รู้หรือไม่… การเรียนว่ายน้ำถือเป็นกิจกรรมแรกที่เด็กตัวเล็กๆ สามารถออกกำลังกายได้ทั้งกล้ามเนื้อมัดใหญ่และมัดเล็ก ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับเด็กในวัยเดียวกัน เด็กที่เรียนว่ายน้ำจะคลาน ตั้งไข่ นั่ง ยืน เดินได้เร็วและมั่นคงกว่าเด็กในวัยเดียวกันที่ไม่ได้เรียนว่ายน้ำ
และยังเป็นสถานที่ที่คุณพ่อคุณแม่ก็กอดลูกน้อยลอยตัวไป ว่ายไป ยิ้มหัวเราะร้องเพลงสนุกสนาน จนเราอยากขอโดดลงไปเล่นด้วยเลย
วันนี้เราเลยชวนทุกคนมาลงเล่นน้ำกับเด็กน้อยวัยสี่เดือนที่ Swimming Kids Thailand โรงเรียนสอนว่ายน้ำแห่งเดียวในเมืองไทย ที่ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ
คุณนุก—พฎาวุฒิ เจริญพิทย์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดของ Swimming Kids Thailand อนุญาตให้เรามาเยี่ยมชมสระว่ายน้ำและพบปะเด็กๆ กันที่สาขาเกษตร-นวมินทร์ ซึ่งพอเข้ามาถึง เราก็ได้พบกับพื้นที่จอดรถกว้างขวางและร่มรื่น แบบที่ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออกแค่ไหน ก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับการพาลูกน้อยเดินเข้าไปในตัวอาคารแต่อย่างใด
“เราอยากให้มีร่มเงา คุณพ่อคุณแม่อาจจะจอดรถลงน้ำกับลูกๆ หลายชั่วโมง พอกลับมาขึ้นรถก็ไม่ต้องกลัวว่าอุณหภูมิในรถจะร้อนเกินไป และทุกสาขาก็จะเป็นมาตรฐานเดียวกันแบบนี้ด้วย”
เมื่อเดินเข้าตัวตึก เราจะได้พบกับส่วนรับรองที่สะอาดตาและน่านั่งเล่น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะหรือเคาน์เตอร์ ก็จะถูกทำให้โค้งมน ไม่มีเหลี่ยมหรือมุมแหลมคมที่จะเป็นอันตรายต่อเด็กๆ ส่วนปลั๊กไฟก็จะติดตั้งไว้ในระยะที่เด็กไม่สามารถเอื้อมถึง และทำการปิดรูไว้ เพื่อป้องกันเด็กน้อยเอานิ้วไปแหย่เล่น
ถัดมาจะเป็น ‘ห้องของเล่น’ ที่มีรั้วกั้นสำหรับเล่นของเล่น รถที่ขึ้นไปนั่งขับเล่นได้ และของเล่นชิ้นเล็กชิ้นน้อยอีกหลายชิ้นให้น้องๆ วอร์มอัปร่างกายก่อนลงสระ
“ที่นี่เราจะไม่ให้เด็กและผู้ปกครองลงสระว่ายน้ำก่อนถึงชั่วโมงการเรียนการสอนเด็ดขาดครับ เพื่อป้องกันทุกเหตุสุดวิสัยที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกวินาที”
ก่อนถึงเวลาเรียน ห้องนี้จึงเป็นห้องที่คึกคัก มีเสียงเด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน มีอาหารและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับการเรียนว่ายน้ำเตรียมพร้อมไว้สำหรับยามคับขันเสมอ
และด้วยความที่เป็นสระว่ายน้ำสำหรับเด็กเล็ก Swimming Kids จึงมี ‘ห้องให้นม’ ไว้เป็นสัดส่วน สำหรับคุณแม่ที่ยังให้นมลูกน้อย
ส่วนโซนห้องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า และห้องแต่งตัวซึ่งอยู่ถัดเข้าไปนั้น ก็สะอาดตาไม่แพ้ส่วนอื่นๆ มีน้ำอุ่น ไดร์เป่าผม เบาะเปลี่ยนผ้าอ้อม ซึ่งมีเตรียมไว้มากกว่าจำนวนนักเรียนแต่ละคลาสเสมอ
“เรารับนักเรียนต่อหนึ่งคลาส จำนวนไม่เกิน 7 คน (คลาสละประมาณ 30-45 นาที) เพื่อให้คุณครูดูแลได้ทั่วถึงและปลอดภัย แต่จำนวนห้องน้ำเราจะคำนวณเผื่อไว้ เพราะเมื่อทุกครอบครัวขึ้นจากสระแล้ว จะได้อาบน้ำทันทีโดยไม่ต้องยืนรอ”
หลักสูตร ‘พ่อแม่คือครูอันดับหนึ่งของลูกๆ’
สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 4 เดือน ถึง 9 ขวบ จะใช้หลักสูตรการสอนเดียวกัน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ทาง Swimming Kids และ Five Star Swim Schools—โรงเรียนสอนว่ายน้ำเด็กจากประเทศออสเตรเลียร่วมมือกันปรับให้เข้ากับการเรียนการสอนสำหรับคนไทยโดยเฉพาะ ซึ่งทุกหลักสูตรสามารถเชื่อมโยงกันต่อเนื่อง โดยแบ่งเป็นสองช่วงวัยคือ
หลักสูตรสำหรับทารก: 4 เดือน-ก่อน 3 ขวบ
หลักสูตรสำหรับเด็กเล็ก: 3-9 ขวบ
“หลักสูตรสำหรับทารกจะต้องมีผู้ปกครองลงด้วย เพราะทางกายภาพแล้วเด็กยังไม่เจริญเติบโตเต็มที่ เขาไม่สามารถอยู่ดูแลตัวเองหรืออยู่ในน้ำได้โดยลำพัง ต้องมีผู้ปกครองมาอุ้ม มาช่วย การเรียนการสอนของเราจึงเป็นการสอนที่ให้คุณครูสอนผู้ปกครอง แล้วให้ผู้ปกครองสอนลูกตัวเองอีกที
ส่วนเด็กสามขวบขึ้นไป ระบบสมองกับระบบร่างกายและกล้ามเนื้อจะแข็งแรงพอ สามารถฟังคำสั่งได้ ดังนั้น ครูจะสอนเด็กที่อยู่ในน้ำโดยไม่ต้องมีผู้ปกครอง”
ทั้งหมดนี้น่าจะเป็นเหตุผลที่กระทรวงศึกษาธิการเลือก Swimming Kids ไปทำโปรเจ็กต์เพื่อสอนและส่งเสริมให้เด็กไทยทั่วประเทศ ได้ทำกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ นอกห้องเรียนผ่านทาง ETV (Education Television) ชื่อ “ห้องเรียนของหนู ชุดสอนน้องว่ายน้ำ” เพื่อเป็นตัวแทนในการสอนว่ายน้ำเด็กไทยทั่วประเทศ มีการสอนตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงว่ายน้ำท่าฟรีสไตล์ หรือว่ายน้ำท่าผีเสื้อเป็น ที่สำคัญคือสามารถช่วยเหลือคนที่ตกน้ำได้อย่างถูกวิธีด้วย
สระน้ำที่มี ‘อุโมงค์น้ำพุ’ ให้ลอด กับ ‘ตุ๊กตาเป่าลมลอยฟ้า’ ให้มอง
“ตามปกติแล้ว สระว่ายน้ำสำหรับเด็กมักจะเป็นสระน้ำเกลือ ซึ่งดีต่อผิวเด็ก ไม่ระคายเคืองผิว ไม่ระคายตา และไม่กัดกร่อนฟัน เป็นน้ำที่ควบคุมอุณหภูมิที่ 30-33 องศาฯ ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่รับรองกันว่าจะไม่ทำให้เด็กป่วย แต่ผู้ปกครองลงไปแล้วอาจจะรู้สึกร้อนนิดๆ และต้องอยู่ในร่ม เพื่อป้องกันฝุ่นละออง หรือเวลาฝนตกแดดจ้า ลอยตัวว่ายน้ำนอนหงาย ก็ไม่มีผลต่อการเรียนการสอน”
นี่คือมาตรฐานของสระว่ายน้ำสำหรับเด็กทารกที่ทั่วโลกยอมรับ แต่มากกว่านั้นคือเราเห็นถึงความตั้งใจจริงของ Swimming Kids นั่นคือ ที่นี่มีอุปกรณ์เสริมสำหรับการเรียนว่ายน้ำเยอะเสียจนเรารู้สึกว่านี่มันคือห้องของเล่นในน้ำชัดๆ มีตุ๊กตุ่นตุ๊กตาหลอกล่อ มีอุโมงค์น้ำพุเปิดปิดน้ำให้เล่นตามเพลง แถมบนเพดานยังติดตุ๊กตาเป่าลมห้อยไว้ เพื่อหลอกล่อเด็กน้อยไม่ให้ตกใจเวลาลอยน้ำ ก็ลอยเล่นสบายๆ นับตุ๊กตาไปเพลินๆ
เป็นครูก็ยังต้องเทรน
“ครูของเราต้องเป็นครูที่จบวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือเป็นนักกีฬามาก่อน เคยสอนเด็ก มีประสบการณ์ว่ายน้ำ แล้วเอามาคัด สอบสัมภาษณ์ สอบข้อเขียนเสร็จ และเทรนให้ได้ Certificate จาก Australian Swimming Coaches and Teachers Association (ASCTA) และ Swim Australia ก่อน จึงสามารถเข้าสอนได้ โดยอาจารย์ชาวออสเตรเลียจะบินมาตรวจคุณภาพอีกที”
คัดอาจารย์หลายชั้นขนาดนี้ก็เหมือนว่ายังไม่พอ เพราะระหว่างการเรียนการสอน จะมีทีม QC ไปสังเกตการณ์ว่าคุณครูมีการสอนถูกสอนผิดยังไง แล้วเปิดอบรมเพิ่มเติมเพื่ออัปเดตหลักสูตรอยู่เสมอตลอดปี
คุณครู ลูกน้อย และสิ่งที่ป๊าม้าต้องเข้าใจ
ที่นี่ทุกคลาสจะมีครูสองคนต่อหนึ่งชั้นเรียนเสมอ เพราะ “ครูทุกคนเก่งหมดนะ แต่มันต้องมีการเซฟ มีครูหลักและครูรอง ครูรองจะทำหน้าที่ส่งอุปกรณ์ ช่วยเอนเตอร์เทน หรือสมมติว่ามีเด็กร้องไห้งอแง ครูรองก็จะเข้าไปดูแลเพื่อให้ครูหลักดำเนินการสอนได้เต็มที่ และครูทุกคนจะถูกสอนว่าเวลาอุ้มเด็กคนนึง จะต้องมองเด็กอีกคนไว้ด้วย และจะต้องอยู่ในระยะที่สามารถเข้าถึงตัวเด็กได้ทันที”
พอคลาสต่อไป ครูรองก็จะมาเป็นครูหลัก ครูหลักก็จะมาเป็นครูรอง เพื่อให้ครูทุกคนไม่เหนื่อยจนเกินไป
เราจึงไม่รับเด็กต่อคลาสเรียนเยอะ เพราะถ้าดูแลเด็กไม่ทั่วถึง
ทัศนคติที่เด็กๆ มีต่อน้ำอาจกลายเป็นทางลบไป
“เราเน้นว่าห้ามบังคับเด็ก ถ้าเด็กไม่พร้อม ไม่ต้องให้เขาทำตามเพื่อน ให้พร้อมก่อน ให้คุ้นเคยกับน้ำก่อน พ่อแม่ก็ห้ามบังคับลูกเพราะอยากแข่งขันกับคนอื่น ถ้าวีกนี้ทำไม่ได้ วีกหน้ามันต้องดีขึ้น เช่น ลูกดำน้ำได้ 3 วินาที แต่ลูกคนอื่นดำได้ 5 วินาที ก็ต้องไม่ไปบังคับลูก แต่วีกหน้าต้องทำได้ 4 วินาที ต่อไปเป็น 5 เป็น 6 วินาที เพราะนั่นคือพัฒนาการของเด็กที่ถูกต้อง แต่ถ้าบังคับเด็กจะกลัว พอเขากลัวสนุกแค่ไหน ดีแค่ไหน เด็กก็ไม่เอา
ผู้ปกครองต้องเข้าใจว่าธรรมชาติของเด็กแต่ละคนถูกเลี้ยงดูไม่เหมือนกัน เราสอนผู้ปกครองให้สอนเด็ก เพราะฉะนั้น ผู้ปกครองต้องเข้าใจในจุดนี้”
ที่นี่จึงมี ‘กฎ’ ว่าเด็กวัยก่อนสามขวบ ผู้ปกครองต้องลงน้ำด้วย แต่โตกว่าสามขวบ ผู้ปกครองก็ต้องนั่งรอที่ขอบสระ ห้ามทิ้งเด็กไว้กับครูหรือพี่เลี้ยง เพราะเราต้องการสอนเขาไปพร้อมๆ กัน ให้รู้ถึงความรักความอบอุ่นในครอบครัวด้วย
รู้อย่างนี้แล้ว ครอบครัวไหนสนใจแต่ยังสับสน และงงๆ ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง ไปดูได้ที่ First Class เลย เพราะทางโรงเรียนได้ให้คำแนะนำเพื่อเตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
หรือจะดาวน์โหลดเพลงสำหรับซ้อมร้องกับเด็กๆ ที่บ้านก่อนก็ยังได้ เพราะเขามีเพลงให้ไปฝึกร้องกันที่บ้าน เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ครอบครัว ไม่จำเป็นต้องร้องแค่ในสระว่ายน้ำก็ได้ ที่ Swimming Kids Songs and Lyrics
NO COMMENT