Mark For Future Kindergarten School โรงเรียนอนุบาลเอกดนตรี ที่ไม่ได้มีดีแค่ดนตรีเท่านั้น

เคยลองนึกเล่นๆ ไหมว่าถ้าชีวิตประจำวันของเรามีเสียงดนตรีเป็นแบ็กกราวนด์ประกอบสถานการณ์ต่างๆ ในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง เสียงดนตรีนั้นจะเป็นจังหวะอย่างไร แต่สำหรับเด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาล Mark For Future การมีเสียงเพลงและเสียงดนตรีเป็นแบ็กกราวนด์ประกอบชีวิตประจำวันไม่ใช่เรื่องสมมติ เพราะที่นี่ได้ชื่อชื่อว่าเป็นโรงเรียนเอกอนุบาลดนตรีที่แรกในประเทศไทย!

แต่ก่อนที่คุณพ่อคุณแม่จะเข้าใจผิด คิดว่าเด็กๆ ที่เรียนในโรงเรียนเอกดนตรี จะต้องเรียนต่อเฉพาะทางด้านดนตรีเท่านั้น เพราะที่โรงเรียนอนุบาล Mark For Future เด็กๆ ไม่ได้เรียนแต่วิชาดนตรีเท่านั้น แต่ยังมีวิชาพื้นฐานที่เด็กปฐมวัยควรจะได้เรียนรู้ ผ่านการวัดผลที่เป็นไปตามมาตรฐานกระทรวงศึกษาธิการ ในรูปแบบผสมผสานทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ แต่ทั้งหมดนั้นเกิดขึ้นได้โดยมีดนตรีเป็นตัวช่วยให้การเรียนรู้ของเด็กๆ เป็นไปอย่างมีความสุข

และถึงแม้ที่ผ่านมาโรงเรียนอนุบาล Mark For Future จะมีนักเรียนในระดับชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงอนุบาลสาม แต่ในปีการศึกษา 2564 จะมีการรับสมัครนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาหลักสูตรสองภาษา (Bilingual) เอกดนตรี และมีสอบวัดผลตามหลักสูตรกระทรวงศึกษาธิการเช่นกัน

ความหมายของอนุบาลเอกดนตรี

เสียงดนตรีคือสิ่งมหัศจรรย์สำหรับเด็ก เพราะเมื่อมีเสียงดนตรีดังขึ้น เด็กๆ ก็พร้อมที่จะผงกหัว โยกตัว และปรบมือไปตามจังหวะของเสียงนั้น นั่นทำให้โรงเรียนอนุบาล Mark For Future เลือกใช้ดนตรีเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนการสอน

คำว่าโรงเรียนอนุบาลเอกดนตรีจึงไม่ได้เป็นเพียงชื่อเรียกที่ตั้งขึ้นเพื่อความโก้เก๋เท่านั้น เพราะเด็กๆ ในโรงเรียนอนุบาล Mark For Future ตั้งแต่ระดับชั้นเตรียมอนุบาลไปจนถึงระดับอนุบาลสามจะได้เรียนวิชาดนตรีทุกวัน เด็กๆ จะได้เรียนรู้จากเครื่องดนตรี ไม่ว่าจะเป็นไซโลโฟน อูคูเลเล่ หรือเครื่องดีดสีตีเป่าอื่นๆ

และหลังจากที่นักเรียนได้เรียนเครื่องดนตรีต่างๆ แล้ว จะมีอีกหนึ่งวิชาที่สำคัญคือวิชารวมวง (Band Performance) ซึ่งทำการสอนโดยคุณครูที่มีประสบการณ์ด้านดนตรีและความมีเชี่ยวชาญในการสอนเด็กอย่างแท้จริง

ไม่ใช่แค่เรียนรู้เรื่องดนตรี แต่ดนตรียังเป็นเครื่องมือช่วยเรียนรู้วิชาอื่นๆ

นอกจากเด็กๆ จะได้เรียนดนตรีอย่างเข้มข้น วิชาอื่นๆ ตามหลักสูตรปฐมวัยสองภาษา (ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ) ก็ยังใช้ดนตรีมาเป็นเป็นเครื่องมือช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้วิชาเหล่านั้นอย่างสนุกสนานและมีความสุขมากขึ้น

บรรยากาศในห้องเรียนจึงเป็นภาพของการเรียนรู้ที่สนุกสนาน เมื่อดนตรีถูกนำมาใช้อธิบายเนื้อหายากๆ ให้สนุกและน่าสนใจ ด้วยความเชื่อที่ว่า ‘ถ้าเด็กเรียนรู้อย่างมีความสุข ก็จะเรียนรู้ได้อย่างรวดเร็ว’ บรรยากาศที่สนุกสนานเหล่านี้จึงสร้างขึ้นเพื่อกระตุ้นให้เด็กสนใจเนื้อหาการเรียนมากขึ้น

และไม่ใช่เพียงเป็นสื่อกลางการสอน แต่เสียงดนตรีที่ดังขึ้นจากการเล่นเครื่องดนตรีจริงๆ ในชั้นเรียน ยังมีไว้เพื่อเชื่อมโยงให้เด็กๆ มีสมาธิอยู่กับสิ่งตรงหน้า เราจึงได้เห็นเด็กๆ ในชั้นเรียนนั่งฟังดนตรีกันอย่างสงบ ในระหว่างที่คุณครูกำลังจัดเตรียมอุปกรณ์การสอน และพร้อมที่จะกลับมาโฟกัสเนื้อหาในบทเรียนเมื่อเสียงดนตรีสิ้นสุดลง

เรียนรู้ผ่านของจริง

ไม่ว่าจะเรียนรู้วิชาดนตรี วิชาวิทยาศาสตร์ (Science Lab) วิชาทำอาหาร (Cooking) เด็กๆ จะได้ทำความรู้จัก หยิบจับ และเรียนรู้จากอุปกรณ์จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ที่โรงเรียนจัดเตรียมไว้ให้อย่างเต็มที่ในห้องเรียนกลางแจ้งที่อากาศถ่ายเทสะดวก และวิชาความรู้ที่ได้จากวิชาทำอาหารในครัว เด็กๆ ก็สามารถรับประทานอาหารที่ตัวเองทำสำเร็จได้จริง ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของครูผู้สอน

เพราะแนวคิดที่อยากให้เด็กๆ ฝึกคิดและไม่ยึดติดอยู่กับวิชาการที่ผันแปรไปได้ตลอด แต่การเรียนรู้เพื่อมีกระบวนการคิด การแก้ปัญหา เอาตัวรอด ฝึกวิเคราะห์ และนำไปประยุกต์ใช้ได้ สิ่งเหล่านี้ต้องเกิดจากการที่เด็กๆ ได้ทดลองลงมือทำด้วยตัวเอง

โรงเรียนที่เด็กอนุบาลมีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง

และอีกสิ่งที่ทำให้เราตื่นตาตื่นใจ ก็คือเมื่อได้ก้าวเข้ามาใน ‘ห้องคอนเสิร์ต’ ห้องเรียนที่มีทั้งแสง สี เสียง อลังการเต็มรูปแบบ (แบบที่ไม่น่าเชื่อว่าจะมีอย่างนี้อยู่ในโรงเรียนอนุบาล) เพราะที่ Mark For Future เด็กๆ ตั้งแต่เตรียมอนุบาลไปจนถึงอนุบาลสามที่เรียนจบปีการศึกษา ทุกคนจะได้มีคอนเสิร์ตเป็นของตัวเอง! ตามคอนเซ็ปต์ประจำปี เช่น บอร์ดเวย์ มิวสิคัล โซโล่ หรือแม้แต่การเต้น โดยมีคุณครูคอยช่วยวิเคราะห์และเป็นที่ปรึกษาในการคิดโชว์ให้เด็กๆ

เพราะการแสดงคอนเสิร์ตของตัวเอง จะช่วยให้เด็กๆ มีพัฒนาการด้านความมั่นใจในตัวเอง มีความกล้าแสดงออก ส่งเสริมให้เขากล้าคิดกล้าทำ และกล้าเป็นผู้นำ อีกทั้งยังได้สำรวจว่าตัวเองชอบอะไร มีความสามารถโดดเด่นด้านไหน เพราะ Mark For Future เชื่อเรื่องความแตกต่างของเด็กแต่ละคน คุณครูที่นี่ทุกคนจึงพร้อมที่จะช่วยกันมองหาและสนับสนุนให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ตามความถนัดของตัวเองอย่างเต็มที่

คุณครูผู้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ที่โรงเรียนอนุบาล Mark For Future แต่ละห้องเรียนจะรับเด็กๆ จำนวนไม่เกิน 15 คน ต่อคุณครูประจำชั้นสองคน เพื่อการดูแลเด็กๆ ได้อย่างใกล้ชิดและทั่วถึง

ในส่วนของคุณครูชาวต่างชาติ โรงเรียนก็ให้ความสำคัญกับการใช้คุณครูเจ้าของภาษาที่มีความเชี่ยวชาญในการสอนเด็กๆ โดยเฉพาะ และอยู่ร่วมในการเรียนการสอนเด็กๆ ทุกวิชา เพื่อให้เด็กมีโอกาสเรียนรู้และสื่อสารภาษาอังกฤษได้ตลอดวัน

การประเมินพัฒนาการ 

นอกจากการตรวจสุขภาพร่างกายเด็กๆ แล้ว โรงเรียนอนุบาล Mark For Future ยังการตรวจประเมินด้านพัฒนาการเด็กโดยผู้เชี่ยวชาญไม่ว่าจะเป็นกุมารแพทย์และนักพัฒนาการเด็กโดยเฉพาะ เพื่อให้คุณครูและผู้ปกครองช่วยกันส่งเสริมพัฒนาการให้กับเด็กๆ ได้อย่างเหมาะสมต่อไป

โรงเรียนอนุบาล MARK FOR FUTURE
ระดับชั้นที่เปิดสอน
เตรียมอนุบาล
อนุบาล 1-3
เตรียมเปิดรับนักเรียนในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ในปี 2564
ที่อยู่: 732 ซอยทวีวัฒนากาญจนาภิเษก 15 แขวงทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กรุงเทพมหานคร 10170
ติดต่อ: 061 386 6663
เว็บไซต์: http://mffkindergarten.com

COMMENTS ARE OFF THIS POST