Yes Day วันนี้ห้ามเซย์โน สร้างจากนิทานเรื่อง Yes Day โดย Amy Krouse Rosenthal (เอมี เคราส์ โรเซินทาล) ที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยเห็นหรือคุ้นเคยชื่อนักแต่งคนนี้จากนิทานเรื่อง ช้อนน้อย และ เป็ด! กระต่าย! ที่มีสำนักพิมพ์นำมาแปลและเผยแพร่เป็นภาษาไทยมาแล้ว
ถ้าคุณพ่อคุณแม่มีเวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์ประมาณชั่วโมงครึ่ง เราอยากแนะนำ Yes Day วันนี้ห้ามเซย์โน เป็นภาพยนตร์ออริจินัลจาก Netflix แนวคอมเมดี้ที่เหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว
Yes Day วันนี้ห้ามเซย์โน จะชวนให้คุณพ่อคุณแม่ตั้งคำถามกับตัวเองว่า เมื่อเรารับบทบาทพ่อแม่แล้ว เราถูกภาระหน้าที่ความรับผิดชอบเปลี่ยนตัวเองไปขนาดไหน และเราเป็นพ่อแม่ในแบบที่ตัวเองอยากเป็นแล้วหรือยัง
เอลิสันสละงานที่รักและชีวิตที่เคยเฮฮามารับตำแหน่งคุณแม่ฟูลไทม์ของลูกๆ สามคน เธออยากเป็นคุณแม่ที่สนิทสนมกับลูก แต่กลายเป็นว่า ในสายตาของลูกๆ เธอกลับเป็นคุณแม่จอมเผด็จการที่ชอบปฏิเสธหรือห้ามลูกไม่ให้ทำตามใจตัวเองอยู่เสมอ
คุณแม่บางคนอาจคิดเหมือนแอลลิสันว่าการตีกรอบ และคอยจัดระเบียบชีวิตลูก คือสิ่งที่สมควรทำ ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงชวนให้ฉุกคิดว่า การกระทำที่มาจากความห่วงใยนี้ เมื่อมากเกินไปก็กลายเป็นสิ่งที่ทำลายความสัมพันธ์ในครอบครัวได้
“ตอนอยู่กับลูกๆ ฉันได้ยินเสียงตัวเอง
แล้วคิดว่า เป็นฉันก็คงไม่อยากอยู่กับตัวเอง”
—เอลิสัน
ส่วนคาร์ลอส ก็เป็นพ่อที่มักเผลอให้ความสำคัญกับงานจนเกือบลืมให้เวลากับครอบครัว ลูกอาจจะรู้สึกว่าเขาเป็นคุณพ่อสายชิล แต่ในขณะเดียวกันเขาก็ชิลและมักจะคล้อยตามเอลิสันทุกอย่าง จนไม่สามารถเป็นที่พึ่งให้กับลูกและครอบครัวได้ พ่อหลายคนก็เป็นเช่นนี้ เพราะคิดว่าตัวเองไม่ถนัดเรื่องการดูแลลูก จึงพยายามเลือกวางตัวเป็นกลาง และปล่อยให้แม่เป็นคนจัดแจงและตัดสินใจเรื่องลูกทุกอย่าง แต่คำว่าครอบครัวคือการทำงานเป็นทีม และหลายครั้ง แม่ก็ต้องการความคิดเห็นของคุณพ่อมาช่วยรักษาความสมดุลของครอบครัวไว้ได้
ส่วนลูกทั้งสามคน ก็มีเอกลักษณ์ ความต้องการ และปัญหาแตกต่างกันไปตามช่วงวัยของตัวเอง
เมื่อความสัมพันธ์ในครอบครัวเริ่มไม่เป็นไปอย่างที่ควรเป็น วันแห่งการเซย์เยส หรือ Yes day จึงเกิดขึ้นปัญหาความสัมพันธ์หนักๆ จะถูกซ่อนไว้ใต้ความตลกขบขันของสถานการณ์ที่เกิดจากคำขอของเด็กๆ ในวันนั้น เช่น การแต่งตัวให้พ่อแม่ หรือ การแข่งกินไอศกรีมขนาดยักษ์ โดยที่พ่อแม่ต้องตอบตกลง เพราะนี่คือวันแห่งการเซย์เยสยังไงล่ะ!
แล้วYes Day ก็สามารถช่วยกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัว ทำให้สมาชิกในครอบครัวเข้าใจถึงความต้องการและปัญหาของกันและกัน คุณพ่อคุณแม่ได้ฝึกลดดีกรีความเผด็จการของตัวเองลง เมื่อเห็นว่าสิ่งที่ลูกขอ ถ้าไม่รีบปฏิเสธเสียก่อนมันก็ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด และยังชวนให้คุณพ่อคุณแม่ย้อนกลับไปดึงเอาความเป็นคนสบายๆ ของตัวเองเหมือนครั้งที่ยังไม่ได้รับบทบาทพ่อแม่กลับมาสร้างชีวิตชีวาให้ตัวเองอีกครั้ง
COMMENTS ARE OFF THIS POST