The Apple Tree International Kindergarten โรงเรียนที่มุ่งเน้นการเล่น และสวัสดิภาพของเด็ก

The Apple Tree International Kindergarten

ยามบ่ายที่แสงแดดสุดเจิดจ้า วันนี้เราเดินทางฝ่าลมร้อนมายังซอยสุขุมวิท 26  เพราะเรามีนัดกับโรงเรียนนานาชาติที่แค่ได้ยินชื่อ The Apple Tree International Kindergaten ก็พอจะนึกภาพโรงเรียนที่น่ารัก อบอุ่น และเป็นสถานที่แห่งความสุขของเด็กๆ ที่ได้มาใช้เวลาเรียนรู้อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ 

เนื่องจากทางโรงเรียนมีมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 นอกจากการตรวจ ATK ที่หน้าโรงเรียนแล้ว คุณครูยังนัดให้เราเข้าไปในโรงเรียนหลังจากที่เด็กๆ เลิกเรียนและกลับบ้านกันไปแล้ว เพื่อลดความเสี่ยงของเด็กๆ ให้มากที่สุด

เมื่อเด็กๆ กลับบ้านกันเรียบร้อยแล้ว ก็ได้เวลาที่เราจะแอบย่อง เอ้ย! ได้เข้าไปเดินเยี่ยมโรงเรียนของเด็กๆ โดยมีเจ้าหน้าที่ Admissions ของโรงเรียนช่วยอำนวยความสะดวกและให้ข้อมูลของโรงเรียนกับพวกเราเป็นอย่างดี

การเรียนการสอน ที่เกิดจากคุณครูสังเกตความสนใจของเด็ก

อาคารสีขาวสะอาดตาที่โค้งเว้าสวยงามรับกับสนามหญ้าที่เด็กๆ สามารถเล่นหรือทำกิจกรรมบริเวณนี้ได้อย่างอิสระ ถือว่าเป็นจุดเด่นของโรงเรียนเลยก็ว่าได้

“อาคารของเรามีการออกแบบคู่กับนักการศึกษา เพราะฉะนั้นจุดต่างๆ ที่เห็นไม่ว่าจะเนินตรงนั้น หรือถนนเล็กๆ บริเวณสนามหญ้าล้วนถูกออกแบบและคิดมาแล้วว่าเหมาะสําหรับเด็กเล็ก อย่างกําแพงแทนที่จะเป็นกำแพงสูงก็เป็นกำแพงที่เด็กๆ สามารถมองข้ามออกไปได้ ทำให้เขาไม่รู้สึกถูกห้าม ถูกปิดกั้นจินตนาการของเขา”

  The Apple Tree International Kindergarten เป็นโรงเรียนนานาชาติสำหรับเด็กเล็กที่มีการใช้หลักสูตร Early Years Foundation Stage (EYFS) จากประเทศอังกฤษที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง เพราะการมีเกณฑ์และมาตรฐานที่ชัดเจน รวมถึงเข้าใจในพัฒนาการของเด็กแต่ละช่วงวัย ทำให้วิธีการเรียนการสอนของที่นี่เป็นรูปแบบ play base learning หรือการให้เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านการเล่น โดยสอดแทรกทักษะและความรู้ 7 เรื่องที่สำคัญ ได้แก่

– Personal, Social, and Emotional Development

– Communication and Language

– Physical Development

– Literacy

– Mathematics

– Understanding the world

– Expressive Arts and Design

“โรงเรียนให้ความสำคัญกับคุณภาพการเรียนการสอนเป็นอย่างมาก คุณครูที่นี่จะต้องจบด้านการศึกษา หรือมีคุณวุฒิด้านการสอน เนื่องจากเป็นการเรียนการสอนที่เน้นให้เด็กได้เล่น คุณครูจึงจำเป็นต้องมีความรู้รอบด้านเกี่ยวกับหลักสูตร เพื่อมองหาพัฒนาการของเด็กแต่ละคนผ่านการเล่นนั้นด้วย…

การจัดการเรียนการสอน เกิดจากคุณครูสังเกตว่าความสนใจของเด็กในตอนนั้นเป็นอย่างไร พร้อมกับปรับให้เข้ากับความสนใจ ณ ปัจจุบันให้มากที่สุด ซึ่งคุณครูที่ทําได้ก็ต้องเป็นคนที่รู้วิธีว่าทำอย่างไรถึงเหมาะสมกับเด็ก แล้วจึงค่อยปรับเข้ากับสิ่งที่เราต้องการสอนเขา แน่นอนว่าการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดขอบเขตว่าต้องแค่ในห้องเรียนเท่านั้น อาจจะเป็นด้านนอก ด้านใน หรือตรงไหนก็ได้…

หากมองตามหลักสูตร EYFS แล้ว ทางโรงเรียนจะไม่เน้นให้เด็กๆ ต้องจับปากกาหรือดินสอได้ทันที เพราะว่าเราตระหนักดีว่าทักษะการพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กของเขายังไม่พร้อม ซึ่งการพัฒนาจะได้มาจากการเล่น ไม่ว่าจะเล่นขีดเขียน ขว้างปา หรือลองทำงานบ้าน ทั้งหมดล้วนส่งผลให้เด็กๆ พัฒนากล้ามเนื้อและข้อต่อซึ่งจะช่วยให้เขาพร้อมเขียนหรือจับดินสอได้ในอนาคต ครูมีหน้าที่สังเกตและส่งเสริมเด็กแต่ละคนในด้านการจับดินสอให้เหมาะสมกับช่วงวัย ตามหลัก Pencil Grasp Development โดยภายในห้องเรียนจะมีมุมหัดเขียน และ Mark making เด็กๆจะใช้เวลาในมุมนี้ตามความสนใจในแต่ละวัน

การเรียนภาษาที่มาจากความเข้าใจก่อนเปล่งเสียง

จุดเด่นของโรงเรียนนานาชาติก็คือการให้ความสำคัญของการสื่อสารภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับ The Apple Tree International Kindergaten ที่สร้างสภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้เด็กด้วยคุณครูต่างชาติ ซึ่งไม่ใช่แค่การมุ่งเน้นให้เด็กสื่อสารออกมาได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป ด้วยการพูดให้ได้ยินบ่อยๆ พร้อมกับทำกิจกรรมร่วมด้วย เมื่อเด็กมีความเข้าใจ ก็จะกล้าพูดออกมาในที่สุด

“คุณครูของเราเน้นเรื่อง comunication language คือการฟังและพูดซ้ำๆ จนเกิดความเข้าใจ เราไม่ได้ให้เด็กนั่งเรียนอยู่ที่โต๊ะ แต่เป็นการทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วก็พูดคุยไปด้วยกัน…

เด็กวัยนี้เขาจะยังไม่รู้จักคำศัพท์ในทันที แต่เขาสามารถเชื่อมโยงภาพ เสียง และความรู้สึกได้ บวกกับการนำ British Sign Language (BSL) มาร่วมเป็นส่วนเชื่อมการใช้ภาษาที่บ้านและโรงเรียน ทำให้เด็กๆมีความเข้าใจภาษาก่อนพัฒนาเป็นเรื่องของความพร้อมและความกล้าที่จะพูดออกมา”

จินตนาการที่ได้จากการเล่นของเล่นปลายเปิด

 อีกหนึ่งจุดเด่นที่น่าสนใจของที่นี้ก็คือของเล่น Loose parts หรือของเล่นปลายเปิด คือ ของเล่นที่ได้มาจากธรรมชาติ หรือวัสดุต่างๆที่ไม่ได้มีการระบุถึงหน้าตา สี เพศ ลักษณะใดๆ โดยสาเหตุที่ทำแบบนี้ก็เพื่อเป็นการเปิดกว้างจินตนาการให้เด็กๆ สามารถคิดไปทางไหนก็ได้ อาจจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ หรือแม้แต่ท่าทางอารมณ์ของของเล่น ณ ตอนนั้น

ความภาคภูมิใจในตนเองเป็นสิ่งสำคัญ

นอกจากจะมุ่งเน้นให้เด็กๆ ได้เล่นสนุก ปลดปล่อยจินตนาการอย่างเต็มที่แล้ว The Apple Tree International Kindergaten ยังให้ความสำคัญกับ self-confident หรือความภาคภูมิใจในตนเองของเด็กๆ เป็นอย่างยิ่ง

  “เด็กวัยนี้ควรได้รู้จักความภาคภูมิใจในตนเอง ความภาคภูมิใจในการตัดสินใจของตนเอง และผลของการกระทําของตนเอง การเรียนรู้จึงต้องเน้นพื้นฐานด้านสังคมอารมณ์และจิตใจ โดยการส่งเสริมให้เขามี self-awareness เพราะฉะนั้นหากเขาอยากทำอะไรคุณครูจะคอยสนับสนุน เช่น เด็กๆ อยากเททรายจากภาชนะหนึ่งไปสู่ภาชนะหนึ่ง คุณครูก็มีหน้าที่ต้องหาภาชนะที่แตกต่างมาเสริมเพื่อให้เด็กได้เรียนรู้การเคลื่อนไหวของทรายมากขึ้น หรืออะไรก็ตามที่เป็นการส่งเสริมความสนใจของเด็ก แทนที่จะไปปิดกั้น

อย่างที่สอง โรงเรียนเป็นสถานที่ที่เด็กหลายคนอยู่รวมกัน เขาจะต้องเรียนรู้ที่จะจัดการอารมณ์และความรู้สึกของตัวเองโดยโรงเรียนจะไม่มีการบังคับให้เด็กๆ แชร์ของเล่นกัน เพราะเรารู้ว่าในช่วงวัยนี้ การรู้สึกเป็นเจ้าของเป็นเรื่องที่ดี เพราะฉะนั้นการที่เด็กจะเลือกแบ่งของเล่นให้ใคร ล้วนเกิดจากการสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนที่เขาเจอหน้ากันบ่อยๆ จึงอยากจะแบ่งปันให้

นอกจากนี้เรายังเชื่ออีกด้วยว่า หากเด็กทุกคนได้รับการปฏิบัติว่าตัวเขามีคุณค่าในแบบตนเอง ไม่จำเป็นที่จะต้องเหมือนใคร ผสมผสานกับความเอาใจใส่ดูแลด้วยความรักและความอบอุ่น เด็กย่อมเติบโต มีความสุข พร้อมที่จะเรียนรู้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”

โรงเรียนยังมีกิจกรรมน่ารักๆ อย่าง Rainbow Awards ที่มีไว้เพื่อช่วยส่งเสริมและสร้างแรงบันดาลใจเชิงบวก เพื่อกระตุ้นให้เด็กๆ ทำตามเป้าหมาย และที่สำคัญคือกิจกรรมนี้ไม่ได้มีขึ้นเพื่อให้เด็กแข่งขันกับคนอื่น แต่มีเพื่อให้เขาได้พัฒนาตนเองต่อไปเรื่อยๆ

ความปลอดภัยและสวัสดิภาพเป็นที่หนึ่ง

“สิ่งที่ทางโรงเรียนให้ความสําคัญไม่แพ้กันเลยคือเรื่องสวัสดิภาพของเด็ก คุณพ่อคุณแม่สามารถมั่นใจได้ว่าลูกจะอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มาตรการ Safeguarding ที่โรงเรียนใช้สามารถยกตัวอย่าง เช่นเรื่องของการคัดสรรพนักงาน ที่จะมีการตรวจสอบประวัติส่วนตัว ประวัติอาชญากรรม รวมถึงตรวจสอบว่าเคยมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมาก่อนหรือเปล่า และลาออกจากที่ทำงานเก่าด้วยเหตุผลอะไร ทางโรงเรียนจะมีการอบรมคุณครูและบุคลากรทุกต้นเทอมเกี่ยวกับมาตรการ Safeguarding เพราะฉะนั้นทุกคนที่อยู่รอบๆ เด็กจะรู้ว่าพฤติกรรมไหนควรและไม่ควรที่จะปฏิบัติกับเด็ก  และ สิ่งไหนที่อาจจะทําให้เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย ด้านต่อมาคือมาตรการ whistle blowing โรงเรียนเปิดโอกาสให้พนักงานสามารถรายงานความกังวลใจหากรู้สึกไม่มั่นใจหรือเห็นความผิดปกติในตัวบุคลากรท่านอื่น

ส่วนสุดท้ายคือเราจะไม่อนุญาตให้คุณครูอยู่สองต่อสองกับเด็กเพื่อไม่เปิดโอกาสให้มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น การดูและเด็กเล็ก ความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญมาก ดังนั้นคนที่จะเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดก็ต้องมีคุณสมบัติที่พร้อมด้วย

  นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว The Apple Tree International Kindergaten ยังเน้นในเรื่องความสะอาดของห้องเรียน ของเล่น และพื้นที่ต่างๆ ที่แต่เดิมก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์ของโควิด-19 เข้ามาจึงทำ bubble and seal แยกเด็กเล็กและเด็กโตไม่ให้ใช้สถานที่หรือห้องพร้อมกัน และเมื่อเด็กกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งใช้เสร็จแล้ว แม่บ้านก็จะคอยทําความสะอาดก่อนให้เด็กอีกกลุ่มเข้ามาใช้ต่อ โดยรวมแล้วในหนึ่งวันจะสลับทําประมาณสี่ครั้ง ก่อนจบด้วยเครื่องฉายแสงยูวีเพื่อฆ่าเชื้อทุกห้อง และของเล่นทุกชิ้น จึงการันตีได้ถึงความสะอาดและความปลอดภัยอย่างเต็มเปี่ยม

 

 

 

โรงเรียน The Apple Tree International Kindergaten
รับนักเรียนอายุตั้งแต่: Toddler-Reception  (อายุ 18 เดือน – 5 ปี)

ค่าธรรมเนียมการศึกษา
1 ปีการศึกษา มี 3 ภาคเรียน
ปีการศึกษาละ ประมาณ 226,466 – 483,000บาท

ที่อยู่: 54 ซอยอรรถกระวี แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กรุงเทพมหานคร 10110
เบอร์โทร: 085-333-5558

email: Admissions@appletreekindergarten.com
website: https://appletreekindergarten.com/
facebook: https://www.facebook.com/theappletreekindergarten/


Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

COMMENTS ARE OFF THIS POST