำอยู่ และถึงแม้อยากจะมีเวลาให้ลูกมากแค่ไหน แต่ค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงลูก ก็มีแต่จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และยิ่งมีภาระหน้าที่รับผิดชอบมากขึ้นเท่าไร การใช้ชีวิตให้สมดุล หรือสร้าง work life balance จึงยิ่งจำเป็นมากเท่านั้น

เรามาหายใจเข้าลึกๆ ตั้งสติ แล้วมาหาวิธีจัดระเบียบและรับมือชีวิตที่แสนจะยุ่งเหยิงของมนุษย์ทำงานที่ต้องรับบทคุณพ่อคุณแม่อย่างไม่มีวันหยุดกันดีกว่า

1. จัดลำดับความสำคัญ

หัวใจสำคัญของการบริหารเวลา ก็คือการเอา to do list ออกมาจัดลำดับความสำคัญ เช่น อะไรคือสิ่งเร่งด่วนที่สำคัญ อะไรที่สำคัญแต่ไม่เร่งด่วน หรืออะไรคือสิ่งเร่งด่วนแต่ไม่สำคัญ เมื่อคุณพ่อคุณแม่เอารายการของสิ่งที่ต้องทำมาจัดลำดับความสำคัญและความเร่งด่วนแล้ว จะทำให้คุณพ่อคุณแม่บริหารเวลาและจัดการภาระหน้าที่ของตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

2. วันหยุดคือ golden hour ของลูก

ในวันทำงาน คุณพ่อคุณแม่ working parent อาจจำเป็นต้องทำงานล่วงเวลาไปบ้าง แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ควรหนักแน่นกับการใช้เวลาในวันหยุด วางมือจากหน้าที่การงานแล้วใช้ golden hour กับลูกให้มีคุณภาพ เช่น ชวนลูกทำกิจกรรมนอกบ้าน ออกไปเที่ยวเล่น หรือแม้แต่การนั่งเล่นนอนเล่นอยู่กับลูกทั้งวัน ก็พอจะทดแทนช่วงเวลาที่ตกหล่นไประหว่างสัปดาห์ให้ลูกได้

3. เคารพเวลาพักผ่อนของตัวเอง

ถึงแม้การทำงานไปด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย จะเป็นหน้าที่ที่ต้องใช้ทั้งความแข็งแกร่งและความทุ่มเทแรงกายแรงใจมากแค่ไหน แต่คุณพ่อคุณแม่ก็อย่าเผลอคิดว่าตัวเองเป็นยอดมนุษย์ ที่สามารถทำทุกอย่างได้โดยไม่หยุดพัก เพราะความจริงแล้ว การจะยืดระยะความแข็งแกร่งให้ร่างกายและจิตใจตัวเองก็คือ คุณพ่อคุณแม่ควรเคารพเวลาพักผ่อนของตัวเอง ด้วยการพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อถึงเวลาพักก็ควรหยุดคิดเรื่องงาน ใช้การพักผ่อนเป็นรางวัลสำหรับความอดทนและพยายามของตัวเอง เพื่อที่จะได้มีแรงลุกขึ้นมาทำงานและเลี้ยงลูกอย่างมีประสิทธิภาพในวันต่อไป

4. ทำปฏิทินครอบครัว

คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ธุระที่มาจากหน้าที่การงานเข้ามาเบียดบังโอกาสพิเศษหรือวันสำคัญของครอบครัว ดังนั้น แต่ละเดือน คุณพ่อคุณแม่ควรจดนัดหมายหรือวันสำคัญของครอบครัวลงในปฏิทินนัดหมาย เพื่อช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ไม่พลาดวันสำคัญทั้งของตัวเองและคนในครอบครัว

5. อย่าเก็บความเครียดไว้คนเดียว

คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยให้ตัวเองจมอยู่กับปัญหาไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว หรือแม้แต่ความขุ่นข้องหมองใจเล็กๆ น้อยๆ ก็ควรรีบสะสางและกำจัดมันออกจากสมองให้เร็วที่สุด เพราะความเครียด ยิ่งปล่อยไว้นานโดยไม่ได้รับการแก้ไข ก็จะกลายเป็นความเครียดสะสม ที่ส่งผลต่อพฤติกรรม สุขภาพกาย และสุขภาพจิตได้

คุณพ่อคุณแม่จึงควรหาเวลาพูดคุย ปรับทุกข์ ให้กำลังใจ ผลัดกันรับฟังเรื่องทุกข์ร้อนของอีกฝ่าย ช่วยกันรับมือและแก้ไขปัญหา อย่างน้อย เพื่อผ่อนคลายและระบายความเครียดในแต่ละวันลงบ้าง ก็ยังดีกว่าเก็บไว้จนความเครียดส่งผลต่อคุณภาพชีวิตทั้งของตัวเองและคนรอบข้างนะคะ

– อ่านบทความ: งานก็ต้องทำลูกก็ต้องเลี้ยง: 4 วิธีเยียวยาจิตใจในวันที่รู้สึกเหนื่อยล้า

อ้างอิง
parents
proofhub